คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
บัญชีระบุพยาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 161 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3949/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอเลื่อนคดีโดยไม่มีมูลเหตุ และผลของการไม่ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาล
การนัดสืบพยานโจทก์ตามที่ทนายจำเลยขอเลื่อนนั้น ทนายจำเลยเป็นผู้กำหนดขอให้ศาลชั้นต้นทำการสืบพยานโจทก์เอง และตามคำร้องขอเลื่อนคดีของทนายจำเลยดังกล่าว ได้อ้างเหตุว่าติดว่าความในคดีอื่น ซึ่งปรากฏว่าในคดีนั้นคู่ความมิได้แต่งตั้งทนายจำเลยคดีนี้เป็นทนายความ ดังนี้การขอเลื่อนคดีของจำเลยจึงปราศจากมูลเหตุที่จะอ้าง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 บัญญัติห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานใด เว้นแต่คู่ความฝ่ายที่อ้างพยานหลักฐานได้แสดงความจำนงที่จะอ้างอิงพยานหลักฐานนั้นดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 88 และ 90 ดังนี้เมื่อจำเลยไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานต่อศาลก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่าสามวัน ตามมาตรา 88 จำเลยจึงไม่อาจนำพยานหลักฐานหรือตนเองเข้าสืบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อนุญาตพยานเพิ่มเติมหลังขาดนัดพิจารณา และการยื่นบัญชีระบุพยานเกินกำหนด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา แต่ก็อนุญาตให้จำเลยนำพยานที่ได้อ้างอิงไว้ตามบัญชีระบุพยานที่ยื่นต่อศาลไว้โดยถูกต้องตามมาตรา 88 วรรคแรกแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเข้าสืบ ส่วนพยานที่อ้างอิงไว้ตามบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมที่ยื่นต่อศาลโดยฝ่าฝืนต่อมาตรา 88 วรรคสอง ไม่อนุญาตให้จำเลยนำเข้าสืบ โดยอ้างเหตุผลแห่งการไม่รับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมตามเหตุผมที่บัญญัติไว้ในมาตรา 88 วรรคสาม ดังนี้ ศาลชั้นต้นมิได้ดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างคดีขาดนัดพิจารณาตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการพิจารณาคดีโดยขาดนัด การที่อนุญาตให้จำเลยนำพยานบางปากเข้าสืบก็ดี และการที่ไม่รับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมตลอดจนไม่อนุญาตให้จำเลยนำพยานที่อ้างอิงไว้ ตามบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมดังกล่าวเข้าสืบก็ดี ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและมีคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยพยานหลักฐานจำเลยจะอุทธรณ์ฎีกาขอให้พิจารณาคดีใหม่โดยอ้างว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดพิจารณาไม่ได้
จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมต่อศาลเมื่อล่วงเลยระยะเวลาตามมาตรา 88 วรรคสองแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแล้ว โดยมิได้อ้างเหตุแห่งการที่ไม่อาจยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมภายในระยะเวลาตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 88 วรรคสาม จึงชอบที่จะไม่รับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม ของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1471/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมหลังกำหนด & ผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณาแต่ก็อนุญาตให้จำเลยนำพยานที่ได้อ้างไว้ตามบัญชีระบุพยานที่ยื่นต่อศาลไว้โดยถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 88 วรรคแรก เข้าสืบ ส่วนพยานที่อ้างไว้ตามบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมที่ยื่นต่อศาลโดยฝ่าฝืนต่อ มาตรา 88 วรรคสองไม่อนุญาตให้จำเลยนำเข้าสืบโดยอ้างเหตุผลแห่งการไม่รับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมตามเหตุผลที่บัญญัติไว้ในมาตรา 88 วรรคสาม ดังนี้ ศาลชั้นต้นมิได้ดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างคดีขาดนัดพิจารณาตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการพิจารณาคดีโดยขาดนัด แต่ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและมีคำสั่งตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยพยานหลักฐานจำเลยจะอุทธรณ์ฎีกาขอให้พิจารณาใหม่ โดยอ้างว่าจำเลยมิได้จงใจขาดนัดพิจารณาไม่ได้ จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมต่อศาลเมื่อล่วงเลยระยะเวลาตามมาตรา 88 วรรคสองแล้ว โดยมิได้อ้างเหตุแห่งการที่ไม่อาจยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมภายในระยะเวลาตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 88 วรรคสาม จึงชอบที่จะไม่รับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4233/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานโดยไม่ต้องยื่นบัญชีระบุพยานล่วงหน้า และการพิจารณาพยานจากภาพถ่ายทอดสด
