คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ละเมิดอำนาจศาล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 150 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2616/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดอำนาจศาล: การไต่สวนที่ไม่ชอบและขอบเขตการละเมิด
คดีละเมิดอำนาจศาล ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนโดยไม่ชอบ เนื่องจากไม่อนุญาตให้ผู้ถูกกล่าวหาถามค้านพยานที่ศาลหมายเรียกมาไต่สวน และไม่อนุญาตให้ผู้ถูกกล่าวหานำพยานของตนเข้าสืบ การที่ผู้ถูกกล่าวหาฎีกาว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาไม่เป็นการละเมิดอำนาจศาลดังนี้ มิใช่เป็นฎีกาที่คัดค้านข้อชี้ขาดคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1896/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวิพากษ์วิจารณ์แนวปฏิบัติศาลเกี่ยวกับการสาบานตนของผู้ขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย ไม่เข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล
ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เขียนข้อความลงพิมพ์โฆษณาในหนังสือพิมพ์มีใจความเพียงว่ากฎหมายระบุให้ผู้ยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาต้องสาบานตนว่าเป็นคนยากจน ซึ่งทางปฏิบัติมักจะดำเนินการต่อหน้าศาล แต่ที่ศาลจังหวัดปราจีนบุรีเจ้าพนักงานของศาลให้ผู้ร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถากล่าวคำสาบานตรงหน้าที่รับส่งคำคู่ความ ทำให้ผู้คนมองกันเป็นตาเดียว เหมือนกับเป็นการประจานความยากจนของผู้ร้อง จึงอยากจะให้มีการปรับปรุงแก้ไขเสียให้ถูกต้อง แม้ข้อความที่ว่าการสาบานตนว่าเป็นคนยากจน ทางปฏิบัติมักจะดำเนินการต่อหน้าศาลนั้นจะไม่ตรงกับข้อเท็จจริงก็ตาม แต่ข้อความทั้งหมดก็เป็นเพียงความเห็นที่เสนอแนะให้ปรับปรุงแก้ไขการสาบานตนว่าเป็นคนยากจนไม่ให้ทำต่อหน้าผู้อื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงเห็นได้อย่างชัดแจ้งว่าข้อความหรือความเห็นดังกล่าวไม่ทำให้มีอิทธิพลเหนือความรู้สึกของประชาชน หรือเหนือศาล หรือเหนือคู่ความหรือเหนือพยานแห่งคดีที่ผู้ถูกกล่าวหาฟ้อง สหกรณ์การเกษตรเมืองปราจีนบุรี จำกัดหรือในเรื่องที่ผู้ถูกกล่าวหาร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในคดีดังกล่าว ซึ่งพอเห็นได้ว่าจะทำให้การพิจารณาคดีเสียความยุติธรรมไปแต่อย่างใดผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นผู้เขียนบทความและเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ดังกล่าวจึงยังไม่มีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 32.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1896/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวิจารณ์แนวปฏิบัติศาลและการละเมิดอำนาจศาล: ข้อความเสนอแนะปรับปรุงไม่ใช่ละเมิด
ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เขียนข้อความลงพิมพ์โฆษณาในหนังสือพิมพ์มีใจความเพียงว่ากฎหมายระบุให้ผู้ยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาต้องสาบานตนว่าเป็นคนยากจน ซึ่งทางปฏิบัติมักจะดำเนินการต่อหน้าศาล แต่ที่ศาลจังหวัดปราจีนบุรีเจ้าพนักงานของศาลให้ผู้ร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถากล่าวคำสาบานตรงหน้าที่รับส่งคำคู่ความทำให้ผู้คนมองกันเป็นตาเดียว เหมือนกับเป็นการประจานความยากจนของผู้ร้อง จึงอยากจะให้มีการปรับปรุงแก้ไขเสียให้ถูกต้องแม้ข้อความที่ว่าการสาบานตนว่าเป็นคนยากจน ทางปฏิบัติมักจะดำเนินการต่อหน้าศาลนั้นจะไม่ตรงกับข้อเท็จจริงก็ตาม แต่ข้อความทั้งหมดก็เป็นเพียงความเห็นที่เสนอแนะให้ปรับปรุงแก้ไขการสาบานตนว่าเป็นคนยากจนไม่ให้ทำต่อหน้าผู้อื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจึงเห็นได้อย่างชัดแจ้งว่าข้อความหรือความเห็นดังกล่าวไม่ทำให้มีอิทธิพลเหนือความรู้สึกของประชาชน หรือเหนือศาล หรือเหนือคู่ความหรือเหนือพยานแห่งคดีที่ผู้ถูกกล่าวหาฟ้องสหกรณ์การเกษตรเมืองปราจีนบุรี จำกัด หรือในเรื่องที่ผู้ถูกกล่าวหาร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในคดีดังกล่าว ซึ่งพอเห็นได้ว่าจะทำให้การพิจารณาคดีเสียความยุติธรรมไปแต่อย่างใด ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นผู้เขียนบทความและเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ดังกล่าว จึงยังไม่มีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 32

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1896/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวิพากษ์วิจารณ์แนวปฏิบัติการสาบานตนของศาล ไม่เป็นละเมิดอำนาจศาล
ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เขียนข้อความลงพิมพ์โฆษณาในหนังสือพิมพ์มีใจความเพียงว่ากฎหมายระบุให้ผู้ยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาต้องสาบานตนว่าเป็นคนยากจน ซึ่งทางปฏิบัติมักจะดำเนินการต่อหน้าศาล แต่ที่ศาลจังหวัดปราจีนบุรีเจ้าพนักงานของศาลให้ผู้ร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถากล่าวคำสาบานตรงหน้าที่รับส่งคำคู่ความ ทำให้ผู้คนมองกันเป็นตาเดียว เหมือนกับเป้นการประจานความยากจนของผู้ร้อง จึงอยากจะให้มีการปรับปรุงแก้ไขเสียให้ถูกต้อง แม้ข้อความที่ว่าการสาบานตนว่าเป็นคนยากจน ทางปฏิบัติมักจะดำเนินการต่อหน้าศาลนั้นจะไม่ตรงกับข้อเท็จจริงก็ตาม แต่ข้อความทั้งหมดก็เป็นเพียงความเห็นที่เสนอแนะให้ปรับปรุงแก้ไขการสาบานตนว่าเป็นคนยากจนไม่ให้ทำต่อหน้าผู้อื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จึงเห็นได้อย่างชัดแจ้งว่าข้อความหรือความเห็นดังกล่าวไม่ทำให้มีอิทธิพลเหนือความรู้สึกของประชาชน หรือเหนือศาล หรือเหนือคู่ความหรือเหนือพยานแห่งคดีที่ผู้ถูกกล่าวหาฟ้องสหกรณ์การเกษตรเมืองปราจีนบุรี จำกัดหรือในเรื่องที่ผู้ถูกกล่าวหาร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในคดีดังกล่าว ซึ่งพอเห็นได้ว่าจะทำให้การพิจารณาคดีเสียความยุติธรรมไปแต่อย่างใดผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นผู้เขียนบทความและเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ดังกล่าวจึงยังไม่มีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 32.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2678/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดอำนาจศาล: การแจ้งข้อมูลเท็จเกี่ยวกับความตายเพื่อหลีกเลี่ยงคดี
เมื่อศาลชั้นต้นทำการไต่สวนได้ความจากคำเบิกความของนาง ต. นาย ศ. เองว่า นาง ต. นาย ศ. กระทำความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลแล้ว ศาลก็ลงโทษได้โดยไม่จำเป็นต้องฟังพยานหลักฐานอื่นใดต่อไปอีก
