คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สมคบ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 195 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1029/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานใช้อำนาจในทางทุจริตเรียกรับเงิน, สมคบกระทำผิด, ความผิดฐานชิงทรัพย์
จำเลยเป็นตำรวจประจำการได้สมคบกับพวกแกล้งกล่าวหาว่าเขาทำผิดกฎหมาย แล้วนำตัวเขาไปเพื่อจะดำเนินคดี ระหว่างทางเขายอมให้เงิน 60 บาทแก่พวกจำเลยตามคำเรียกร้องของจำเลยกับพวก แล้วจำเลยก็ปล่อยเขากลับบ้านได้ ดังนี้จะถือว่าจำเลยกับพวกใช้กำลังทำร้ายหรือขู่เข็ญจะทำร้ายอันจะปรับบทเป็นความผิด ฐานชิงทรัพย์ไม่ได้ แต่อาจเป็นความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 136 ได้
ฟ้องบรรยายว่า จำเลยกับพวกอีกคนหนึ่ง สมคบกันใช้วาจาขู่เข็ญผู้เสียหายว่า จะจับกุมเพราะไม่เสียภาษีและไม่ออกใบรับเงินปิดอากรแสตมป์โดยประสงค์จะเรียกร้องบังคับเอาเงินเป็นผลประโยชน์รายได้ อันมิควรจะได้ตามกฎหมายผู้เสียหายได้ถูกจับกุมไป ระหว่างทางมีความกลัวจึงให้เงินแก่พวกจำเลย เพื่อให้จำเลยปล่อยตัวฯลฯ จำเลยเป็นเจ้าพนักงานตำรวจประจำสถานีฯลฯ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 136,298 ดังนี้ พอถือได้ว่าเป็นฟ้องที่มีข้อหาในฐานเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตด้วย ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามมาตรา 136 ได้
สำหรับผู้ที่มิได้เป็นเจ้าพนักงานนั้น ถ้าได้สมคบกับเจ้าพนักงานกระทำผิดตามมาตรา 136 แล้ว ก็มีโทษตามมาตรา 136 ได้ แต่ผิดเพียงฐานสมรู้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาฐานลักทรัพย์และการสมคบกันรับของโจร: ฟ้องไม่เคลือบคลุมหากจำเลยเข้าใจข้อกล่าวหา
โจทก์บรรยายฟ้องตอนต้นว่าคนร้ายลักไม้ของเจ้าทรัพย์ไป ต่อมาจับไม้ที่หายบางส่วนได้จากจำเลยที่ 2,3,4 โจทก์กล่าวยืนยันเฉพาะตัวจำเลยที่ 1 ว่าจำเลยที่ 1 ได้สมคบกันจำเลยที่ 2,3,4 ลักไม้หรือสมคบกันรับไม้ของกลางไว้จากคนร้าย ฯลฯ นั้นมีข้อความชัดพอให้จำเลยที่ 1 เข้าใจได้ดีแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 531/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดสมคบกันขู่เข็ญขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา119, 120 โดยบรรยายถึงการกระทำของจำเลยมีใจความว่า 'จำเลยสมคบกันใช้วาจาขู่เข็ญว่าจะทำร้ายนายประทวนปลัดอำเภอ โดยประสงค์จะขัดขวางไม่ให้นายประทวนทำการรังวัดที่ดินตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมาย' แล้วบรรยายข้อเท็จจริงประกอบนั้น การกระทำเช่นนี้ ย่อมเป็นความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 120 เมื่อจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องแล้ว ศาลก็พิพากษาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 176

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1469/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบกันชิงทรัพย์: การกระทำเพื่อช่วยเหลือการหลบหนีและความรุนแรงเป็นองค์ประกอบสำคัญ
จำเลยที่ 1 เป็นคนเดินแซกเข้าไปลักปากกาจากกระเป๋าเสื้อเจ้าทรัพย์พาหนีไป จำเลยที่ 2 เดินเข้ามาชนกระแทกไหล่เจ้าทรัพย์เซไป แล้วเดินตามไปด้วยกันและถูกจับพร้อมกันในขณะที่เดินไปด้วยกันดังนี้ เพียงพอที่จะชี้ได้ว่า การที่จำเลยที่ 2 ใช้กำลังกายกระแทกไหล่เจ้าทรัพย์ให้เซไปก็เพื่อหน่วงเหนี่ยวการติดตามของเจ้าทรัพย์ให้ช้ลงโดยประสงค์ให้เป็นความสดวกในการที่จำเลยที่ 1 จะพาทรัพย์ที่ลักไปจากเจ้าทรัพย์หนีไปให้พ้นและเพื่อให้จำเลยที่ 1 รอดพ้นอาญาสำหรับความผิดที่ได้กระทำลง และการใช้กำลังกายกระแทกไหล่ เป็นการใช้กำลังทำร้ายอย่างหนึ่ง จำเลยทั้งสองที่สมคบกันในการนี้ จึงต้องมีผิดฐานชิงทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1469/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบชิงทรัพย์: การกระทำร่วมกันเพื่อช่วยเหลือการลักทรัพย์ถือเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์
