พบผลลัพธ์ทั้งหมด 284 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1101/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิและการใช้เอกสารปลอม โจทก์เป็นผู้เสียหาย แม้ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์
จำเลยนำใบมอบอำนาจ 2 ฉบับที่โจทก์ลงลายมือชื่อไว้ในช่องผู้มอบอำนาจไปกรอกข้อความว่า โจทก์ได้มอบอำนาจให้จำเลยไปจัดการยกที่ดินโฉนดเลขที่ 561 ให้แก่จำเลยโดยเสน่หาและมอบอำนาจให้จำเลยขายที่ดินโฉนดเลขที่ 558,559 ให้แก่จำเลยทั้งจำเลยยังทำหนังสือขึ้นอีกฉบับหนึ่งว่าภรรยาโจทก์ให้ความยินยอมในการทำนิติกรรมนั้นโดยโจทก์ไม่ได้มอบอำนาจให้จำเลยกระทำการเช่นนั้นเลย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 โจทก์เป็นเจ้าของลายมือชื่อเมื่อจำเลยเอาลายมือชื่อไปใช้โดยโจทก์ไม่ยินยอม โจทก์ย่อมเป็นผู้เสียหายโดยไม่จำต้องวินิจฉัยว่าที่ดินที่ไปจัดการโอนตามใบมอบอำนาจจะเป็นของโจทก์หรือไม่ การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยกับพวกลักเอาหนังสือมอบอำนาจที่โจทก์ลงลายมือชื่อในช่องผู้มอบอำนาจไว้แล้วไปกรอกข้อความลงในหนังสือมอบอำนาจเป็นการปลอมเอกสารสิทธิ ต่อมาจำเลยใช้เอกสารปลอมดังกล่าวไปยื่นต่อเจ้าพนักงานที่ดินเพื่อให้หลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริงโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่โจทก์ถือได้แล้วว่า โจทก์ได้บรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำผิด มีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบุคคลที่เกี่ยวข้องพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ซึ่งเป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว ไม่จำต้องระบุว่ามีบุคคลใดร่วมหรือสมคบกับจำเลยเพราะโจทก์ไม่ได้ฟ้องบุคคลอื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 614/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม: การกระทำความผิดต่างกรรมกัน
จำเลยที่ 2 ลักแบบพิมพ์เช็คของโจทก์ร่วมไปให้จำเลยที่ 1กรอกวันที่ จำนวนเงิน และลงลายมือชื่อปลอมของโจทก์ร่วมเป็นผู้สั่งจ่ายลงในแบบพิมพ์เช็คดังกล่าว โดยจำเลยที่ 2 นำสำเนาภาพถ่ายเช็คที่มีลายมือชื่อโจทก์ร่วมให้จำเลยที่ 1 หัดปลอมลายมือชื่อโจทก์ร่วมก่อนหลังจากปลอมเช็คแล้วจำเลยที่ 2 ได้พาจำเลยที่ 1ไปที่ธนาคารเพื่อเบิกเงินเมื่อเบิกเงินได้แล้วจำเลยที่ 2 ได้เตรียมรถแท็กซี่รออยู่และพากันกลับด้วยกัน จำเลยที่ 2 จึงเป็นผู้ร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม จำเลยที่ 2 ลักแบบพิมพ์เช็ค แล้วปลอมเช็คและใช้เช็คปลอมดังกล่าว มีเจตนาแยกต่างหากจากกันได้ การกระทำของจำเลยที่ 2 ย่อมเป็นความผิดต่างกรรมกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2074/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนการปลอมเอกสาร: พยานหลักฐานต้องชัดเจนถึงเจตนาและบทบาทของผู้สนับสนุน
