คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ผูกพัน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 516 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 352/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงสละสิทธิในโครงการลาออกด้วยความสมัครใจมีผลผูกพัน หากเงินชดเชยครอบคลุมสิทธิเรียกร้องทั้งหมด
โจทก์ซึ่งเป็นลูกจ้างสมัครใจเข้าร่วมโครงการลาออกด้วยความสมัครใจของจำเลยผู้เป็นนายจ้างซึ่งมีข้อความว่าข้าพเจ้าขอสละสิทธิและขอปลดเปลื้องบริษัทจากข้อเรียกร้องทั้งปวงความรับผิดข้อเรียกร้องและมูลคดีที่ข้าพเจ้าหรือบุคคลอื่นโดยการเรียกร้องผ่านข้าพเจ้าซึ่งเคยมีกำลังมีหรืออาจเรียกร้องให้มีได้ในอนาคตต่อบริษัทฯลฯทั้งยังมีข้อความตามบันทึกอีกว่าเงินที่จำเลยจ่ายให้โจทก์ตามโครงการดังกล่าวเป็นเงินทุกประเภทที่จำเลยต้องจ่ายให้แก่โจทก์ย่อมหมายความว่าการที่จำเลยยอมจ่ายเงินให้โจทก์ตามโครงการการลาออกด้วยความสมัครใจนั้นได้รวมเงินทุกประเภทที่โจทก์อาจเรียกร้องจากจำเลยได้อยู่แล้วข้อตกลงที่ว่าโจทก์จะไม่เรียกร้องผลประโยชน์ใดๆจากจำเลยอีกเพราะจำเลยได้จ่ายเงินที่โจทก์พึงจะได้รับตามกฎหมายให้แก่โจทก์หมดแล้วซึ่งไม่น้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้จึงไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนย่อมมีผลบังคับระหว่างโจทก์กับจำเลยได้โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องเรียกผลประโยชน์ใดๆจากจำเลยอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2676/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างทำของไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือ สัญญาเกิดขึ้นเมื่อตกลงและลงมือทำงาน แม้ไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรก็ผูกพัน
สัญญาจ้างทำของไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องทำเป็นหนังสือเพียงแต่จำเลยได้ว่าจ้างโจทก์และโจทก์ตกลงรับจ้างตามที่จำเลยว่าจ้าง สัญญาจ้างย่อมเกิดขึ้นผูกพันคู่สัญญาต้องปฏิบัติตามนั้น
ผู้รับจ้างฟ้องเรียกค่าจ้างหรือค่าตอบแทนรวมทั้งเงินทดรองที่ผู้รับจ้างจ่ายแทนผู้ว่าจ้างไปก่อนตามสัญญาจ้างทำของมีอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34(7)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2010/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเชิดตัวแทนจำลองและการผูกพันตามสัญญาซื้อขายที่ดิน แม้ไม่มีหนังสือมอบอำนาจ
ในระหว่างที่จำเลยที่2กำลังก่อสร้างทาวน์เฮาส์จำเลยที่1ได้ไปตั้งสำนักงานติดต่อซื้อขายทาวน์เฮาส์ของจำเลยที่2โดยใช้ชื่อโครงการซึ่งเป็นชื่อเดียวกันกับชื่อร้านอาหารของจำเลยที่2จำเลยที่1ได้เช่าบริเวณหน้าบ้านของท. ซึ่งอยู่คนละฟากถนนตรงกันข้ามกับสถานที่ก่อสร้างเป็นสำนักงานขายชั่วคราวมีพนักงาน2คนคอยให้บริการมีแผ่นใบปลิวโฆษณาแบบบ้านและราคาบ้านจำเลยที่1ยังปิดประกาศขายทาวน์เฮาส์ตลอดแนวถนนที่จะเข้ามายังบริเวณก่อสร้างจำเลยที่2ขับรถไปจอดที่บริเวณก่อสร้างและพูดสั่งงานแก่คนงานก่อสร้างและพนักงานของจำเลยที่1พาลูกค้าไปพูดคุยกับจำเลยที่2ที่บริเวณก่อสร้างภริยาจำเลยที่2ได้ถ่ายเอกสารโฉนดที่ดินของจำเลยที่2ให้จำเลยที่1และจำเลยที่1ได้นำภาพถ่ายโฉนดที่ดินดังกล่าวแสดงให้ผู้ที่มาติดต่อขอซื้อทราบว่าที่ดินที่ก่อสร้างเป็นของจำเลยที่2และจำเลยที่2ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างทาวน์เฮาส์โดยถูกต้องตามกฎหมายทั้งจำเลยที่1ยังมีหนังสือสัญญายินยอมซึ่งจำเลยที่2ตกลงมอบอำนาจให้จำเลยที่1เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างและทำการขายทาวน์เฮาส์ที่กำลังก่อสร้างบนที่ดินของจำเลยที่2การติดต่อซื้อขายระหว่างจำเลยที่1กับโจทก์และบุคคลอื่นทั่วๆไปก็กระทำกันอย่างเปิดเผยการกระทำของจำเลยที่1ดังกล่าวจำเลยที่2รู้เห็นตลอดมาแต่มิได้ห้ามปรามตามพฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าจำเลยที่2เชิดจำเลยที่1ออกแสดงเป็นตัวแทนหรือรู้แล้วยอมให้จำเลยที่1เชิดตัวเองออกแสดงเป็นตัวแทนของจำเลยที่2ในการขายที่ดินพร้อมทาวน์เฮาส์พิพาทซึ่งรวมทั้งการก*ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมทาวน์เฮาส์และรับเงินมัดจำด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา821 