คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องไม่สมบูรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 146 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่สมบูรณ์ – วันเวลาการกระทำความผิดไม่ชัดเจน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยยักยอกม้า แต่ฟ้องโจทก์มิได้ระบุหรือกำหนดวันเวลาเกี่ยวแก่การกระทำของจำเลยไว้พอที่จำเลยจะเข้าใจได้ โดยกล่าวไว้กำกวมว่า "จำเลยได้รับมอบหมายม้าจากนางจิบ ให้เป็นผู้นำม้าตัวนี้ไปเลี้ยงรักษาฯ" แล้ว "จำเลยนี้ได้บังอาจทุจริตเบียดบังยักยอกฯ" การมอบม้าได้มอบเมื่อไรในวันหรือหลังจากวันซื้อก็ไม่แน่นอน ยิ่งข้อเท็จจริงตอนกล่าวหาจำเลยทำการยักยอกด้วยแล้ว ไม่ได้ความเลยว่าวันเวลาใด แม้แต่จะเป็นการกะประมาณเพียงที่จะให้เข้าใจ จึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตาม ป.วิ.อาญามาตรา 158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 918/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีทหารกองเกินต้องแสดงหลักฐานการแจ้งให้ทราบเพื่อรับหมายเรียก มิฉะนั้นฟ้องไม่สมบูรณ์
ฟ้องว่า จำเลยไม่มาแสดงตนเพื่อรับหมายเรียกที่อำเภอนั้นถ้าฟ้องโจทก์มิได้บรรยายว่า นายอำเภอได้จัดการประกาศและปิดประกาศไว้ตามข้อกำหนดของกฎหมายแล้ว ถือว่าฟ้องโจทก์ไม่สมบูรณ์ แม้จำเลยจะรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 908/2501

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขอแสดงความเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายหลังคู่สมรสเสียชีวิต และขอเพิกถอนทะเบียนสมรสที่จดทะเบียนกับผู้อื่น เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์
เมื่อคดีได้ความว่าการสมรสของนายทองไทยได้สิ้นสุดลงแล้วโดยการตายของนายทองไทย และโจทก์บรรยายฟ้องขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าโจทก์เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายทองไทยจำเลยมิใช่ภริยา การจดทะเบียนสมรสระหว่างจำเลยกับนายทองไทยเป็นโมฆะขอให้สั่งเพิกถอนเสียนั้น คำขอเช่นนี้ไม่บังเกิดผลอะไรแก่สิทธิในครอบครัวของโจทก์กับนายทองไทยส่วนสิทธิในการรับมรดกของนายทองไทยนั้น โจทก์มิได้ขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้แต่อย่างใด ทำนองจะเลี่ยงค่าธรรมเนียมในการรับมรดก จึงเป็นฟ้องที่ไม่ควรรับไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1130/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีไม้หวงห้าม ต้องบรรยายรายละเอียดประกาศทางกฎหมายในฟ้อง หากไม่บรรยาย ฟ้องไม่สมบูรณ์
ฟ้องว่าตั้งโรงค้าไม้สักแปรรูปและมีไม้สักแปรรูป ไม่ได้รับอนุญาต ถ้าไม่บรรยายในฟ้องว่า ตั้งโรงค้าไม้และมีไม้หวงห้ามซึ่งทางการได้ประกาศตามกฎหมายแล้ว ฟ้องนั้นไม่สมบูรณ์ ลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 990/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแต่งฟ้องโดยผู้ไม่มีอำนาจตาม พ.ร.บ.ทนายความ ถือเป็นฟ้องไม่สมบูรณ์ ศาลไม่รับฟ้อง
ผู้อื่นใดที่มิได้รับอนุญาตเป็นทนายความหรือตัวความหามีอำนาจแต่งฟ้องได้ไม่
เมื่อผู้เรียงคำฟ้องไม่ได้รับอนุญาตเป็นทนายความ ฟ้องโจทก์ก็ไม่เป็นฟ้อง ศาลจะรับไว้ดำเนินคดีต่อไปหาได้ไม่
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 8/2499)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 749-750/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องไม่สมบูรณ์-ขาดลายมือชื่อผู้เรียง-บทลงโทษไม้หวงห้าม-ศาลฎีกายกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยโดยให้วางโทษฐานปาณีตาม ก.ม.อาญา ม.59 และให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้เพราะต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 218
คำขอให้ลงโทษของโจทก์ ๆ มิได้อ้าง พ.ร.บ.ป่ไม้ พ.ศ.2484 ม.69,73 คงอ้างมาแต่ พ.ร.บ.ป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 ม.16,17 เช่นนี้ถือได้แล้วว่าฟ้องโจทก์ได้อ้างมาตราใน ก.ม.ซึ่งบัญญัติว่าการกระทำของจำเลยนั้นเป็นความผิดและความใน พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ม.69,73 ได้ถูกยกเลิกตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 ม.16,17 แล้วเมื่อศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงตามฟ้องโจทก์สืบสม ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยได้แม้ศาลจะอ้าง ม.69 และ 73 แห่งพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 เป็นบทลงโทษด้วยก็หาทำให้จำเลยพ้นผิดไปได้ไม่จึงถือว่าฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่สมบูรรณ์ตาม ป.วิ.อาญา ม.158(6) และการที่ศาลลงโทษจำเลยก็ชอบด้วยกระบวนวิธีพิจารณาแล้ว
ปัญหาว่าฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วย ก.ม.หรือไม่เพราะไม่มีลายมือชื่อผู้เรียงถือว่าเป็นปัญหาข้อ ก.ม.ที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยจะมิได้หยิบยกขึ้นโต้เถียงในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ แต่จำเลยย่อมหยิบยกขึ้นโต้เถียงในชั้นศาลฎีกาได้เสมอ