โจทก์ไม่มีพยานหลักฐานมานำสืบให้เห็นได้ว่าจำเลยเป็นผู้สนับสนุนการที่ผู้อื่นกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารราชการ โดยการขูดลบหมายเลขทะเบียนที่พานท้ายอาวุธปืนของกลาง ซึ่งเจ้าพนักงานได้ทำขึ้นในหน้าที่ อันเป็นเอกสารราชการอันเดิมแล้วแก้ไขตอกหมายเลขใหม่แทน โจทก์คงมีแต่คำรับของจำเลยในชั้นสอบสวนว่า จำเลยได้ลบหมายเลขทะเบียนเดิมของอาวุธปืนของกลาง แล้วทำหมายเลขทะเบียนขึ้นใหม่ อันเป็นพยานบอกเล่าเท่านั้น ทั้งยังปรากฏจากคำเบิกความของ ส. พนักงานสอบสวนผู้ทำบันทึกคำให้การดังกล่าวว่าเกี่ยวกับความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอมนั้น จำเลยให้การรับแต่เพียงว่าหมายเลขทะเบียนที่พานท้ายปืนไม่ตรงกับหมายเลขประจำปืน มิได้รับสารภาพว่าจำเลยเป็นผู้ปลอมเอกสาร พยานหลักฐานโจทก์จึงยังไม่เพียงพอที่จะฟังเอาผิดแก่จำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4273-4274/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลผูกพันคำพิพากษาคดีอาญาต่อคดีแพ่ง: การปลอมเอกสารและการละเมิด
โจทก์เคยฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาในความผิดฐานปลอมเอกสารเมื่อคดีอาญาดังกล่าวถึงที่สุดโดยศาลฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยมิได้ปลอมเอกสาร ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งที่ว่าจำเลยได้ปลอมเอกสารหรือไม่ ซึ่งเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา โจทก์จึงต้องผูกพันตามคำพิพากษาดังกล่าว คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาหากข้อเท็จจริงไม่ปรากฏผลของคดีในส่วนอาญาว่าเป็นประการใด ศาลจะต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏจากพยานหลักฐานในสำนวน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2384/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลอมเอกสารราชการต้องมีเจตนาทำให้ผู้อื่นเชื่อถือ และต้องก่อให้เกิดความเสียหายหรืออาจก่อให้เกิดความเสียหาย
พ. เจ้าของใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ยอมให้จำเลยเปลี่ยนภาพถ่ายของตนในใบขับขี่ดังกล่าวเป็นของคนอื่นเอาไปแสดงระหว่างกันเองเพื่อพนันหาเจ้ามือเลี้ยงสุรากัน พ. จึงไม่ได้รับความเสียหาย ทั้งไม่น่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด เมื่อจำเลยมิได้นำแสดงออกเพื่อให้ผู้ที่พบเห็นหลงเชื่อว่าตนคือ พ. ผู้ได้รับอนุญาตขับขี่ดังกล่าว จึงไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสารราชการ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5722/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานลักทรัพย์ต่อเนื่องจากการปลอมเอกสารเพื่อหลอกลวงเอาทรัพย์สิน ศาลพิจารณาเป็นความผิดต่อเนื่อง
การที่จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นลูกจ้างของโจทก์ร่วม ได้ร่วมกันปลอมเอกสารใบรับสินค้าอันเป็นเอกสารสิทธิของบริษัท ก. แล้วปลอมลายมือชื่อบุคคลในร้าน ฟ. ลงในช่องผู้รับสินค้าเพื่อแสดงเป็นหลักฐานว่าร้าน ฟ. ได้รับสินค้าดังกล่าวแล้ว นำเอกสารที่ปลอมขึ้นไปแสดงต่อโจทก์ร่วมซึ่งเป็นนายจ้างเพื่อให้หลงเชื่อว่าร้าน ฟ.ได้รับสินค้าที่ทางโจทก์ร่วมรับขนส่งจากบริษัท ก. ไว้แล้วการกระทำของจำเลยทั้งสองล้วนแต่เป็นวิธีการเพื่อผลในการเอาทรัพย์สินไป ดังนั้น แม้การปลอมเอกสารกับการใช้หรืออ้างเอกสารปลอมต่างเป็นความผิดสำเร็จก็ตาม แต่ก็เป็นความผิดหลายบทต่อเนื่องโดยมุ่งเจตนาในความสำเร็จของความผิดฐานลักทรัพย์ จำเลยจึงมีความผิดหลายบท ต้องลงโทษบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5129/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม แม้โจทก์ถอนฟ้องความเสียหายส่วนตัวแล้ว ความผิดต่อแผ่นดินยังคงอยู่
