คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ศาลยืน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 196 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2521-2522/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อบังคับบริษัทจ่ายเงินบำเหน็จหรือค่าชดเชย: ศาลยืนตามศาลแรงงานกลาง ไม่ต้องจ่ายเงินบำเหน็จซ้ำซ้อนหากค่าชดเชยสูงกว่า
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยที่ 1 กำหนดว่า ถ้าบริษัทเลิกจ้างโดยพนักงานไม่มีความผิด จะจ่ายเงินบำเหน็จหรือเงินค่าชดเชยตามข้อบังคับฯ ข้อ 9.9 ทั้งหมดแทนเงินค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 46เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และหากเงินบำเหน็จหรือเงินค่าชดเชยที่คำนวณไว้ตามข้อ 9.9 มีจำนวนน้อยกว่าเงินค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 46บริษัทก็จะจ่ายเพิ่มให้เท่ากับเงินค่าชดเชยตามประกาศหรือกฎเกณฑ์ของทางราชการเพียงอย่างเดียวเช่นกัน มีความหมายว่า หากลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จมีจำนวนน้อยกว่าค่าชดเชยตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน แล้ว ลูกจ้างก็คงมีสิทธิได้รับค่าชดเชยแต่เพียงอย่างเดียวโดยไม่มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จด้วย ดังนั้นเมื่อโจทก์มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จน้อยกว่าค่าชดเชยที่โจทก์มีสิทธิได้รับตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน และโจทก์ได้รับค่าชดเชยไปถูกต้องแล้วโจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จจากจำเลยที่ 1 ตามข้อบังคับดังกล่าวอีก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1601/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำโดยบันดาลโทสะหลังถูกทำร้าย: ศาลยืนตามคำพิพากษาฐานฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะ
ผู้ตายถือมีดดาบติดตัวเข้าไปในโรงเรียนซึ่งอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของจำเลย เมื่อจำเลยห้ามปราม ผู้ตายไม่เชื่อฟังกลับใช้มีดดาบฟันศีรษะจำเลยจนได้รับบาดเจ็บมีโลหิตไหล จำเลยแย่งมีดดาบจากผู้ตายได้แล้วเดินออกจากโรงเรียนเพื่อจะไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ผู้ตายมาดักขอโทษจำเลยในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจำเลยไม่ยอมยกโทษให้ผู้ตาย และได้ใช้มีดดาบที่ถืออยู่ในมือฟันผู้ตายถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันสิทธิตามกฎหมาย เพราะภยันตรายผ่านพ้นไปแล้ว และไม่มีภยันตรายที่ใกล้จะถึงอีก แต่การที่จำเลยใช้มีดฟันผู้ตายหลังจากเกิดเหตุในตอนแรกแล้วประมาณ 3-4 นาที ซึ่งเป็นระยะเวลาต่อเนื่องกระชั้นชิดในขณะที่โทสะยังรุนแรงอยู่ อันเนื่องมาจากถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมเช่นนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1029/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาขายฝากไม่เป็นนิติกรรมอำพราง แม้มีการอ้างถึงการกู้ยืมเงินและดอกเบี้ยซ้ำซ้อน ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม
จำเลยมีเจตนาขอกู้ยืมเงินโจทก์ โจทก์ไม่ยอมให้กู้แต่ประสงค์ให้ทำสัญญาขายฝาก เมื่อจำเลยตกลงทำสัญญาขายฝากที่ดินตามความประสงค์ของโจทก์โดยความสมัครใจของจำเลยเอง สัญญาขายฝากจึงมิได้กระทำขึ้นด้วยการสมรู้ของโจทก์จำเลยเพื่ออำพรางการกู้ยืมหรือจำนองสัญญาขายฝากจึงมิใช่นิติกรรมอำพราง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6541/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด: พฤติการณ์ประวิงหนี้และเจตนาชะลอการชำระหนี้เป็นเหตุให้ศาลยืนตามคำสั่งเดิม
