คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประกันหนี้

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 109 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1536/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำนองประกันหนี้: สิทธิบังคับคดีจากทรัพย์จำนองเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระ
การบังคับคดีต้องอาศัยคำพิพากษาเป็นหลัก เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ค้ำประกันหนี้ด้วยทรัพย์ที่จำนองไว้กับโจทก์ และโจทก์ก็ได้ฟ้องบังคับจำนองกับจำเลยที่ 2 ด้วย ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินแก่โจทก์ ถ้าจำเลยที่ 1 ไม่ชำระ ก็ให้จำเลยที่ 2ไถ่จำนองเต็มจำนวนหนี้ที่จำเลยที่ 1 จะต้องชำระ และหากบังคับจำนองขายทรัพย์ที่จำนองได้ไม่พอชำระหนี้ก็ให้โจทก์ยึดทรัพย์อื่นของจำเลยที่ 1 ขายใช้หนี้ได้จนครบ ดังนี้ เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่ชำระหนี้ จำเลยที่ 2 ผู้จำนองเป็นประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 จึงต้องไถ่จำนองเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อปัดป้องมิให้ตนต้องถูกบังคับจำนอง และเมื่อจำเลยที่ 2 ไม่ชำระหนี้หรือไม่ไถ่จำนองก็ต้องถูกบังคับจำนองขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองตามคำพิพากษา โจทก์จึงมีสิทธิยึดทรัพย์ที่จำนองเพื่อขายทอดตลาดได้ จำเลยที่ 2 จะอ้างสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 688, 689, 690 ว่าด้วยค้ำประกันมาใช้เป็นประโยชน์แก่ตนหาได้ไม่ มิฉะนั้นแล้วบทบัญญัติในลักษณะจำนองดังกล่าวแล้วก็จะไร้ผลและผิดหลักการจำนองเป็นประกันหนี้อันบุคคลอื่นจะต้องชำระ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1536/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำนองประกันหนี้: สิทธิโจทก์บังคับคดีจำนองได้ก่อน แม้จำเลยที่ 1 ยังไม่ถูกบังคับคดี
การบังคับคดีต้องอาศัยคำพิพากษาเป็นหลัก เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ค้ำประกันหนี้ด้วยทรัพย์ที่จำนองไว้กับโจทก์ และโจทก์ก็ได้ฟ้องบังคับจำนองกับจำเลยที่ 2 ด้วย ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินแก่โจทก์ ถ้าจำเลยที่ 1 ไม่ชำระ ก็ให้จำเลยที่ 2 ไถ่จำนองเต็มจำนวนหนี้ที่จำเลยที่ 1 จะต้องชำระ และหากบังคับจำนองขายทรัพย์ที่จำนองได้ไม่พอชำระหนี้ก็ให้โจทก์ยึดทรัพย์อื่นของจำเลยที่ 1 ขายใช้หนี้ได้จนครบ ดังนี้ เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่ชำระหนี้ จำเลยที่ 2 ผู้จำนองเป็นประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 จึงต้องไถ่จำนองเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อปัดป้องมิให้ตนต้องถูกบังคับจำนอง และเมื่อจำเลยที่ 2 ไม่ชำระหนี้ หรือไม่ไถ่จำนอง ก็ต้องถูกบังคับจำนองขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองตามคำพิพากษา โจทก์จึงมีสิทธิยึดทรัพย์ที่จำนองเพื่อขายทอดตลาดได้ จำเลยที่ 2 จะอ้างสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 688,689,690 ว่าด้วยค้ำประกันมาใช้เป็นประโยชน์แก่ตนหาได้ไม่ มิฉะนั้นแล้วบทบัญญัติในลักษณะจำนองดังกล่าวแล้วก็จะไร้ผลและผิดหลักการจำนองเป็นประกันหนี้อันบุคคลอื่นจะต้องชำระ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1536/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำนองประกันหนี้: สิทธิโจทก์บังคับคดีจำนองเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระ ผู้จำนองต้องรับผิดตามคำพิพากษา
