คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
วัตถุประสงค์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 189 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1127/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติบุคคลเป็นผู้จัดการมรดกได้ หากไม่ขัดวัตถุประสงค์ และไม่เป็นหน้าที่เฉพาะบุคคล
สิทธิและหน้าที่ของผู้จัดการมรดกนั้นโดยสภาพมิใช่สิทธิและหน้าที่ที่จะพึงมีพึงเป็นได้เฉพาะแก่บุคคลธรรมดา
บุคคลที่ต้องห้ามมิให้เป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1718 ย่อมนำมาใช้แก่นิติบุคคลได้เท่าที่ไม่ขัดกับสภาพของนิติบุคคล
ไม่มีบทกฎหมายใดห้ามนิติบุคคลมิให้เป็นผู้จัดการมรดก ฉะนั้น ถ้าไม่ขัดกับวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับหรือตราสารจัดตั้งของนิติบุคคลนั้นแล้ว ศาลย่อมตั้งนิติบุคคล
เป็นผู้จัดการมรดกได้ตามที่เห็นสมควร ผู้ร้องซึ่งเป็นวัดขอเป็นผู้จัดการมรดกซึ่งจะเป็นสมบัติของวัด วัดจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ย่อมกระทำโดยเจ้าอาวาสซึ่งเป็นผู้แทนของวัดเป็นผู้แสดงให้ปรากฏตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 75 จึงเห็นสมควรทั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2524)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1127/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติบุคคลเป็นผู้จัดการมรดกได้ หากไม่ขัดต่อวัตถุประสงค์และกฎหมาย
สิทธิและหน้าที่ของผู้จัดการมรดกนั้นโดยสภาพมิใช่สิทธิและหน้าที่ที่จะพึงมีพึงเป็นได้เฉพาะแก่บุคคลธรรมดา
บุคคลที่ต้องห้ามมิให้เป็นผู้จัดการมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1718 ย่อมนำมาใช้แก่นิติบุคคลได้เท่าที่ไม่ขัดกับสภาพของนิติบุคคล
ไม่มีบทกฎหมายใดห้ามนิติบุคคลมิให้เป็นผู้จัดการมรดกฉะนั้น ถ้าไม่ขัดกับวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับหรือตราสารจัดตั้งของนิติบุคคลนั้นแล้ว ศาลย่อมตั้งนิติบุคคลเป็นผู้จัดการมรดกได้ตามที่เห็นสมควร ผู้ร้องซึ่งเป็นวัดขอเป็นผู้จัดการมรดกซึ่งจะเป็นสมบัติของวัด วัดจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ย่อมกระทำโดยเจ้าอาวาสซึ่งเป็นผู้แทนของวัดเป็นผู้แสดงให้ปรากฏตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 75 จึงเห็นสมควรตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2524)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 307/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วัตถุประสงค์บริษัทจำกัดกับการค้ำประกัน: การตีความขอบเขตอำนาจตามหนังสือบริคณห์สนธิ
ตามหนังสือบริคณห์สนธิของจำเลยที่ 3 ปรากฏในข้อ 3(6) ว่ามีวัตถุประสงค์ในการจำนอง ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับการค้ำประกันเพื่อชำระหนี้ ดังนี้ ต้องถือว่าการค้ำประกันอยู่ในวัตถุประสงค์ของจำเลยที่ 3 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1301/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องของนิติบุคคล: วัตถุประสงค์ของบริษัทจำกัดตามหนังสือบริคณห์สนธิที่จดทะเบียนแล้ว ถือเป็นที่รู้แก่บุคคลทั่วไป
