พบผลลัพธ์ทั้งหมด 257 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประวิงคดีด้วยการขอส่งประเด็นไปสืบพยานโดยไม่มีเหตุผลสนับสนุนข้อต่อสู้
จำเลยที่2ให้การว่าไม่เคยทำสัญญาค้ำประกันกับโจทก์ลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าวเป็นลายมือปลอมแต่จำเลยที่2กลับไม่สนใจมาเบิกความเป็นพยานเพื่อสนับสนุนข้อต่อสู้ของตนและก็ไม่ปรากฏว่าทนายจำเลยที่2จะสืบ ส. และ ศ. ตามที่ยื่นคำร้องและแถลงขอให้ศาลชั้นต้นส่งประเด็นไปสืบที่ศาลอื่นในข้อใดเพียงใดและในฎีกาของจำเลยที่2ก็มิได้กล่าวให้ชัดแจ้งว่าจะสืบพยานทั้งสองปากในข้อใดแค่ไหนเพียงใดการที่จำเลยที่2ขอส่งประเด็นไปสืบที่ศาลอื่นดังกล่าวจึงเป็นการประวิงคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประวิงคดีจากการไม่นำสืบพยานสนับสนุนข้อต่อสู้ แม้มีสิทธิขอส่งประเด็นไปสืบ
จำเลยให้การว่าไม่เคยทำสัญญาค้ำประกันกับโจทก์ลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าวเป็นลายมือปลอมแต่ปรากฎว่าจำเลยกลับไม่สนใจมาเบิกความเป็นพยานต่อศาลเพื่อสนับสนุนข้อต่อสู้ของตนที่ทนายจำเลยยื่นคำร้องและแถลงขอให้ศาลชั้นต้นส่งประเด็นไปสืบ ส.และ ศ.ที่ศาลอื่นก็ไม่ปรากฎว่าจำเลยจะสืบในข้อใดและเกี่ยวแก่ประเด็นข้อต่อสู้ของจำเลยเพียงใดคงกล่าวลอยๆว่าขอให้ส่งประเด็นไปสืบเท่านั้นในฎีกาของจำเลยก็มิได้กล่าวให้ชัดแจ้งว่าจำเลยจะสืบพยานทั้งสองปากในข้อใดเกี่ยวแก่ประเด็นข้อพิพาทแค่ไหนเพียงใดพฤติการณ์ของจำเลยจึงเป็นการประวิงคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6063/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประวิงคดี, การเลื่อนคดี, คำสั่งศาล, การบังคับคดี, การชำระหนี้
ก่อนที่จะมีการแต่งตั้งทนายจำเลยคนใหม่ จำเลยขอเลื่อนคดีมาแล้ว 4 นัด นอกจากนี้ระหว่างสืบพยานโจทก์ จำเลยก็ขอเลื่อนคดีหลายครั้งโดยอ้างเหตุว่ากำลังเจรจาจะชำระหนี้โจทก์และอยู่ระหว่างขายทรัพย์จำนอง พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยมีเจตนาหน่วงเหนี่ยวให้คดีชักช้าโดยปราศจากเหตุอันสมควร ทั้ง ๆ ที่ศาลชั้นต้นได้สั่งกำชับว่าจะไม่ให้เลื่อนคดีอีกไม่ว่าด้วยเหตุผลใด จำเลยก็หาได้ตระหนักถึงคำสั่งกำชับของศาลดังกล่าวไม่ แม้จำเลยจะแต่งตั้งทนายคนใหม่ ก็ชอบที่จะให้ทนายคนใหม่เตรียมคดีให้พร้อมก่อนวันนัดหาใช่นำเอาเหตุแห่งการแต่งตั้งทนายคนใหม่มาเป็นข้ออ้างเพื่อไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีเช่นนี้ไม่ จึงเป็นการประวิงคดี ที่ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานจำเลยโดยไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีต่อไปอีกจึงชอบแล้ว การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์จำนองและตั้งให้จำเลยเป็นผู้จัดการทรัพย์ที่ยึด โดยให้จำเลยนำเงินมาวางเพื่อชำระหนี้โจทก์เดือนละไม่ต่ำกว่า 100,000 บาททุกวันที่ 1 ของเดือน หากเดือนใดผิดนัดให้ดำเนินการขายทอดตลาดทันทีเป็นกรณีที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 307 จำเลยจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาลดังกล่าว ทรัพย์สินของจำเลยจึงจะไม่ถูกขายทอดตลาด จำเลยจะมาขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระหนี้หาได้ไม่ เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลโจทก์ก็ชอบที่จะบังคับคดีได้ทันที จำนวนเงินที่จำเลยต้องชำระรวมทั้งดอกเบี้ยย่อมเป็นไปตามคำพิพากษาของศาล ดังนั้น ในชั้นบังคับคดีจำเลยจึงหามีสิทธิโต้แย้งว่าโจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยได้เพียง 5 ปีเท่านั้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5044/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการดำเนินคดีอย่างคนอนาถา การเลือกใช้สิทธิอุทธรณ์หรือยื่นคำร้องใหม่ และพฤติการณ์ประวิงคดี
ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาและเห็นว่าพยานจำเลยที่นำสืบมาแล้วฟังได้ว่าจำเลยไม่ยากจนมีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมศาลได้ ให้ยกคำร้อง จำเลยชอบที่จะขอให้พิจารณาคำขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาใหม่ หรือใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นภายใน 7 วัน เมื่อจำเลยเลือกยื่นคำขอให้พิจารณาคำขอนั้นใหม่เพื่ออนุญาตให้ตนนำพยานมาแสดงเพิ่มเติม จำเลยจึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนไต่สวนอีกทางหนึ่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคสี่ มิได้บังคับว่า เมื่อมีผู้ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคำขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาใหม่ เพื่ออนุญาตให้ตนนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมว่าตนเป็นคนยากจนนั้น ศาลจะต้องอนุญาต แต่เป็นดุลพินิจของศาลที่จะสั่งอนุญาตหรือไม่ก็ได้แล้วแต่พฤติการณ์แห่งคดี เมื่อศาลชั้นต้นเห็นว่าพยานหลักฐานที่จำเลยจะขอนำสืบเพิ่มเติม เป็นพยานหลักฐานเดิมที่จำเลยสามารถนำเข้าสืบได้ในชั้นไต่สวนคำร้องอยู่แล้ว แต่จำเลยไม่พยายามนำพยานหลักฐานดังกล่าวมาศาลโดยมีเจตนาหน่วงเหนี่ยวคดีให้ล่าช้า อันมีลักษณะประวิงคดีพฤติการณ์จึงไม่สมควรอนุญาตให้จำเลยนำพยานหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมได้อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 394/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเลื่อนคดีมีเหตุสมควร แม้ไม่ได้รับอนุญาตให้สืบพยาน ไม่ถือเป็นการประวิงคดี
ในวันนัดสืบพยานผู้ร้องซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อน ทนายผู้ร้องมาศาลและยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี แสดงว่าผู้ร้องยังใส่ใจในคดี เมื่อผู้ร้องขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรกด้วยเหตุที่ผู้ร้องไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ต่างจังหวัดกลับมาไม่ได้ตามกำหนด ซึ่งแม้โจทก์จะแถลงคัดค้านคำร้องขอเลื่อนคดีก็ตาม แต่โจทก์ก็มิได้แถลงคัดค้านว่าข้ออ้างของผู้ร้องไม่ความจริง จึงนับได้ว่ามีเหตุจำเป็น แม้ผู้ร้องจะยื่นบัญชีระบุพยานไว้ แต่ศาลสั่งไม่รับ ก็ไม่เป็นเหตุที่จะถือว่าผู้ร้องประวิงคดี จึงสมควรที่ศาลจะอนุญาตให้เลื่อนคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2958/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประวิงคดีและการไม่อนุญาตเลื่อนคดี การที่จำเลยขอเลื่อนคดีซ้ำๆ โดยไม่มีเหตุผลชอบธรรม ศาลชอบที่จะไม่อนุญาตเลื่อนคดีได้
จำเลยขอเลื่อนคดีถึงสามนัดติด ๆ กันโดยเหตุผลแต่ละนัดที่อ้างต่อศาลไม่ประกอบไปด้วยเหตุผลโดยชอบ แต่ศาลก็ให้โอกาสเลื่อนคดีตลอดมา ทั้งในนัดสุดท้ายทนายจำเลยได้ยืนยันว่า หากจำเลยไม่มาก็ไม่ติดใจสืบพยาน และศาลได้มีคำสั่งกำชับด้วยว่า หากจำเลยผิดนัดไม่มา ศาลจะไม่ให้เลื่อนคดีและถือว่าไม่ติดใจสืบพยาน ครั้นถึงวันนัดตัวจำเลยก็ไม่มาศาลเช่นเดิม และขอเลื่อนคดีอีกตามพฤติการณ์ที่ฝ่ายจำเลยดำเนินคดีตลอดมาดังกล่าวจึงเป็นการประวิงคดี ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีและถือว่าจำเลยไม่ติดใจสืบพยานนั้น ชอบแล้วฎีกาของ