ปรากฏว่าฟ้องของโจทก์ไม่มีลายมือชื่อผู้เรียงจริง จึงถือว่าไม่เป็นฟ้องตาม ป.วิ.อาญา ม.158(7) ศาลต้องยกฟ้องเสียโดยไม่จำเป็นต้องพิจารณาถึงปัญหาอื่นอีก
จำเลยฎีกาว่าจำเลยได้ชำระค่าปรับตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นไว้แล้ว แต่จำเลยต้องถูกขังเกินกำหนดเวลาที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุกและปรับมา ศาลควรต้องหักเวลาที่ต้องขังเกินกำหนดโดยคิดเป็นเงินวันละ 1 บาท คืนให้จำเลยนั้น กรณีเป็นเรื่องบังคับตามคำพิพากษา เมื่อยังไม่ปรากฏว่าศาลล่างได้มีคำสั่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้อย่างไรย่อมถือว่ายังไม่มีปัญหามาสู่ศาลฎีกา ๆ จึงไม่วินิจฉัยให้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 749-750/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีป่าไม้และการขาดลายมือชื่อผู้เรียงฟ้องส่งผลต่อความชอบด้วยกฎหมายของคำพิพากษา
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยโดยให้วางโทษทั้งจำคุกและปรับ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเพียงเล็กน้อยในข้อให้ลดโทษฐานปราณีตาม กฎหมายอาญา มาตรา 59 และให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกิน 5 ปี จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
คำขอให้ลงโทษของโจทก์ โจทก์มิได้อ้าง พระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ. 2484 มาตรา 69,73 คงอ้างมาแต่ พระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2494 มาตรา16,17 เช่นนี้ถือได้แล้วว่าฟ้องโจทก์ได้อ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการกระทำของจำเลยนั้นเป็นความผิดและความใน พระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ.2484 มาตรา 69,73 ได้ถูกยกเลิกตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2494 มาตรา 16,17 แล้ว เมื่อศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงตามฟ้องโจทก์สืบสมศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยได้แม้ศาลจะอ้าง มาตรา 69 และ 73 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 เป็นบทลงโทษด้วยก็หาทำให้จำเลยพ้นผิดไปได้ไม่จึงถือว่าฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(6) และการที่ศาลลงโทษจำเลยก็ชอบด้วยกระบวนวิธีพิจารณาแล้ว
ปัญหาว่าฟ้องของโจทก์เป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่เพราะไม่มีลายมือชื่อผู้เรียงถือว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยแม้จำเลยจะมิได้หยิบยกขึ้นโต้เถียงในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์แต่จำเลยย่อมหยิบยกขึ้นโต้เถียงในชั้นศาลฎีกาได้เสมอ
ปรากฏว่าฟ้องของโจทก์ไม่มีลายมือชื่อผู้เรียงจริงจึงถือว่าไม่เป็นฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(7) ศาลต้องยกฟ้องเสียโดยไม่จำต้องพิจารณาถึงปัญหาอื่นอีก
จำเลยฎีกาว่าจำเลยได้ชำระค่าปรับตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นไว้แล้วแต่จำเลยต้องถูกขังเกินกำหนดเวลาที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุกและปรับมา ศาลควรต้องหักเวลาที่ต้องขังเกินกำหนดโดยคิดเป็นเงินวันละ1 บาท คืนให้จำเลยนั้นกรณีเป็นเรื่องบังคับตามคำพิพากษาเมื่อยังไม่ปรากฏว่าศาลล่างได้มีคำสั่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้อย่างไรย่อมถือว่ายังไม่มีปัญหามาสู่ศาลฎีกา ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 383/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเบิกความเท็จไม่สมบูรณ์ จำเลยไม่ได้นำความเท็จมาเบิกความ
โจทก์บรรยายฟ้องความผิดฐานเบิกความเท็จตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.155 โดยไม่ได้กล่าวว่าจำเลยนำความที่รู้อยู่ว่าเป็นความเท็จมาเบิกความเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 383/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความไม่สมบูรณ์ของฟ้องเบิกความเท็จเนื่องจากขาดองค์ประกอบสำคัญ
โจทก์บรรยายฟ้องความผิดฐานเบิกความเท็จตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 155 โดยไม่ได้กล่าวว่า จำเลยนำความที่รู้อยู่ว่าเป็นความเท็จมาเบิกความ เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1664/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญาต้องระบุรายละเอียดการกระทำผิดให้ชัดเจน แม้จำเลยรับสารภาพ หากฟ้องไม่สมบูรณ์ ศาลต้องยกฟ้อง
ฟ้องว่าจำเลยตัดไม้หวงห้ามประเภท ก. แต่ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าตัดไม้ในที่หวงห้ามซึ่งทางการได้ประกาศตาม ก.ม.แล้วเช่นนี้เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์
(ประชุมใหญ่คครั้งที่ 4/2499)
ฟ้องไม่สมบูรณ์นั้นแม้จำเลยจะรับสารภาพก็ลงโทษไม่ได้
of 15