โจทก์บรรยายฟ้องแล้วว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด จดทะเบียนเลขที่ 1430 ถึงแม้ว่าจะมิได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ แต่การจัดตั้งบริษัทจำกัดนั้น จะต้องนำหนังสือบริคณห์สนธิไปจดทะเบียนและนายทะเบียนจะต้องแต่งย่อรายการไปลงพิมพ์โฆษณาในหนังสือราชกิจจานุเบกษา ซึ่งตามกฎหมายให้ถือว่าเป็นอันแก่บุคคลทั้งปวง จึงต้องถือว่าจำเลยทราบวัตถุประสงค์ของโจทก์ในหนังสือบริคณห์สนธิแล้ว โจทก์ไม่จำต้องบรรยายวัตถุประสงค์มาในฟ้องอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1062/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีเช็ค: ผู้รับเช็คโดยชอบธรรม แม้มีวัตถุประสงค์ทางธุรกิจจำกัด ย่อมมีสิทธิเรียกร้องเมื่อเช็คไม่สามารถเรียกเก็บได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คให้แก่ อ. แล้ว อ. สลักหลังชำระหนี้ให้โจทก์ โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ดังนี้ จำเลยโต้แย้งไม่ได้ว่าที่โจทก์รับเช็คนั้นไว้เป็นการนอกวัตถุประสงค์ของห้างโจทก์ตามที่จดทะเบียนไว้
เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว และจำเลยไม่ชำระเงินให้โจทก์ โจทก์ได้รับความเสียหาย จึงเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 701/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์: การพิจารณาจากวัตถุประสงค์การผลิตและการใช้งานจริง
คำว่า "ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในทางการแพทย์หรือทันตกรรม" ตามบัญชีที่ 3 หมวด2(4) ท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นและลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่43)พ.ศ.2516 ซึ่งจะต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 1.5 ของรายรับนั้น มิได้มีบทวิเคราะห์ศัพท์ไว้ว่าหมายถึงผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง จึงต้องวินิจฉัยจากสภาพความเป็นจริงของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ว่าได้ผลิตขึ้นมุ่งประสงค์ใช้ในทางการแพทย์หรือทันตกรรมหรือไม่ ส่วนการที่ผู้ใช้บางคนจะนำเอาไปใช้ในกิจการอย่างอื่นผิดปกติวิสัยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง กฎหมายมิได้จำกัดว่าผลิตภัณฑ์ที่จะเข้าข่ายตามบัญชีที่ 3 หมวด 2(4)จะต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในทางการแพทย์หรือทันตกรรมโดยเฉพาะใช้ในกิจการอย่างอื่นไม่ได้เลย ดังนั้น ถ้วยยา กล่องใส่เครื่องมือแพทย์ ปากคีบ และจานรูปไต ที่โจทก์ผลิตขึ้นโดยมีลักษณะเฉพาะและใช้วัสดุในการผลิตเป็นพิเศษแสดงให้เห็นว่าผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายเป็นเครื่องใช้สำหรับการแพทย์และทันตกรรมเท่านั้น จึงถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ตามบัญชีที่ 3 หมวด 2(4) ท้ายพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 589/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลิตภัณฑ์ชงดื่มและข้อยกเว้นภาษีการค้า: การประเมินลักษณะผลิตภัณฑ์และวัตถุประสงค์ในการผลิต
ใบชาและชาผงที่บริษัทโจทก์ผลิตแล้วขายให้แก่องค์การคลังสินค้า จัดทำผ่านกรรมวิธีมาแล้วหลายขั้นตอนจนสามารถชงดื่มได้ ถือได้ว่าใบชาและชาผงดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์ชงดื่มตามบัญชี 1 หมวด 1(3) ท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 21) พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดย (ฉบับที่ 43) พ.ศ. 2516 แม้ใบชาและชาผงของบริษัทโจทก์จะไม่เป็นที่นิยม เพราะไม่ได้ปรุงแต่รสกลิ่นและความสะอาดไม่ดีนัก ก็ไม่ทำให้ใบชาและชาผงนั้นไม่เป็นปลิตภัณฑ์ชงดื่มส่วนที่พ่อค้าซื้อใบชาและชาผงของบริษัท โจทก์ไปจากองค์การคลังสินค้าแล้วนำไปผ่านกรรมวิธีอีกครั้งหนึ่ง ก็เป็นเรื่องที่ พ่อค้าประสงค์จะให้ใบชาและชาผงนั้นมีคุณภาพและรสดีเป็นที่นิยมของผู้บริโภคเท่านั้น