ศาลอุทธรณ์ไม่ได้สั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมของศาลอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 161 กำหนดให้ศาลต้องสั่งเรื่องค่าฤชาธรรมเนียม ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไข
ศาลอุทธรณ์ไม่ได้สั่งในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมของศาลอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 161 กำหนดให้ศาลต้องสั่งเรื่องค่าฤชาธรรมเนียม ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไข
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 141/2537 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่ชัดแจ้ง – ประเด็นใหม่ – ประวิงคดี – ไม่รับวินิจฉัย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ โดยฟังว่าจำเลยมีพฤติการณ์ส่อไปในทางประวิงคดี ไม่สมควรให้เลื่อนคดีและถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบ แทนที่จำเลยจะฎีกาว่าที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาดังกล่าวนั้นไม่ถูกต้องอย่างไร กลับฎีกาว่า โจทก์ไม่มีสิทธินำคดีมาฟ้องจำเลยและสัญญาเช่าอาคารพิพาทเป็นสัญญาเช่าพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งเพราะมิได้โต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และเป็นฎีกาข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันแล้วในศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ด้วย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5555/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานจากความผิดพลาดเรื่องวันนัด และผลกระทบต่อการประวิงคดี
ทนายจำเลยเคยขอเลื่อนคดี เพราะไม่มีพยานมาศาลโดยไม่ทราบเหตุขัดข้องมาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีและกำชับให้จำเลยมาตามนัด ฝ่ายจำเลยก็ไม่มีผู้ใดมาตามนัดจะฟังได้ว่าทนายจำเลยจดวันนัดผิดและเมื่อมีการขอออกหมายเรียกพยานโดยระบุวันนัดผิด ศาลชั้นต้นก็อนุญาตให้ออกหมายตามนั้นได้ ก็ไม่เป็นเหตุผลที่จะยกขึ้นเป็นข้อแก้ตัวได้ เพราะการให้ถือเหตุทำนองนี้เป็นข้อแก้ตัวอาจเป็นช่องทางให้คู่ความประวิงคดีได้ง่าย ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานฝ่ายจำเลย และนัดฟังคำพิพากษาจึงเหมาะสมแก่รูปเรื่องแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4442/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดยื่นคำให้การ, เจตนาประวิงคดี, สิทธิในการเบิกความ, การงดสืบพยาน
เหตุตามคำร้องขอเลื่อนคดีของทนายจำเลยที่ว่า ทนายจำเลยติดธุระต้องเดินทางไปศาลจังหวัดอื่นเพื่อยื่นคำให้การในคดีแพ่งเรื่องอื่นซึ่งครบกำหนดยื่นคำให้การในวันนั้นพร้อมกับสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีดังกล่าวด้วย มิใช่เหตุจำเป็นอันมิอาจก้าวล่วงเสียได้
จำเลยขออนุญาตยื่นคำให้การหลังจากทราบว่าถูกฟ้องแล้วเกือบ1 ปี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาต ดังนี้แม้จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและศาลมีคำสั่งว่าจำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การ จำเลยอาจสาบานตนให้การเป็นพยานเองและถามค้านพยานโจทก์ แต่จำเลยปฏิเสธไม่ยอมเบิกความเนื่องจากไม่มีทนายความซักถาม ทั้งที่ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ในคดีจำเลยย่อมทราบดี และสามารถเบิกความตามความเป็นจริงได้ ตามรูปคดีแม้มีทนายซักถามก็ไม่ทำให้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป พฤติการณ์แสดงว่าจำเลยมีเจตนาประวิงคดี ศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งงดสืบพยานจำเลยได้