นาย ก. ผู้รับมอบอำนาจจากนายประกันยื่นคำแถลงต่อศาลชั้นต้นว่า จำเลยที่ 2 ถึงแก่ความตายตามมรรณบัตรโดยได้รับแจ้งจากนาง ต. เมื่อศาลเรียกนาง ต. ไปสอบถาม นาง ต. ก็แถลงยืนยันว่าจำเลยที่ 2 ถึงแก่ความตาย และนาย ศ.ออกมรณบัตรให้นาง ต.พิมพ์ลายนิ้วมือในฐานะผู้แจ้งไว้ เมื่อข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่า จำเลยที่ 2 ถึงแก่ความตาย การที่นาง ต. มอบมรณบัตรที่แสดงว่าจำเลยที่ 2 ถึงแก่ความตายให้นาย ก. นำไปยื่นแสดงต่อศาลชั้นต้น และการที่นาง ต. แถลงยืนยันต่อศาลชั้นต้นว่าจำเลยที่ 2 ถึงแก่ความตาย จึงเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล
นาย ศ. ออกมรณบัตรแสดงว่าจำเลยที่ 2 ถึงแก่ความตายให้นาง ต.ไปโดยรู้ว่าไม่ตรงกับความเป็นจริง และรู้เห็นด้วยในการที่นาง ต. นำมรณบัตรนั้นให้นาย ก. ไปยื่นแสดงต่อศาลชั้นต้น แม้นาย ศ.มิได้นำมรณบัตรนั้นไปยื่นแสดงต่อศาลชั้นต้นเอง พฤติการณ์ของนาย ศ. ดังกล่าวก็เป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลเช่นเดียวกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3720/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดอำนาจศาล: การประพฤติตนไม่เรียบร้อยในศาล แม้ไม่มีข้อกำหนดศาลก็ลงโทษได้
การรักษาความเรียบร้อยในบริเวณศาลเท่านั้นที่ศาลจะต้องออกข้อกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30 ส่วนการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลซึ่งเป็นความผิดโดยสภาพ มาตรา 30 หาได้บัญญัติให้ศาลจำต้องออกข้อกำหนดแต่อย่างใดไม่ ดังนั้น เมื่อผู้ถูกกล่าวหาประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล ศาลย่อมมีอำนาจสั่งลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาลได้ทันที
ระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นพยายามควบคุมการพิจารณาเกี่ยวกับการใช้คำถามและให้อยู่ในระเบียบ แต่ผู้ถูกกล่าวหาแสดงอาการไม่พอใจและพูดว่าเป็นทนายจบนิติศาสตร์มหาบัณฑิต จะไม่ถามความเฮงซวย โดยพูดซ้ำถึง 3 ครั้งต่อหน้าศาล คู่ความตำรวจและผู้ที่มาฟังการพิจารณา กิริยาและวาจาที่ผู้ถูกกล่าวหาแสดงออกมาดังกล่าวแล้วมีลักษณะเป็นการท้าทายไม่เคารพยำเกรงศาล การที่ผู้ถูกกล่าวหาได้รับการศึกษามาสูงพอสมควรและได้รับใบอนุญาตให้เป็นทนายความชั้นหนึ่ง เคยว่าความในศาลมามาก ย่อมจะรู้ว่าการแสดงกิริยาและวาจาดังกล่าว มีความหมายและความมุ่งหมายอย่างไร ที่พจนานุกรมให้ความหมายของคำว่า "เฮง" ไว้ว่า "โชคดีหรือเคราะห์ดี" และคำว่า "เฮงซวย" ว่า "เอาแน่นอนอะไรไม่ได้" นั้นไม่อาจกลบเกลื่อนเจตนาอันแท้จริงของผู้ถูกกล่าวหาได้การกระทำของ ผู้ถูกกล่าวหาจึงเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3720/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดอำนาจศาล: การประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล ศาลมีอำนาจลงโทษทันทีโดยไม่ต้องออกข้อกำหนด
การรักษาความเรียบร้อยในบริเวณศาลเท่านั้นที่ศาลจะต้องออกข้อกำหนดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 30ส่วนการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลซึ่งเป็นความผิดโดยสภาพมาตรา 30 หาได้บัญญัติให้ศาลจำต้องออกข้อกำหนดแต่อย่างใดไม่ ดังนั้น เมื่อผู้ถูกกล่าวหาประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล ศาลย่อมมีอำนาจสั่งลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาลได้ทันที
ระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นพยายามควบคุมการพิจารณาเกี่ยวกับการใช้คำถามและให้อยู่ในระเบียบ แต่ผู้ถูกกล่าวหาแสดงอาการไม่พอใจ และพูดว่าเป็นทนายจบนิติศาสตร์มหาบัณฑิตจะไม่ถามความเฮงซวย โดยพูดซ้ำถึง3ครั้งต่อหน้าศาลคู่ความตำรวจและผู้ที่มาฟังการพิจารณา กิริยาและวาจาที่ผู้ถูกกล่าวหาแสดงออกมาดังกล่าวแล้วมีลักษณะ เป็นการท้าทาย ไม่เคารพยำเกรงศาล การที่ผู้ถูกกล่าวหาได้รับการศึกษามาสูงพอสมควรและได้รับใบอนุญาตให้เป็นทนายความชั้นหนึ่งเคยว่าความในศาลมามาก ย่อมจะรู้ว่าการแสดงกิริยาและวาจาดังกล่าว มีความหมายและความมุ่งหมายอย่างไรที่พจนานุกรมให้ความหมายของคำว่า 'เฮง'ไว้ว่า'โชคดีหรือเคราะห์ดี'และคำว่า'เฮงซวย'ว่า'เอาแน่นอนอะไรไม่ได้'นั้นไม่อาจกลบเกลื่อนเจตนาอันแท้จริงของผู้ถูกกล่าวหาได้การกระทำของ ผู้ถูกกล่าวหาจึงเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 271/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรียกรับเงินค่าธรรมเนียมฟ้องด่วนโดยไม่มีกฎหมายรองรับของเจ้าหน้าที่ศาล ถือเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อย ละเมิดอำนาจศาล
การที่ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งเป็นนักการที่ทำการอัยการจังหวัดพังงาและเป็นผู้นำตัวจำเลยมาศาลพร้อมกับคำฟ้อง ได้เรียกและรับเงินไปจากจำเลย โดยอ้างว่าเป็นค่าธรรมเนียมในการฟ้องด่วนนั้น ไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้กระทำได้ เห็นได้ว่า เป็นการแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองโดยแท้ เมื่อผู้ถูกกล่าวหาเรียกและรับเงินที่ห้องพักอัยการซึ่งอยู่บริเวณศาล จึงเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล อันเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31(1) ทั้งนี้โดยมิต้องคำนึงว่าผู้ถูกกล่าวหามีเจตนาจะให้มีผลกระทบถึงศาลหรือไม่หรือการกระทำดังกล่าวจะมีผลทำให้ศาลได้รับความเสียหายหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2695-2696/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดอำนาจศาล: การแถลงเท็จ/ขัดขวางการพิจารณาคดี และการแจ้งความเท็จเกี่ยวกับมรณกรรม
ทนายความแถลงต่อศาลว่า บ.จะอยู่กับตัวความหรือไม่ไม่ทราบและจะนำตัว บ.มาศาลได้หรือไม่ก็ไม่ทราบ แม้จะเป็นการแถลงเพื่อผลประโยชน์ของตัวความซึ่งเป็นคู่ความในคดีก็จริงอยู่แต่ก็จะถือว่าการแถลงดังกล่าวเป็นการกระทำของตัวความต่อศาลเพื่อวินิจฉัยว่าเป้นการละเมิดอำนาจศาลไม่ได้ เพราะการกระทำความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลนั้น ผู้กระทำผิดจะต้องรับโทษทางอาญาจึงต้องพิเคราะห์เจตนาขอบงผู้ที่จะต้องรับโทษประกอบด้วย เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าขณะที่ทนายแถลงต่อศาลดังกล่าวตัวความมิได้อยู่ร่วมรู้เห็นในห้องพิจารณาด้วยโดยมิได้มาศาลในวันนั้นย่อมไม่อาจทราบได้ว่า ทนายของตนได้แถลงต่อศาลว่าอย่างไรจึงถือว่าตัวความแถลงข้อความดังกล่าวอันเป็นเท็จในการพิจารณาของศาล ซึ่งจะเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลไม่ได้