จำเลยที่ 1 เป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาจำนวน 9 ล้านบาทเศษและจำเลยที่ 1 ที่ 2 ยังร่วมกันเป็นหนี้โจทก์อีก 9 ล้านบาทเศษด้วย พฤติการณ์ที่จำเลยทั้งสองได้พยายามหน่วงเหนี่ยวการชำระหนี้แก่โจทก์ ทั้งยังให้ภริยาจำเลยที่ 1 ผลัดเปลี่ยนกันยื่นคำร้องขัดทรัพย์อันเป็นอุปสรรคต่อการบังคับคดีของโจทก์ แสดงถึงเจตนาที่จะประวิงการชำระหนี้ให้เนิ่นนานออกไปก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ การที่จำเลยฎีกาอ้างว่าโจทก์ได้รับชำระหนี้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดไว้เป็นหลักประกันแล้ว หรืออ้างว่าทางราชการตีราคาหลักทรัพย์ของจำเลยที่วางประกันต่อโจทก์มีราคสูงมากขึ้นก็ดี เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นภายหลังจากวันที่ศาลได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยทั้งสองเด็ดขายไปแล้ว ข้ออ้างของจำเลยยังไม่เป็นที่แน่นอนที่จะให้ฟังได้เช่นนั้น จึงไม่มีเหตุผลที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดจำเลยทั้งสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5973/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย ศาลยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยใช้ไม้ไผ่กลมตันมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 เซนติเมตรยาว 1 เมตร ตีผู้เสียหายถึง 10 ครั้ง ผู้เสียหายถูกตีที่ศีรษะด้านซ้ายอันเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกายจนกะโหลกศีรษะหลังร้าวสมองกระทบกระเทือนสลบไปนานประมาณ 5 ชั่วโมง แสดงว่าจำเลยตีโดยแรง ประกอบกับขณะที่ตีผู้เสียหายจำเลยพูดว่าถ้าตีไม่ตายจะยิงซ้ำให้ตาย และหลังจากผู้เสียหายสลบ จำเลยยังถือไม้ไผ่เข้าไปและพูดว่าจะตีให้ตายอีกหลายครั้งแต่มีคนห้ามไว้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 26/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทในการขับขี่รถจักรยานยนต์ ชนผู้เสียหายทางม้าลาย ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม
จำเลยขับรถจักรยานยนต์หลบหลีกเข้าไปในช่องทางเดินรถโดยสารประจำทางชนผู้เสียหายอย่างแรงตรงทางม้าลาย จนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กายสาหัส ในขณะที่รถคันอื่น ๆต่างจอดรถให้ผู้เสียหายเดินข้ามถนนไปก่อนพฤติการณ์เช่นนี้เป็นการขับขี่รถที่ขาดความสำนึกที่ดี เป็นการประมาทอย่างร้ายแรงแม้จำเลยจะมีภาระต้องเลี้ยงดูครอบครัว เคยมีความประพฤติดี และไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ก็ไม่สมควรรอการลงโทษ.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อเติมอาคารรุกล้ำทางสาธารณะ จำเลยไม่มีสิทธิเรียกร้องให้คงสภาพเดิม ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม
ที่จำเลยฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลที่กำหนดให้จำเลยนำสืบก่อนว่า ไม่ถูกต้องนั้น เมื่อถึงอย่างไรก็ไม่มีผลเปลี่ยนแปลงคำวินิจฉัยของศาลเป็นอย่างอื่นแล้ว ฎีกาข้อกฎหมายข้อนี้จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการพิจารณา เมื่อจำเลยยอมรับข้อเท็จจริงว่าการต่อเติมดัดแปลงอาคารของจำเลยได้กระทำไปโดยฝ่าฝืนกฎหมายและยื่นล้ำออกไปเหนือทางสาธารณะเช่นนี้แล้วจำเลยย่อมไม่มีอำนาจอันชอบธรรมใด ๆ ที่จะให้ตัวอาคารดังกล่าวคงสภาพที่เป็นการล่วงละเมิดต่อสิทธิ ของสาธารณชนโดยทั่วไปได้ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนอาคารส่วนที่ยื่นล้ำออกไปเหนือทางสาธารณะนั้นเสีย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 717/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดี: ราคาขายทอดตลาดเหมาะสมและประกาศขายแพร่หลายแล้ว ศาลยืนตามคำพิพากษาเดิม
ในการประกาศขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทรวม 14 ครั้ง ในระยะเวลา3 ปี ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดเสนอราคาสูงกว่าราคาที่ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ขายได้ในการขายทอดตลาดครั้งที่ 15 ราคาที่ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ขายจึงเป็นราคาที่เหมาะสมแล้ว
เจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งคำสั่งของศาลที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดและวันขายทอดตลาดแก่บรรดาบุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินที่จะขายทอดตลาดซึ่งทราบได้ตามทะเบียน หรือโดยประการอื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 306 ครบถ้วนแล้ว ถือได้ว่าเป็นการประกาศขายทอดตลาดทรัพย์สินพิพาทที่แพร่หลายตามสมควรแล้วไม่มีเหตุที่จะต้องขายทอดตลาดใหม่.(ที่มา-เนติ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3091/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เครื่องหมายการค้าไม่คล้ายกัน แม้มีองค์ประกอบบางส่วนที่เหมือนกัน ศาลยืนตามคำวินิจฉัยเดิม
ในคดีก่อนที่โจทก์ฟ้องจำเลยคดีนี้ ศาลฎีกาได้พิพากษาว่าเครื่องหมายการค้าคำว่า LIGHTMAN ของโจทก์และเครื่องหมายการค้าคำว่า LAWMAN ของจำเลยไม่มีลักษณะคล้ายกันจนถึงกับทำให้สาธารณชนเข้าใจผิด ดังนั้นโจทก์จึงจะยกขึ้นกล่าวอ้างในคดีนี้อีกว่า เครื่องหมายการค้าดังกล่าวเหมือนหรือคล้ายกันหาได้ไม่ จำเลยจึงมีสิทธิที่จะใช้คำว่า LAWMAN เป็นเครื่องหมายการค้าของจำเลยสำหรับสินค้าที่ยื่นคำขอใช้ได้ตามกฎหมาย
เครื่องหมายการค้าของจำเลยนอกจากจะมีอักษรโรมันคำว่า LAWMAN ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าที่จำเลยมีสิทธิใช้ได้ตามกฎหมายแล้ว ยังมีอักษรโรมันว่า ANGEL ขนาดโตเท่ากับคำว่า LAWMAN และมีรูปประดิษฐ์ดอกไม้กับหมวกอยู่ระหว่างอักษรโรมันสองคำดังกล่าวทั้งหมดอยู่ภายในวงกลม ส่วนเครื่องหมายการค้าของโจทก์มีอักษรโรมันว่า LIGHTMAN กับคนสวมหมวก เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วจะเห็นได้ว่าแตกต่างกันอย่างชัดเจนบุคคลธรรมดาที่ไม่สามารถอ่านอักษรโรมันได้ก็สามารถเห็นความแตกต่างกันได้ เครื่องหมายการค้าของจำเลยจึงไม่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าของโจทก์ จำเลยจึงมีสิทธิใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวของจำเลยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2396/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ประกันเมื่อจำเลยหลบหนีและกลายเป็นผู้ก่อการร้าย ศาลยืนค่าปรับ
จำเลยซึห่งได้รับการปล่อยชั่วคราวหลบหนีไปเป็นผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 ศาลจึงมีคำสั่งปรับผู้ประกันตามสัญญาประกันครั้นปี พ.ศ. 2524 จำเลยก็เข้ามอบตัวต่อทางราชการ โดยผู้ประกันทราบดีว่าจำเลยพักอยู่ที่ใด แต่ผู้ประกันก็มิได้ขวนขวายที่จะนำตัวจำเลยมาส่งศาลหรือร้องขอให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจจับจำเลยส่งศาล จนกระทั่งจำเลยถึงแก่ความตายเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2527 ผู้ประกันจึงมาร้องขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งปรับผู้ประกันหรือลดค่าปรับ ดังนี้จึงไม่มีเหตุอันสมควรที่จะลดค่าปรับให้ผู้ประกัน.
of 20