จำเลยขออนุญาตยื่นคำให้การหลังจากทราบว่าถูกฟ้องแล้วเกือบ1 ปี ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาต ดังนี้แม้จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและศาลมีคำสั่งว่าจำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การ จำเลยอาจสาบานตนให้การเป็นพยานเองและถามค้านพยานโจทก์ แต่จำเลยปฏิเสธไม่ยอมเบิกความเนื่องจากไม่มีทนายความซักถาม ทั้งที่ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ในคดีจำเลยย่อมทราบดี และสามารถเบิกความตามความเป็นจริงได้ ตามรูปคดีแม้มีทนายซักถามก็ไม่ทำให้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไป พฤติการณ์แสดงว่าจำเลยมีเจตนาประวิงคดี ศาลชั้นต้นชอบที่จะสั่งงดสืบพยานจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2823/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประวิงคดี, พยานเบิกความ, และการรับฟังพยานหลักฐานในคดีแพ่ง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าอาคารของวัด จ.ได้ตกลงโอนสิทธิการเช่าอาคารดังกล่าวให้โจทก์ ซึ่งผู้ให้เช่ายินยอมด้วย และตกลงทำสัญญาเช่าดังกล่าวให้โจทก์ หลังจากโจทก์ได้ทำสัญญาเช่ากับผู้ให้เช่าแล้ว จำเลยหาได้ส่งมอบอาคารดังกล่าวให้โจทก์ ขอให้บังคับจำเลยและบริวารขนย้ายทรัพย์สินพร้อมส่งมอบอาคารดังกล่าว ให้แก่โจทก์ในสภาพเรียบร้อยและชดใช้ค่าเสียหาย ดังนี้คำฟ้องโจทก์ได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง ข้อความที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์มิได้บรรยายฟ้องไว้นั้นเป็นเพียงรายละเอียดซึ่งโจทก์มีสิทธินำพยานหลักฐานมาสืบในชั้นพิจารณา ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานจำเลยนัดแรก เมื่อถึงวันนัดจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างว่าทนายจำเลยป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนไปสืบพยานจำเลย ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2530จำเลยนำพยานมาสืบเพียงปากเดียว ศาลชั้นต้นให้เลื่อนไปสืบพยานจำเลยในวันที่ 3 และ 24 กันยายน 2530 ซึ่งจำเลยนำพยานมาสืบเพียงวันละ 1 ปาก ศาลชั้นต้นให้เลื่อนไปสืบพยานจำเลยในวันที่ 5และ 19 พฤศจิกายน 2530 จำเลยมีพยานมาสืบในวันที่ 5 พฤศจิกายน2530 เพียงปากเดียว ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนไปสืบพยานที่เหลือในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2530 โดยกำชับให้จำเลยนำพยานมาสืบให้เสร็จเมื่อถึงวันนัดจำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีโดยอ้างว่าพยานป่วยกระทันหันเป็นโรคท้องร่วงอย่างแรง โดยมิได้ส่งใบรับรองแพทย์ต่อศาล ดังนี้ พฤติการณ์ในการดำเนินคดีดังกล่าวของจำเลยแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาประวิงคดีให้ชักช้า ที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและให้งดสืบพยานชอบแล้ว นางสาวก.เป็นพยานคู่กับโจทก์ซึ่งรู้เห็นเหตุการณ์ร่วมกันแต่เบิกความคนละวันกัน เป็นไปตามกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นและทนายจำเลยได้ถามค้านพยานปากนี้แล้ว จำเลยจึงไม่เสียเปรียบเมื่อศาลเห็นว่าคำเบิกความของนางสาวก.เป็นที่เชื่อถือได้ก็ชอบที่จะรับฟังคำเบิกความของนางสาวก.ได้ ข้อเท็จจริงตามเอกสารบางฉบับ โจทก์เพียงใช้ประกอบคำเบิกความของพยาน มิได้เป็นประเด็นโต้เถียงกันในคดีและเอกสารบางฉบับจำเลยก็ยอมรับข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในเอกสารนั้นแล้ว แม้โจทก์มิได้ส่งต้นฉบับเอกสารดังกล่าวต่อศาลหรือมิได้ส่งสำเนาเอกสารดังกล่าวให้แก่จำเลย ศาลย่อมรับฟังข้อเท็จจริงตามที่โจทก์นำสืบได้