คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รุกล้ำ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 109 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1165/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิตัดกิ่งไม้รุกล้ำที่ดิน: การแจ้งให้ตัด vs. การจัดการเองตาม ป.พ.พ. มาตรา 1347
โจทก์จำเลยมีที่ดินเขตติดต่อกันกิ่งยางพาราในที่ดินของจำเลยได้ยื่นล้ำและปกคลุมที่ดินของโจทก์ โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยตัดกิ่งไม้ที่ปกคลุมที่ดินของโจทก์ออกไปให้พ้นโดยกล่าวในฟ้องว่า โจทก์เตือนจำเลยให้ตัดกิ่งยาง จำเลยรับจะตัดแล้วไม่ยอมตัด แต่จำเลยให้การไม่รับรองข้อเท็จจริงข้อนี้ กลับต่อสู้ว่า โจทก์เคยจัดการตัดเอาเอง จำเลยก็ไม่ว่ากล่าวอย่างไร โจทก์ไม่เคยเกี่ยวข้องห้ามปรามจำเลยจำเลยไม่เคยสัญญาจะตัดกิ่งยางให้ ดังนี้ ข้อเท็จจริงเรื่องการบอกกล่าวยังไม่แจ้งชัด ฉะนั้น ศาลจะชี้ขาดว่า โจทก์อาจตัดกิ่งยางเอาเองนั้นได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1347 หาได้ไม่
ตาม มาตรา 1347 มิได้ห้าม เจ้าของที่ดินติดต่อใช้สิทธิทางศาลหากเป็นเพียงอนุญาตไว้เพราะในบางกรณีอาจฉุกเฉินรีบด่วน และเจ้าของที่ดินติดต่ออีกฝ่ายหนึ่งได้ละเลยเพิกเฉยต่อคำบอกกล่าวและถ้าจะไปใช้สิทธิทางศาลอาจไม่รวดเร็วทันกับความจำเป็น ก็ให้เจ้าของที่ดินที่ได้รับความเดือดร้อนนั้น จัดการเอาเองได้โดยกฎหมาย ไม่ถือเป็นละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1165/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิตัดกิ่งไม้รุกล้ำที่ดินติดต่อ และการใช้สิทธิทางศาลเมื่อข้อเท็จจริงไม่ชัดเจน
โจทก์จำเลยมีที่ดินเขตติดต่อกันกิ่งยางพาราในที่ดินของจำเลยได้ยื่นล้ำและปกคลุมที่ดินของโจทก์ โจทก์จึงฟ้องขอให้จำเลยตัดกิ่งไม้ที่ปกคลุมที่ดินของโจทก์ออกไปให้พ้น โดยกล่าวในฟ้องว่า โจทก์เตือนจำเลยให้ตัดกิ่งยาง จำเลยรับจะตัดแล้วไม่ยอมตัด แต่จำเลยให้การไม่รับรองข้อเท็จจริงข้อนี้ กลับต่อสู้ว่า โจทก์เคยจัดการตัดเอาเอง จำเลยก็ไม่ว่ากล่าวอย่างไรโจทก์ไม่เคยเกี่ยวข้องห้ามปรามจำเลย จำเลยไม่เคยสัญญาจะตัดกิ่งยางให้ ดังนี้ ข้อเท็จจริงเรื่องการบอกกล่าวยังไม่แจ้งชัด ฉะนั้นศาลจะชี้ขาดว่า โจทก์อาจตัดกิ่งยางเอาเองนั้นได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1347 หาได้ไม่
ตาม มาตรา 1347 มิได้ห้ามเจ้าของที่ดินติดต่อใช้สิทธิทางศาล(หากเป็นเพียงอนุญาตไว้เพราะในบางกรณีอาจฉุกเฉินรีบด่วน และเจ้าของที่ดินติดต่ออีกฝ่ายหนึ่งได้ละเลยเพิกเฉยต่อคำบอกกล่าว และถ้าจะไปใช้สิทธิทางศาลอาจไม่รวดเร็วทันกับความจำเป็น ก็ให้เจ้าของที่ดินที่ได้รับความเดือดร้อนนั้น จัดการเอาเองได้โดยกฎหมายไม่ถือเป็นละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1846/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของที่ดินตัดกิ่งไม้รุกล้ำ และเจตนาทางอาญาของผู้กระทำ