การบังคับคดีต้องอาศัยคำพิพากษาเป็นหลัก. เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ค้ำประกันหนี้ด้วยทรัพย์ที่จำนองไว้กับโจทก์. และโจทก์ก็ได้ฟ้องบังคับจำนองกับจำเลยที่ 2ด้วย. ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้เงินแก่โจทก์. ถ้าจำเลยที่ 1 ไม่ชำระ. ก็ให้จำเลยที่ 2ไถ่จำนองเต็มจำนวนหนี้ที่จำเลยที่ 1 จะต้องชำระ. และหากบังคับจำนองขายทรัพย์ที่จำนองได้ไม่พอชำระหนี้ก็ให้โจทก์ยึดทรัพย์อื่นของจำเลยที่ 1 ขายใช้หนี้ได้จนครบ. ดังนี้ เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่ชำระหนี้. จำเลยที่2 ผู้จำนองเป็นประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 จึงต้องไถ่จำนองเพื่อชำระหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อปัดป้องมิให้ตนต้องถูกบังคับจำนอง. และเมื่อจำเลยที่ 2 ไม่ชำระหนี้.หรือไม่ไถ่จำนอง.ก็ต้องถูกบังคับจำนองขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองตามคำพิพากษา. โจทก์จึงมีสิทธิยึดทรัพย์ที่จำนองเพื่อขายทอดตลาดได้. จำเลยที่ 2 จะอ้างสิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 688,689,690 ว่าด้วยค้ำประกัน.มาใช้เป็นประโยชน์แก่ตนหาได้ไม่. มิฉะนั้นแล้วบทบัญญัติในลักษณะจำนองดังกล่าวแล้วก็จะไร้ผลและผิดหลักการจำนองเป็นประกันหนี้อันบุคคลอื่นจะต้องชำระ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 747/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหนี้มีประกันตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย ต้องมีทรัพย์สิทธิเหนือทรัพย์สินลูกหนี้ การยึดโฉนดหรือระบุทรัพย์ในสัญญาไม่ถือเป็นประกัน
เจ้าหนี้มีประกันตามความหมายของมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 นั้น ต้องเป็นเจ้าหนี้ที่มีทรัพย์สิทธิเหนือทรัพย์สินของลูกหนี้ในทางจำนอง จำนำ หรือมีสิทธิยึดหน่วงหรือมีบุริมสิทธิที่บังคับได้ทำนองเดียวกับผู้รับจำนำ
การที่โจทก์เจ้าหนี้เพียงแต่ยึดโฉนดไว้ โดยไม่ได้ไปทำจำนองกันโดยถูกต้อง และเครื่องจักรที่ระบุไว้ในสัญญานั้นจำเลยลูกหนี้ก็ยังคงครอบครองใช้สอยอยู่โดยไม่ได้ส่งมอบให้โจทก์เจ้าหนี้ยึดไว้แต่ประการใด ดังนี้ โจทก์เจ้าหนี้ย่อมไม่ใช่เจ้าหนี้ผู้มีประกันตามความหมายในมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 418/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็คเพื่อประกันหนี้ แม้จะมีการขายฝาก/จำนองทรัพย์แล้ว ยังถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
เดิมจำเลยเป็นหนี้ค่าซื้อน้ำมันจากโจทก์ และได้ออกเช็คไม่มีเงินให้ โจทก์จึงไปแจ้งความต่อตำรวจ แล้วจำเลยได้ทำสัญญาไว้กับโจทก์ว่าจะใช้หนี้ทั้งหมดให้ โดยจะขายฝากทรัพย์ให้ กับผ่อนชำระเงินจนกว่าจะครบ และออกเช็คให้โจทก์ใหม่เพื่อเป็นประกันว่าจำเลยจะไม่บิดพลิ้ว ไม่ชำระหนี้ตามสัญญา โจทก์ถอนคำร้องทุกข์ ต่อมาจำเลยผิดสัญญาในการผ่อนชำระหนี้อีก โจทก์นำเช็คไปขึ้นเงินธนาคาร ๆ ปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยย่อมมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1975/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินเป็นประกันหนี้ การแจ้งการครอบครอง ส.ค.1 ไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะการครอบครอง และสิทธิในการเรียกคืน
กู้เงิน ทำหนังสือกู้กันเองตกลงให้ผู้ให้กู้ ครอบครองที่นาไว้เป็นประกัน และทำต่างดอกเบี้ย การที่ผู้ให้กู้เอาที่นานั้นแจ้งการครอบครองแบบ ส.ค. 1 ว่าเป็นของตนเสียนั้น ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการบอกกล่าวแสดงเจตนาเปลี่ยนลักษณะแห่งการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381