การเป็นตัวแทนเชิดดังกล่าวหาใช่เป็นเรื่องการตั้งตัวแทนตามปกติแต่อย่างใดไม่จึงไม่จำต้องมีหนังสือมอบอำนาจให้กระทำการแทน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9742/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันมีผลผูกพันแม้เจ้าหนี้ไม่ได้ลงชื่อ สัญญาค้ำประกันไม่เสียความสมบูรณ์หากผู้ลงนามแทนไม่มีอำนาจ
สัญญาค้ำประกันต้องการเพียงหลักฐาน เป็นหนังสือที่ผู้ค้ำประกันลงชื่อฝ่ายเดียวก็ใช้บังคับได้ เจ้าหนี้หรือโจทก์หาจำต้องลงชื่อด้วยไม่ จำเลยที่ 2 ทำสัญญาค้ำประกันไว้แก่โจทก์เป็นหนังสือและลงลายมือชื่อไว้แล้วจึงมีผลใช้บังคับได้ตามกฎหมาย โจทก์หาจำต้องลงลายมือชื่อแต่อย่างใดไม่แม้ผู้ลงลายมือชื่อแทนโจทก์จะไม่มีอำนาจ ซึ่งถือเสมือนว่าโจทก์ไม่ได้ลงลายมือชื่อในสัญญาค้ำประกัน แต่สัญญาก็มิเสียไปยังคงมีผลใช้บังคับได้ตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 968/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแสดงออกเสมือนตัวแทนและการผูกพันตามสัญญาจ้าง
ว.เป็นผู้รับโจทก์เข้าทำงานในบริษัทจำเลย เป็นผู้ทำสัญญาจ้างโจทก์แทนจำเลย ซึ่งตามหนังสือจ้างงานดังกล่าวระบุว่า ว.มีตำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่ายธุรการบุคคลของบริษัทจำเลย และเมื่อมีกรณีที่โจทก์บกพร่องต่อหน้าที่ ว.ก็เป็นผู้เรียกโจทก์ไปตำหนิ เป็นพฤติการณ์ที่ถือได้ว่าจำเลยได้เชิด ว.ออกแสดงเป็นตัวแทนของจำเลย หรือรู้แล้วยอมให้ ว.เชิดตัวเขาเองออกแสดงเป็นตัวแทนของจำเลยในการจ้างหรือเลิกจ้างโจทก์ได้ ดังนั้น การที่ ว.บอกเลิกจ้างโจทก์จึงมีผลผูกพันจำเลยเสมือนว่า ว.เป็นตัวแทนของจำเลยตาม ป.พ.พ.และพาณิชย์ มาตรา 821

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 907/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความผูกพันตามคำพิพากษา แก้ไขได้เฉพาะข้อผิดพลาดเล็กน้อย
เมื่อได้มีการทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลพิพากษาตามยอมแล้วย่อมผูกพันจำเลยตามนั้นสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคำพิพากษาจะแก้ไขข้อผิดพลาดได้ต่อเมื่อเป็นข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือข้อผิดหลงเล็กน้อยอื่นๆการเปลี่ยนแปลงจำนวนและสถานที่ผิดไปจากเดิมมิใช่ข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือข้อผิดหลงเล็กน้อยจำเลยไม่อาจจะขอแก้ไขได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 857/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลคำพิพากษาคดีอาญาผูกพันคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกัน ศาลต้องถือตามข้อเท็จจริงในคดีอาญาที่ถึงที่สุด
ก่อนโจทก์ทั้งสองฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ โจทก์ทั้งสองฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญากล่าวหาว่าจำเลยบุกรุกลักทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์ในที่ดินพิพาทแปลงเดียวกัน คดีดังกล่าวถึงที่สุดโดยศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ที่ดินพิพาทและต้นไม้เป็นของจำเลย การที่โจทก์ทั้งสองฟ้องขับไล่จำเลยคดีนี้และให้ใช้ค่าต้นไม้ที่เสียหาย คดีนี้จึงเป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา เมื่อผลของคำพิพากษาคดีส่วนอาญาวินิจฉัยว่า ที่ดินพิพาทและต้นไม้เป็นของจำเลยและคดีดังกล่าวถึงที่สุดไปแล้ว ศาลในคดีแพ่งจึงต้องถือตามข้อเท็จจริงดังกล่าวตาม ป.วิ.อ. มาตรา 46