การขนส่งใบชาและชาผงจากโรงงานของบริษัทโจทก์ที่เชียงใหม่ ถึงองค์การ คลังสินค้าที่กรุงเทพใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน แต่ใบชาและชาผงที่บริษัทโจทก์ผลิตแล้วขายให้องค์การคลังสินค้าสามารถเก็บไว้ได้นานเป็นแรมปี เห็นได้ว่าบริษัทโจทก์ประสงค์จะให้ใบชาและชาผงที่บริษัทโจทก์ผลิตโดยผ่านกรรมวิธีดังกล่าวนั้นมีสภาพคงอยู่ถาวรเพื่อมิให้เสียง่าย มิใช่จัดทำเพียงเพื่อรักษามิให้ใบชาและชาผงเสียเป็นการชั่วคราวระหว่างขนส่งใบชาและชาผง ที่บริษัทโจทก์ผลิตแล้วขายให้องค์การคลังสินค้าจึงไม่ได้รับการยกเว้นภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากร มาตรา 78 ทวิ(2)(ด)แก้ไขเพิ่มเติมโดย (ฉบับที่ 20) พ.ศ. 2513 มาตรา 4 แต่ต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 7 ของรายรับ ประเภทการค้า 1 การขายของชนิด 1(3) ตามบัญชีอัตราภาษีการค้า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2334/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วัตถุประสงค์บริษัทจำกัด: การรับจำนองค้ำประกันหนี้ค่าซื้อสินค้าเข้าข่ายหรือไม่
บริษัทจำกัดมีวัตถุประสงค์ตามหลักฐานใบทะเบียนพาณิชย์ว่าเป็นนายหน้าตัวแทนค้าต่าง ซื้อขายสินค้า ดังนี้ การรับจำนองค้ำประกันหนี้ค่าซื้อสินค้าอยู่ในวัตถุประสงค์ของบริษัท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1205/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างทางหลวง: การใช้ประโยชน์ที่ดินต่อเนื่องจากทางเท้าถือเป็นการใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์แล้ว
พระราชบัญญัติเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ฯ กำหนดทางหลวงกว้าง 40 เมตร กรมทางหลวงสร้างทางและทางเท้า ที่ดินนอกทางเท้าข้างละ 4.20 เมตรก็ถือเป็นทางหลวง เป็นการใช้ที่ดินทำถนนภายใน 5 ปีแล้วกรรมสิทธิ์ไม่กลับเป็นของเจ้าของเดิม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1942/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างไม่ต้องรับผิดต่อการทำร้ายร่างกายโดยลูกจ้าง หากการกระทำนั้นนอกเหนือจากหน้าที่และวัตถุประสงค์ของนายจ้าง
จำเลยที่ 4 เป็นนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการเดินรถโดยสารประจำทาง จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 4 โดยจำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นพนักงานเก็บเงินค่าโดยสาร จำเลยที่ 3 เป็นผู้ควบคุมรถ ได้ความว่าพนักงานขับรถซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 4 ขับรถเลี้ยวด้วยความเร็ว ทำให้โจทก์และผู้โดยสารอื่นตกจากม้านั่งการที่โจทก์ต่อว่าพนักงานขับรถเป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ไม่พอใจ และร่วมกันทำร้ายร่างกายของโจทก์จนได้รับอันตรายแก่กายนั้น เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกวัตถุประสงค์ของจำเลยที่ 4 ผู้เป็นนายจ้าง และมิใช่กิจการในหน้าที่ที่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ได้รับมอบหมาย การกระทำดังกล่าวอันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ จึงมิใช่เป็นการกระทำในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 4
of 19