ผู้ให้กู้รับมอบนาพิพาทอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ไว้เบี้ยประกันหนี้และทำต่างดอกเบี้ยโดยตกลงกันเองมิได้ทำให้ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยการประกันด้วยทรัพย์ ย่อมไม่มีผลทำให้เกิดทรัพย์สิทธิเหนือนาพิพาทอันจะทำให้มีอำนาจยึดหน่วงนาพิพาทตามประมวลกฎหมายแห่งและพาณิชย์มาตรา 241 วรรค 2 ผู้ให้กู้ต้องคืนนาพิพาทให้ผู้กู้
ผู้กู้เป็นโจทก์ฟ้องผู้ให้กู้ขอให้รับชำระหนี้ 280 บาทและคืนที่นาที่มอบไว้เป็นประกันและทำต่างดอกเบี้ยตามสัญญาที่ทำกันเอง ผู้ให้กู้ให้การว่า หนี้จำนวน 1,000 บาท แต่ไม่ได้ฟ้องแย้งเข้ามา ศาลคงบังคับให้ผู้กู้ชำระหนี้เท่าที่กล่าวในฟ้อง ส่วนจำนวนหนี้ยังค้างอยู่เป็นเรื่องที่ผู้ให้กู้จะต้องไปว่ากล่าวเอากับผู้กู้เพื่อให้ชำระจนสิ้นเชิงในฐานะเจ้าหนี้สามัญตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 214 เป็นอีกเรื่องต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 961/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำนำเรือยนต์เป็นประกันหนี้ การบังคับคดีและการได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่น
จำเลยกู้เงินผู้ร้องไปโดยนำเรือยนต์(ขนาด 3 ตัน) มามอบให้ผู้ร้องยึดถือไว้เป็นประกันการชำระหนี้ แล้วไม่มีเรือใช้ จึงเช่าเรือไปจากผู้ร้อง ต้องถือว่าจำเลยครอบครองเรือแทนผู้ร้องในฐานะเป็นผู้เช่า ย่อมเป็นการจำนำตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 747
คำร้องบรรยายไว้แล้วว่า จำเลยได้มอบเรือยนต์ให้ผู้ร้องยึดถือเพื่อเป็นประกันการชำระหนี้ผู้ร้อง ถือว่าผู้ร้องอ้างสิทธิจำนำแล้ว
สิทธิของผู้ร้องผู้รับจำนำจะเรียกว่าบุริมสิทธิดังที่ผู้ร้องเรียกในคำร้องหรือไม่ก็ตาม เมื่อเห็นความมุ่งหมายของผู้ร้องได้ว่าประสงค์จะขอรับชำระหนี้ของตนให้ครบถ้วนก่อนเจ้าหนี้อื่น และคำขอนี้ก็มีมาตรา 758 สนับสนุนอยู่แล้ว ศาลก็ย่อมมีคำสั่งให้ผู้ร้องได้รับชำระหนี้จากเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนำนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่นได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 490/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยินยอมมอบทรัพย์คืนหลังทำสัญญากู้ ย่อมไม่ถือเป็นการจำนำทรัพย์เพื่อประกันการชำระหนี้
จำเลยกู้เงินโจทก์และในสัญญากู้มีข้อความด้วยว่า จำเลยได้นำโคมาจำนำไว้เมื่อทำสัญญากู้เงินกันแล้วโจทก์ได้ยินยอมมอบโคกลับคืนไปสู่การครอบครองของจำเลยแม้จำเลยจะเคยนำกลับไปให้โจทก์บ้างเป็นครั้งคราว แต่ผลที่สุดโจทก์ก็ยินยอมมอบคืนแก่จำเลยอีกเช่นนี้ ย่อมถือว่าจำเลยหาได้มอบโคไว้เป็นประกันการชำระหนี้ตามความหมายในลักษณะจำนำตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 349 ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 513/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยักยอกทรัพย์จากประกันหนี้: การโอนโฉนดโดยไม่ได้รับความยินยอมของผู้ให้ยืม
เอาโฉนดที่ดินที่เขามอบให้ไว้เป็นประกันหนี้ไปโอนขายย่อมถือได้ว่า ทุจริตเบียดบังเอาทรัพย์ที่เขามอบหมายไว้ไปผิดความประสงค์ของผู้เป็นเจ้าของ เป็นความผิดฐานยักยอกตาม มาตรา 314
จำเลยแสดงตนว่า เป็นผู้รับมอบอำนาจให้ทำการโอนที่ดินของผู้อื่นและแจ้งแก่เจ้าพนักงานที่ดินว่า การมอบอำนาจนั้นเป็นจริงซึ่งความจริงเจ้าของที่ดินมิได้มอบอำนาจให้โอนแต่ประการใด ดังนี้ จำเลยมีความผิดฐานแจ้งความเท็จตามมาตรา 118

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1070/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองเพื่อประกันหนี้ ไม่ทำให้เกิดกรรมสิทธิ แม้ครอบครองนานก็ไม่เป็นเจ้าของ
ครอบครองนาพิพาทเพื่อทำนาต่างดอกเบี้ยและประกันเงินกู้นั้นแม้จะครอบครองมานานเท่าใดก็ไม่ได้กรรมสิทธิเพราะเป็นการครอบครองแทนเจ้าของเดิม ไม่ใช่ยึดถือเพื่อตน
of 11