ในทางแพ่ง ถ้าจำเลยได้บอกกล่าวโจทก์เสียก่อนและให้เวลาพอสมควรแล้ว จำเลยก็อาจตัดกิ่งไม้ของโจทก์ที่ยื่นล้ำที่ของจำเลยเข้าไปนั้นได้
ส่วนในทางอาญา ต้องพิจารณาเจตนาของจำเลยเป็นเรื่องๆไป ถ้าตามพฤติการณ์ที่ปรากฏเป็นที่เห็นได้ว่าจำเลยไม่มีเจตนาทำผิดทางอาญา แม้จำเลยไม่ได้บอกกล่าวโจทก์เสียก่อน จำเลยก็ตัดกิ่งไม้ที่ยื่นรุกล้ำเข้ามาในที่ของตนได้ เพราะเป็นเรื่องที่จำเลยเพียงแต่กระทำการป้องกันกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินของตนตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้โดยทั่วๆ ไป หากแต่จำเลยมิได้ปฏิบัติการให้ครบถ้วนตามวิธีการที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1347 เท่านั้น(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2501)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1574/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทางสาธารณะ การฟ้องร่วม และค่าเสียหายรวม: กรณีรุกล้ำทางเดินสาธารณะ
จำเลยหลายคนสมคบกันทำนารุกล้ำและล้อมรั้วปิดทางเดินสาธารณะ มีผู้เสียหายซึ่งต่างก็ใช้ทางสาธารณะนั้นหลายคน ผู้เสียหายเหล่านั้นย่อมรวมกันเป็นโจทก์ร่วมฟ้องจำเลยเหล่านั้นเป็นคดีเดียวกันได้ เพราะว่ามีผลประโยชน์ร่วมกันในมูลความแห่งคดี และค่าเสียหายจะกล่าวรวมกันมาก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1574/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทางสาธารณะ การฟ้องร่วม และค่าเสียหายรวม: การรุกล้ำทางสาธารณะโดยจำเลยหลายคน ผู้เสียหายร่วมกันฟ้องได้
จำเลยหลายคนสมคบกันทำนารุกล้ำและล้อมรั้วปิดทางเดินสาธารณะ มีผู้เสียหายซึ่งต่างก็ใช้ทางสาธารณะนั้นหลายคน ผู้เสียหายเหล่านั้นย่อมรวมกันเป็นโจทก์ร่วมฟ้องจำเลยเหล่านั้นเป็นคดีเดียวกันได้ เพราะว่ามีผลประโยชน์ร่วมกันในมูลความแห่งคดี และค่าเสียหายจะกล่าวรวมกันมาก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2031/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและการรุกล้ำต่อเนื่อง แม้ไม่มีคำขอเฉพาะเจาะจงในคำฟ้องเดิม ก็สามารถบังคับได้หากเชื่อมโยงกับการปฏิบัติตามคำพิพากษา
เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยซื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหมายเลข 5-6 และ 7 ออกจากที่พิพาท โจทก์จึงมาขอให้ศาลบังคับจำเลยในคดีนี้ฉะเพาะห้องหมายเลข 5 เมื่อปรากฎว่าจำเลยรื้อไปเพียง 3 ด้าน เหลือด้านที่ติดต่อกับที่ดินของจำเลยไว้หนึ่งด้าน แล้วจำเลยกลับทำต่อเติมติดต่อกับเรือนของจำเลยเป็นเหตุให้ชายคาน้ำตกที่ต่อเติมล้ำเข้าไปในที่พิพาทของโจทก์ ดังนี้แม้ในคำพิพากษาจะมิได้วินิจฉัยเกี่ยวถึงเรื่องการรุกล้ำชายคาน้ำตกซึ่งมีอยู่ก่อนนั้นก็ตาม โจทก์ก็มีสิทธิ์ขอให้ศาลสั่งจำเลยรื้อชายคาน้ำตกส่วนที่รุกล้ำเข้าไปในที่ของโจทก์ได้ โจทก์ไม่จำเป็นต้องฟ้องเป็นคดีใหม่ และไม่เป็นการสั่งเกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 123/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การก่อสร้างรุกล้ำคลองชลประทานโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การชลประทานหลวง