โจทก์ฟ้องจำเลยรับสารภาพและโจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานในวันเดียวกัน ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ในวันนั้นโดยจดรายงานกระบวนพิจารณาว่าจำเลยแถลงว่าเมื่อรับสารภาพแล้วขอให้สืบพยานโจทก์ไปได้เลย และเมื่อศาลให้จำเลยดูบัญชีระบุพยานของโจทก์ จำเลยแถลงไม่คัดค้าน ซึ่งศาลชั้นต้นเห็นว่าเพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดคดีนี้เป็นไปโดยรวดเร็วตามความประสงค์ของจำเลยทั้งเห็นว่าไม่ทำให้เสียความยุติธรรม ไม่จำต้องรอเวลาให้โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบ 3 วันตามกฎหมายจึงอนุญาตให้สืบพยานโจทก์ไปได้ดังนี้ถือได้ว่าศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้โจทก์สืบพยานโดยไม่ต้องยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยาน 3 วันแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87, 88
ได้มีการถ่ายทอดการพิจารณาคดีโดยโทรทัศน์วงจรปิดปรากฏว่าพยานโจทก์ส่วนใหญ่เบิกความถึงข้อเท็จจริงที่พยานแต่ละคนได้รู้เห็นมาโดยลำพัง หาได้เกี่ยวข้องกับพยานอื่น คงมีแต่พยานโจทก์สามปากที่เบิกความในเรื่องเดียวกัน หากพยานโจทก์สองปากที่เบิกความภายหลังได้ดูการถ่ายทอดการพิจารณาทางโทรทัศน์ ก็อาจทำให้คำของพยานสองปากนี้ตอนที่เกี่ยวกับคำพยานปากก่อนไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือได้ แต่พยานโจทก์สองปากนี้มิได้เป็นพยานที่มีความสำคัญมากนัก แม้ไม่รับฟังพยานโจทก์สองปากนี้ โจทก์ก็ยังมีพยานอื่นที่จะฟังประกอบคำรับสารภาพของจำเลย จึงลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4233/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบพยานโดยไม่ต้องยื่นบัญชีระบุพยานล่วงหน้า และผลกระทบจากการถ่ายทอดการพิจารณาคดี
โจทก์ฟ้องจำเลยรับสารภาพและโจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานในวันเดียวกันศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ในวันนั้นโดยจดรายงานกระบวนพิจารณาว่าจำเลยแถลงว่าเมื่อรับสารภาพแล้วขอให้สืบพยานโจทก์ไปได้เลยและเมื่อศาลให้จำเลยดูบัญชีระบุพยานของโจทก์ จำเลยแถลงไม่คัดค้านซึ่งศาลชั้นต้นเห็นว่าเพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดคดีนี้เป็นไปโดยรวดเร็วตามความประสงค์ของจำเลยทั้งเห็นว่าไม่ทำให้เสียความยุติธรรม ไม่จำต้องรอเวลาให้โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบ 3 วันตามกฎหมายจึงอนุญาตให้สืบพยานโจทก์ไปได้ดังนี้ถือได้ว่าศาลชั้นต้นได้อนุญาตให้โจทก์สืบพยานโดยไม่ต้องยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยาน 3 วันแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87,88 ได้มีการถ่ายทอดการพิจารณาคดีโดยโทรทัศน์วงจรปิดปรากฏว่าพยานโจทก์ส่วนใหญ่เบิกความถึงข้อเท็จจริงที่พยานแต่ละคนได้รู้เห็นมาโดยลำพัง หาได้เกี่ยวข้องกับพยานอื่นคงมีแต่พยานโจทก์สามปากที่เบิกความในเรื่องเดียวกันหากพยานโจทก์สองปากที่เบิกความภายหลังได้ดูการถ่ายทอดการพิจารณาทางโทรทัศน์ ก็อาจทำให้คำของพยานสองปากนี้ตอนที่เกี่ยวกับคำพยานปากก่อนไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือได้แต่พยานโจทก์สองปากนี้มิได้เป็นพยานที่มีความสำคัญมากนักแม้ไม่รับฟังพยานโจทก์สองปากนี้ โจทก์ก็ยังมีพยานอื่นที่จะฟังประกอบคำรับสารภาพของจำเลยจึงลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2736/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีใหม่และการใช้บัญชีระบุพยานเดิม เมื่อศาลอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การใหม่