จำเลยที่ 1 เป็นคนเดินแทรกเข้าไปลักปากกาจากกระเป๋าเสื้อเจ้าทรัพย์พาหนีไป จำเลยที่ 2 เดินเข้ามาชนกระแทกไหล่เจ้าทรัพย์เซไป แล้วเดินตามไปด้วยกันและถูกจับพร้อมกันในขณะที่เดินไปด้วยกัน ดังนี้ เพียงพอที่จะชี้ได้ว่า การที่จำเลยที่ 2 ใช้กำลังกายกระแทกไหล่เจ้าทรัพย์ให้เซไปก็เพื่อหน่วงเหนี่ยวการติดตามของเจ้าทรัพย์ให้ช้าลงโดยประสงค์ให้เป็นความสะดวกในการที่จำเลยที่ 1 จะพาทรัพย์ที่ลักไปจากเจ้าทรัพย์หนีไปให้พ้น และเพื่อให้จำเลยที่ 1 รอดพ้นอาญาสำหรับความผิดที่ได้กระทำลง และการใช้กำลังกายกระแทกไหล่ เป็นการใช้กำลังทำร้ายอย่างหนึ่ง จำเลยทั้งสองที่สมคบกันในการนี้ จึงต้องมีผิดฐานชิงทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 896/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขอลงโทษจำเลยฐานสมคบกันลักทรัพย์ โจทก์ต้องขอตามบทลงโทษที่ต้องการในฟ้อง
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยสมคบกันลักแตงกวาซึ่งปลูกไว้ในนาขอให้ลงโทษตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 292 ไม่ได้ขอมาตรา 293(11) มาด้วยต้องฟังว่า โจทก์ไม่ประสงค์ที่จะให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 293. คงพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 292 ตามที่โจทก์ขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานสมคบกันนำของออกนอกราชอาณาจักรหลีกเลี่ยงภาษี แม้ยังไม่ออกพ้นเขตแดน
สมคบกันนำของออกนอกพระราชอาณาจักรไทย โดยพยายามหลีกเลี่ยงไม่เสียภาษีและไม่ได้ผ่านด่านศุลกากรโดยถูกต้อง แม้ขณะจับได้ เรือที่บรรทุกของจะยังไม่ออกพ้นเขตแดนไทย ก็ถือว่า เป็นผิดบริบูรณ์ตามมาตรา 27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร 2469 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานสมคบกันนำของออกนอกราชอาณาจักรหลีกเลี่ยงภาษี แม้เรือยังไม่ออกพ้นเขตแดนไทยก็ถือเป็นความผิด
สมคบกันนำของออกนอกพระราชอาณาจักรไทย โดยพยายามหลีกเลี่ยงไม่เสียภาษีและไม่ได้ผ่านด่านศุลกากรโดยถูกต้อง แม้ขณะจับได้ เรือที่บรรทุกของจะยังไม่ออกพ้นเขตแดนไทยก็ถือว่า เป็นผิดบริบูรณ์ตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร 2469 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงโดยสมคบกันหลอกลวงผู้เสียหายให้จำนองทรัพย์สินที่จำนองไปแล้ว ศาลฎีกาให้รอการลงอาญาผู้ต้องหาที่เป็นหญิงมีบุตรเล็ก
ผู้ที่รับจำนองร้านค้าไว้จนหลุดเป็นสิทธิของตน แล้วได้ร่วมคิดกับผู้จำนอง เอาร้านค้านั้นไปจำนองผู้เสียหายอีกและพูกรับรองว่า ร้านค้านั้นไม่ได้จำนองหรือขายฝากไว้กับผู้ใด ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงรับจำนองไว้ และชำระเงินให้ผู้รับจำนองเดิม ดังนี้ ถือว่าผู้รับจำนองเดิมสมคบกับผู้จำนองฉ้อโกงผู้เสียหาย
ดุลยพินิจในการรอการลงอาญาจำเลยที่เป็นหญิงมีบุตรอ่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบทำร้ายร่างกาย: แม้ฟ้องไม่ระบุตัวผู้กระทำผิด ก็ลงโทษได้หากพิสูจน์ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ลงมือ
คดีอาญาที่ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยหลายคนสมคบกันทำร้ายร่างกายผู้เสียหายหรือโจทก์หลายคนตามมาตรา 254,63 แม้ในฟ้องจะไม่ได้กล่าวว่าจำเลยคนใดทำร้ายโจทก์คนใดก็ดี เมื่อได้ความว่าจำเลยคนใดทำร้ายโจทก์ ก็ลงโทษได้
of 20