ปลูกห้องแถวรุกล้ำเข้าไปบนชานคลองภาษีเจริญ และปักเสาทำเขื่อนรุกล้ำลงไปในทางน้ำคลองภาษีเจริญ โดยมิได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากนายช่างชลประทานย่อมมีความผิดตามพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง พ.ศ.2485

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 395/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้เช่าที่ดินเมื่อมีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำ และผลกระทบเมื่อกรรมสิทธิ์ในสิ่งปลูกสร้างเปลี่ยนมือ
ผู้เช่าทำสัญญาเช่าที่ดินจาก นายหยินเจ้าของที่ แต่ปรากฏว่ามีผู้ละเมิด เข้าไปปลูกห้องแถวในที่เช่าแปลงนั้น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดิน อยู่ก่อนแล้ว ดังนี้ ผู้เช่ายังไม่มีอำนาจที่จะฟ้องขอให้ขับไล่ผู้ปลูกห้องแถวและผู้อยู่ ให้ออกไปจากที่เช่า เพราะเป็นเรื่องผู้เช่าจะว่ากล่าว เอาแก่ผู้ให้เช่าซึ่งเป็นคู่สัญญา ให้ส่งมอบการครอบครองที่เช่าให้แก่ตนทั้งหมด
มีผู้เช่าไปปลูกห้องแถวในที่ดินของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของทีดิน แต่ภายหลังได้โอนหลุดเป็นกรรมสิทธิแก่ผู้รับจำนองไปแล้ว เจ้าของที่ดินจะมาฟ้องผู้ปลูกสร้าง ขอให้ศาลบังคับให้ผู้ปลูกสร้างรื้อห้องแถวนั้นออกไปจากที่ดินของตนไม่ได้ เพราะผู้ปลูกสร้างห้องแถวนั้นไม่อยู่ในฐานะที่จะถูกฟ้องขับไล่เสียแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 959/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การปลูกพืชรุกล้ำทางหลวงไม่เป็นความผิดทางอาญา
จำเลยปลูกพืชผลทำสวนครัวรุกล้ำเข้าไปในทางหลวง เป็นเหตุให้ขัดข้องแก่ความสะดวกในการไปมาของสาธารณชนนั้น ยังไม่ต้องด้วยกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 336(1),(2) (อ้างฎีกาที่ 411/2494)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 81/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิในที่ดิน: การกรีดน้ำยางหลังศาลตัดสินคดีถึงที่สุด ถือเป็นการรุกล้ำทรัพย์สิน
โจทก์จำเลยต่างเถียงกรรมสิทธิในสวนยางกัน จนคดีถึงศาล ศาลชั้นต้นพิพากษาห้ามไม่ให้โจทก์(ซึ่งเป็นจำเลยในคดีเดิม) เกี่ยวข้องกับสวนพิพาท จำเลยจึงเข้ากรีดยาง แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้โจทก์ชนะ ศาลฎีกาพิพากษายืนทีสวนยางนี้เป็นของโจทก์เพราะศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้ว เมื่อปรากฎว่าจำเลยได้กรีดยางในสวนยางนี้ตั้งแต่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้พิพากษากลับ ดังนี้ จำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์ ในการที่จำเลยกรีดน้ำยางในสวนยางของโจทก์
of 11