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6807/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจ้างว่าความ: การผูกพันของกรรมการบริษัท และการใช้สิทธิคืนสู่ฐานะเดิมเมื่อเลิกสัญญา
บริษัทใช้ชื่อจำเลยเป็นชื่อบริษัท ตามหนังสือรับรองของนายทะเบียนระบุว่า บริษัทมีกรรมการ 4 คน จำเลยลงลายมือชื่อและประทับตราของบริษัท มีอำนาจกระทำการผูกพันบริษัทได้ จึงฟังได้ว่าจำเลยเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทและเป็นหัวหน้าสำนักงานกฎหมาย
สัญญารับมอบงานเป็นสัญญาจ้างว่าความซึ่งเป็นสัญญาจ้างทำของมีข้อความว่า โจทก์ได้มอบให้จำเลยและทนายความในสำนักงานฟ้องคดี จำเลยรับจะดำเนินคดีจนกว่าคดีจะถึงที่สุด โดยโจทก์ตกลงจ่ายค่าตอบแทนให้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ว.ผู้มีอำนาจกระทำแทนโจทก์ลงชื่อและประทับตราโจทก์ในช่องผู้มอบงาน ส่วนจำเลยลงชื่อในช่องผู้รับมอบงานแต่ผู้เดียวไม่ได้ประทับตราของบริษัท จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำในฐานะเป็นผู้แทนบริษัทซึ่งเป็นนิติบุคคล ทั้งข้อความในสัญญาแสดงชัดอยู่ว่าโจทก์เป็นผู้ว่าจ้างจำเลยและหรือทนายความในสำนักงานของจำเลยให้ฟ้องคดีโดยจำเลยตกลงเป็นผู้รับจ้าง จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำในฐานะเป็นผู้แทนของบริษัท แม้สัญญารับมอบงานได้กระทำที่บริษัท แต่ตามพฤติการณ์แสดงว่าจำเลยซึ่งเป็นหัวหน้าสำนักงานได้ทำสัญญารับจ้างว่าความกับโจทก์โดยใช้กระดาษบันทึกข้อความซึ่งมีชื่อบริษัทที่หัวกระดาษทำสัญญากับโจทก์เท่านั้น โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
สัญญาจ้างว่าความได้เลิกกันด้วยการตกลงยินยอมของทั้งสองฝ่ายคู่สัญญาจึงมีสิทธิที่จะได้คืนสู่ฐานะที่เป็นอยู่เดิม โดยวิธีการที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ.มาตรา 391 วรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่ โดยเฉพาะในวรรคสาม โจทก์ผู้ว่าจ้างต้องใช้ค่าแห่งการงานที่จำเลยทำให้โจทก์ด้วยการใช้เงินตามควรค่าแห่งการนั้นโดยคิดค่าจ้างตามรูปคดี หาใช่จำเลยต้องคืนค่าจ้างทั้งหมดโดยคิดเป็นค่าเสียหายของโจทก์ตามที่โจทก์เรียกร้องไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6225/2539

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับสภาพหนี้ของทายาท: สัญญาผูกพันเฉพาะในฐานะทายาท ไม่เกินทรัพย์มรดก
ป. เป็นลูกหนี้โจทก์อยู่ เมื่อ ป. ถึงแก่กรรมแล้วจำเลยทั้งสองทำหนังสือเพื่อชำระหนี้แทน ป. ซึ่งเป็นสามีจำเลยที่ 1 และเป็นบิดาจำเลยที่ 2 โดยจำเลยทั้งสองมิได้เป็นหนี้โจทก์ โดยระบุว่า ขณะทำสัญญาฉบับนี้ ป.ยังคงเป็นลูกหนี้โจทก์อยู่เป็นจำนวนเงิน 2,720,000 บาทจำเลยทั้งสองยินยอมชดใช้หนี้จำนวนดังกล่าวโดยจะชำระเป็นงวดเป็นกรณีที่จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นทายาทของ ป. ทำขึ้นเพื่อยอมรับสภาพหนี้ของเจ้ามรดก มิใช่เป็นการแปลงหนี้ใหม่โดยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้อันจะเป็นเหตุให้มูลหนี้เดิมระหว่างโจทก์กับ ป. ระงับลงเพราะ ป. ได้ถึงแก่กรรมไปก่อนที่จะมีการจัดทำหนังสือดังกล่าวแล้วและข้อความดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงเจตนาที่ยอมตนเข้าผูกพันรับผิดต่อโจทก์ในฐานะทายาทผู้ตายมิใช่รับผิดเป็นส่วนตัวและเป็นสัญญาที่มีผลสมบูรณ์บังคับกันได้ตามกฎหมาย แต่คงรับผิดต่อโจทก์ไม่เกินกว่าทรัพย์มรดกที่จำเลยทั้งสองจะได้รับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6012/2539 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือยินยอมให้เจ้าหนี้ชำระหนี้ก่อนผูกพันลูกหนี้ตามกฎหมาย
การที่ลูกหนี้ทำหนังสือยินยอมให้เจ้าหนี้นำเงินไปชำระหนี้รายใดก่อน เป็นการแสดงเจตนาเพื่อชำระหนี้ของลูกหนี้ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 328 วรรคแรกกระทำเพียงฝ่ายเดียวก็สมบูรณ์ผูกพันลูกหนี้
of 52