หากศาลมีคำสั่งอนุญาตให้พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209 วรรคแรก แล้วกระบวนพิจารณาที่ให้ถือว่าเป็นอันเพิกถอนไปในตัวก็มีคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลโดยคู่ความขาดนัด คำพิพากษาหรือ คำสั่งอื่น ๆของศาลสูงในคดีเดียวกันนั้น และวิธีการบังคับคดีที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เท่านั้นหาได้ให้เพิกถอน กระบวนพิจารณาเช่นที่โจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้ก่อนแล้วไม่บัญชีระบุพยานเดิมของโจทก์จึงยังคงอยู่และถือว่าโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิขอระบุพยานเพิ่มเติมได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2736/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีใหม่ตามมาตรา 209 ว.พ.พ. ไม่กระทบกระบวนพิจารณาเดิม เช่น การยื่นบัญชีระบุพยาน
หากศาลมีคำสั่งอนุญาตให้พิจารณาคดีใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 209 วรรคแรก แล้วกระบวนพิจารณาที่ให้ถือว่าเป็นอันเพิกถอนไปในตัวก็มีคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลโดยคู่ความขาดนัดคำพิพากษาหรือ คำสั่งอื่นๆของศาลสูงในคดีเดียวกันนั้น และวิธีการบังคับคดีที่ได้ดำเนินการไปแล้วเท่านั้นหาได้ให้เพิกถอน กระบวนพิจารณาเช่นที่โจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้ก่อนแล้วไม่บัญชีระบุพยานเดิมของโจทก์จึงยังคงอยู่และถือว่าโจทก์ได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิขอระบุพยานเพิ่มเติมได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2356-2357/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ดุลพินิจศาลแรงงานในการรับบัญชีระบุพยานหลังจำเลยสืบพยานไปแล้ว และการบังคับใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งโดยอนุโลม
การที่อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 29 ออกข้อกำหนดศาลแรงงาน ว่าด้วยการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลแรงงาน ข้อ 10 นั้น'เป็นกรณีที่ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานออกข้อกำหนดให้ ศาลแรงงานกลางใช้ ดุลพินิจเลือกดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างหนึ่งอย่างใดก็ได้ตามที่เห็นสมควรเพื่อให้การดำเนินกระบวนพิจารณาบรรลุผลตามเจตนารมณ์ดังกล่าว หาใช่เป็นข้อกำหนดบังคับให้คู่ความถือ ปฏิบัติโดยที่ศาลแรงงานกลาง
มิได้มีคำสั่งไม่ เมื่อศาลแรงงานกลางมิได้มีคำสั่งตามข้อกำหนดดังกล่าว การยื่นบัญชีระบุพยานจำต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งซึ่งนำมาใช้บังคับโดยอนุโลม การที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ ยื่นบัญชีระบุพยาน หลังจากจำเลยซึ่งนำสืบก่อนสืบพยานไปบ้างแล้วนั้น เป็นการใช้ดุลพินิจสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2356-2357/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจศาลแรงงานในการยื่นบัญชีระบุพยาน และการรับฟังพยานหลักฐาน
การที่อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางอาศัยอำนาจตามความในพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ.2522มาตรา 29ออกข้อกำหนดศาลแรงงาน ว่าด้วยการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลแรงงาน ข้อ10นั้น'เป็นกรณีที่ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานออกข้อกำหนดให้ ศาลแรงงานกลางใช้ ดุลพินิจเลือกดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างหนึ่งอย่างใดก็ได้ตามที่เห็นสมควรเพื่อให้การดำเนินกระบวนพิจารณาบรรลุผลตามเจตนารมณ์ดังกล่าวหาใช่เป็นข้อกำหนดบังคับให้คู่ความถือ ปฏิบัติโดยที่ศาลแรงงานกลางมิได้มีคำสั่งไม่ เมื่อ ศาลแรงงานกลางมิได้มีคำสั่งตามข้อกำหนดดังกล่าว การยื่นบัญชีระบุพยานจำต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งซึ่งนำมาใช้บังคับโดยอนุโลม การที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ ยื่นบัญชีระบุพยาน หลังจากจำเลยซึ่งนำสืบ ก่อนสืบพยานไปบ้างแล้วนั้น เป็นการใช้ดุลพินิจสั่งตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 87(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 167/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุพยานในบัญชีระบุพยาน: การระบุตำแหน่งเพียงพอหรือไม่?
จำเลยยื่นบัญชีระบุพยานระบุตำแหน่งของพยานโดยประสงค์จะอ้างบุคคลที่ดำรงตำแหน่งในขณะนั้นเป็นพยาน ถือได้ว่าจำเลยยื่นบัญชีระบุพยานโดยระบุชื่อและที่อยู่ของพยานที่ประสงค์จะอ้างเป็นพยานของจำเลยแล้ว บัญชีระบุพยานของจำเลยดังกล่าวจึงชอบด้วยกฎหมาย.
of 17