ผู้ร้องทั้งสองสำนวนยื่นคำร้อ ขอให้ศาลมีคำสั่งว่า บ.เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถสำนวนหนึ่ง และเป็นบุคคลไร้ความสามารถอีกสำนวนหนึ่งในวันนัดสืบพยานผู้ร้อง ผู้ร้องแถลงต่อศาลไม่สามารถนำตัว บ.มาศาลได้เนื่องจากไปอยู่กับผู้คัดค้านที่ 1 ทนายของผู้คัดค้านที่ 1 แถลงว่า บ.จะอยู่กับผู้คัดค้านที่ 1 หรือไม่ ไม่ทราบ จะนำตัวมาศาลได้หรือไม่ก็ไม่ทราบ ศาลจึงมีคำสั่งเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2523 ว่า ให้ไต่สวนว่าบ.อยู่กับผู้คัดค้านที่ 1 หรือไม่ ครั้นศาลไต่สวนพยานผู้ร้องเสร็จแล้ว ในระหว่างนัดไต่สวนพยานผู้คัดค้านที่ 1 ฝ่ายผู้คัดค้านที่ 1 ขอเลื่อนการพิจารณาไปหลายครั้ง ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2524 ผู้คัดค้านที่ 1ได้ให้ทนายยื่นคำร้องขอระบุพยานเพิ่มเติม และขอส่งประเด็นไปสืบพยานเหล่านั้นที่ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อแสดงว่า บ.อยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรีซึ่งเป็นความเท็จศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาต และถือว่าผู้คัดค้านที่ 1 ไม่มีพยานมาสืบ แล้วมีคำสั่งในวันที่ 29 ธันวาคม 2524 ว่า บ.อยู่กับผู้คัดค้านที่ 1 มีความจำเป็นต้องให้ได้ตัวมาตรวจดู ให้นัดพร้อมวันที่2 กุมภาพันธ์ 2525 ครั้นวันที่ 28 มกราคม 2525 ผู้คัดค้านที่ 1 ได้ให้ทนายยื่นคำแถลงว่า บ.ได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2524ปรากฏตามสำเนาใบมรณบัตรท้ายคำแถลง (ซึ่งผู้คัดค้านที่ 1 เองเป็นผู้ไปแจ้งการตาย) ขอให้ศาลจำหน่ายคดี ดังนี้ การกระทำขอผู้คัดค้านที่ 1 ดังกล่าว แสดงให้เห็นเจตนาของผู้คัดค้านที่ 1 ที่จะขัดขวางมิให้การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลเป็นไปโดยรวดเร็วและเที่ยงธรรม ถือได้ว่าเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 31(1) ผู้คัดค้านที่ 1 จึงมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1159/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดอำนาจศาล: การปลอมลายมือชื่อผู้ขอประกันเพื่อยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว
ในคำร้องขอให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวมีลายมือชื่อ ส. ในช่องผู้ขอประกันซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นลายมือชื่อปลอมและมีลายมือชื่อจำเลย พฤติการณ์แห่งคดีฟังได้ว่า จำเลยรู้เห็นในการปลอมลายมือชื่อ ส. ในช่องผู้ขอประกันแล้วให้นำมายื่นต่อศาลชั้นต้นและแถลงเท็จต่อศาล การกระทำของจำเลยจึงเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาลอันเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31และมาตรา 33
ความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล เป็นความผิดต่อศาล ถ้าได้กระทำต่อหน้าศาล ข้อเท็จจริงอันเป็นความผิดก็จะปรากฏต่อศาลแล้ว ศาลย่อมลงโทษได้ทันที แต่ถ้ามิได้กระทำต่อหน้าศาลหรือศาลยังไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฏต่อศาลนั้นจะเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ ศาลก็ชอบที่จะไต่สวนหาความจริงในภายหลังได้
บทบัญญัติเรื่องละเมิดอำนาจศาลเป็นกฎหมายพิเศษที่ศาลมีอำนาจค้นหาความจริงได้โดยไม่จำต้องกระทำต่อหน้าจำเลยดังเช่นการพิจารณาคดีอาญาทั่วไป การที่ศาลชั้นต้นบันทึกถ้อยคำของ ส. ไว้ในแบบพิมพ์คำให้การโดย ส. ได้ปฏิญาณหรือสาบานตนแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 112 แม้จะมิได้กระทำต่อหน้าจำเลย ก็เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ชอบแล้ว
ศาลล่างมิได้อ้างบทกฎหมายที่เป็นบทลงโทษจำเลย ศาลฎีกาเห็นสมควรปรับบทเสียให้ถูกต้องได้
of 15