โจทก์ร่วมได้รับความเสียหายจากการกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมของจำเลยตามที่โจทก์ฟ้อง แม้ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์ร่วมจะขอถอนฟ้อง ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ถอนฟ้องเฉพาะความผิดต่อส่วนตัว แต่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264, 268 เป็นความผิดต่อแผ่นดิน โจทก์ร่วมไม่อาจขอถอนฟ้องหลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 35 ทั้งการที่โจทก์ร่วมขอถอนฟ้องก็ไม่ทำให้การกระทำผิดของจำเลยซึ่งสำเร็จไปแล้วกลับเป็นขาดองค์ประกอบความผิด เพราะโจทก์ร่วมไม่เสียหายได้อีก การกระทำของจำเลยจึงยังเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264, 268.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5129/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม แม้โจทก์ถอนฟ้องคดีก็ยังคงมีองค์ประกอบความผิดต่อแผ่นดิน
โจทก์ร่วมได้รับความเสียหายจากการกระทำความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมของจำเลยตามที่โจทก์ฟ้อง แม้ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์ร่วมจะขอถอนฟ้อง ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ถอนฟ้องเฉพาะความผิดต่อส่วนตัว แต่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264,268 เป็นความผิดต่อแผ่นดิน โจทก์ร่วมไม่อาจขอถอนฟ้องหลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 35 ทั้งการที่โจทก์ร่วมขอถอนฟ้องก็ไม่ทำให้การกระทำผิดของจำเลยซึ่งสำเร็จไปแล้วกลับเป็นขาดองค์ประกอบความผิด เพราะโจทก์ร่วมไม่เสียหายได้อีก การกระทำของจำเลยจึงยังเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264,268.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4609/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานปลอมเอกสารราชการหลายฉบับ แต่เป็นการกระทำผิดกรรมเดียว
แม้ว่าเอกสารต่าง ๆ ที่จำเลยทำปลอมขึ้นและประทับตราปลอมคือหนังสือรับรองว่าได้รับอนุญาตเป็นผู้ขับรถจำนวน3 ฉบับ จะเป็นเอกสารต่างชนิดกับหนังสือรับรองใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถเป็นภาษาอังกฤษรวม 3 ฉบับ ซึ่งเป็นการปลอมหนังสือรับรองใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถของบุคคลต่างคนกันก็ตามแต่เมื่อปรากฏว่าเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยและยึดเอกสารต่าง ๆ ดังกล่าวในคราวเดียวกันโดยโจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่า จำเลยได้กระทำการปลอมและประทับตราปลอมเอกสารเหล่านั้นโดยมีเจตนาหลายเจตนาที่จะให้เกิดผลต่างกรรมกันจึงลงโทษจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3733/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท: การปลอมเอกสารเพื่อฉ้อโกงเป็นเจตนาต่อเนื่อง
แม้โจทก์แยกฟ้องเป็น 3 ข้อ แต่ระบุวันเวลากระทำผิด คือระหว่างวันที่ 11 กรกฎาคม 2530 ถึงวันที่ 16 มกราคม 2531เวลากลางวันจำเลยได้ทำเอกสารและเอกสารราชการปลอมและให้วันที่ 16 มกราคม 2531 เวลากลางวันจำเลยจึงนำเอกสารที่ทำปลอมดังกล่าวไปใช้แสดงเพื่อพยายามฉ้อโกง ดังนี้ทำให้เห็นได้ว่าจำเลยทำเอกสารและเอกสารราชการปลอมก็เพื่อจะนำไปใช้ฉ้อโกง อันเป็นการกระทำต่อเนื่องด้วยเจตนาเดียวเพื่อให้ ก.หลงเชื่อว่าจำเลยคือ ค. เจ้าของเช็คเดินทาง การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท