พบผลลัพธ์ทั้งหมด 117 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสะดุดหยุดเมื่อจำเลยวางเงินค่าเช่าต่อศาล แม้รับเงินคืนไปแล้วก็ไม่ทำให้เหตุสะดุดหยุดนั้นสิ้นสุด
ในคดีก่อน โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหายจากจำเลยฐานผิดนัดไม่ชำระค่าเช่า. จำเลยได้นำเงินค่าเช่าที่ค้างชำระมาวางต่อศาลในคดีนั้นศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยและให้ชำระค่าเสียหายแก่โจทก์แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยชนะคดี. ต่อมาโจทก์ขอรับเงินค่าเช่าที่จำเลยนำมาวางต่อศาล ศาลชั้นต้นสั่งให้ไปว่ากล่าวกันเอง จำเลยจึงรับเงินค่าเช่าที่วางไว้นั้นคืนไปจากศาล ดังนี้ ถือว่าการที่จำเลยนำเงินค่าเช่าที่ค้างชำระมาวางศาลโดยยอมรับผิดชดใช้ให้โจทก์นั้นเป็นการกระทำอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่าจำเลยยอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องในเงินค่าเช่าที่ค้างชำระนั้นแล้วอายุความสิทธิเรียกร้องในเงินค่าเช่าที่ค้างชำระนั้นจึงสะดุดหยุดลงตามมาตรา 172 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยรับเงินค่าเช่าที่ค้างชำระนั้นคืนไปจากศาลเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2512 ดังนั้นเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงนั้นจึงสุดสิ้นลงในวันที่ 10มีนาคม 2512 จึงต้องเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่แต่เวลานั้นสืบไปตามความในมาตรา 181 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์โจทก์นำคดีมาฟ้องเรียกเงินค่าเช่าที่จำเลยค้างชำระดังกล่าวภายในกำหนด 5 ปี นับแต่วันที่จำเลยรับเงินไปจากศาลจึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371/2516
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสะดุดหยุดเมื่อลูกหนี้วางเงินชำระหนี้ต่อศาล แม้รับเงินคืนไปก็ไม่ทำให้เหตุสะดุดหยุดนั้นเปลี่ยนแปลง
ในคดีก่อน โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหายจากจำเลยฐานผิดนัดไม่ชำระค่าเช่า. จำเลยได้นำเงินค่าเช่าที่ค้างชำระมาวางต่อศาล ในคดีนั้นศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยและให้ชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยชนะคดี. ต่อมาโจทก์ขอรับเงินค่าเช่าที่จำเลยนำมาวางต่อศาล ศาลชั้นต้นสั่งให้ไปว่ากล่าวกันเอง จำเลยจึงรับเงินค่าเช่าที่วางไว้นั้นคืนไปจากศาล ดังนี้ ถือว่าการที่จำเลยนำเงินค่าเช่าที่ค้างชำระมาวางศาลโดยยอมรับผิดชดใช้ให้โจทก์นั้น เป็นการกระทำอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่าจำเลยยอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องในเงินค่าเช่าที่ค้างชำระนั้นแล้วอายุความสิทธิเรียกร้องในเงินค่าเช่าที่ค้างชำระนั้นจึงสะดุดหยุดลงตามมาตรา 172 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยรับเงินค่าเช่าที่ค้างชำระนั้นคืนไปจากศาลเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2512 ดังนั้นเหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงนั้นจึงสุดสิ้นลงในวันที่ 10มีนาคม 2512 จึงต้องเริ่มนับอายุความขึ้นใหม่แต่เวลานั้นสืบไปตามความในมาตรา 181 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์โจทก์นำคดีมาฟ้องเรียกเงินค่าเช่าที่จำเลยค้างชำระดังกล่าวภายในกำหนด 5 ปี นับแต่วันที่จำเลยรับเงินไปจากศาลจึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 821/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสะดุดหยุดลงจากการสลักหลังเช็ค การนับอายุความเริ่มจากวันที่เช็คสั่งจ่าย
เรื่องอายุความนั้นหาใช่สภาพแห่งข้อหาไม่ โจทก์ไม่จำเป็นต้องกล่าวมาในฟ้องว่า คดีของโจทก์ยังไม่ขาดอายุความเพราะเหตุใด
การที่จำเลยสลักหลังเช็คให้โจทก์เพื่อชำระเงินค่าซื้อเชื่อนั้นถือได้ว่าเป็นการกระทำอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์
จำเลยสลักหลังเช็คให้โจทก์เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2505แต่เช็คนั้นเป็นเช็คลงวันที่ล่วงหน้า สั่งจ่ายในวันที่ 26 พฤษภาคม 2505ดังนี้ หมายความว่าจำเลยได้รับสภาพหนี้ต่อโจทก์ในวันที่ 23 เมษายน2505 ว่าจะชำระเงินเป็นเช็คให้ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2505 นั่นเอง
เหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงสำหรับคดีนี้สิ้นสุดลงในวันที่ 26 พฤษภาคม 2505 คือ วันที่สั่งจ่ายเงินในเช็ค จึงเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2505 เพราะวันนั้นเป็นวันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องตามเช็คได้เป็นต้นไป ดังนั้น อายุความ2 ปีครบในวันที่ 26 พฤษภาคม 2507 ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา เป็นวันหยุดราชการ โจทก์ยื่นฟ้องในวันที่ 27 พฤษภาคม 2507 คดีจึงยังไม่ขาดอายุความ
(ปัญหาตามวรรคสอง, สี่ วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8,9/2514)
การที่จำเลยสลักหลังเช็คให้โจทก์เพื่อชำระเงินค่าซื้อเชื่อนั้นถือได้ว่าเป็นการกระทำอันปราศจากเคลือบคลุมสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องของโจทก์
จำเลยสลักหลังเช็คให้โจทก์เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2505แต่เช็คนั้นเป็นเช็คลงวันที่ล่วงหน้า สั่งจ่ายในวันที่ 26 พฤษภาคม 2505ดังนี้ หมายความว่าจำเลยได้รับสภาพหนี้ต่อโจทก์ในวันที่ 23 เมษายน2505 ว่าจะชำระเงินเป็นเช็คให้ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2505 นั่นเอง
เหตุที่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงสำหรับคดีนี้สิ้นสุดลงในวันที่ 26 พฤษภาคม 2505 คือ วันที่สั่งจ่ายเงินในเช็ค จึงเริ่มนับอายุความใหม่ตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม 2505 เพราะวันนั้นเป็นวันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องตามเช็คได้เป็นต้นไป ดังนั้น อายุความ2 ปีครบในวันที่ 26 พฤษภาคม 2507 ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา เป็นวันหยุดราชการ โจทก์ยื่นฟ้องในวันที่ 27 พฤษภาคม 2507 คดีจึงยังไม่ขาดอายุความ
(ปัญหาตามวรรคสอง, สี่ วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8,9/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 474/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องละเมิดจากการยึดทรัพย์: การสะดุดหยุดของอายุความเฉพาะคดีร้องขัดทรัพย์เท่านั้น
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษานำยึดทรัพย์ของโจทก์โดยอ้างว่าเป็นของลูกหนี้ตามคำพิพากษา เมื่อโจทก์ถือว่าเป็นการละเมิดต่อโจทก์เพราะโจทก์เป็นเจ้าของทรัพย์นั้น และฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทน ดังนี้โจทก์จะต้องฟ้องภายในกำหนด 1 ปีนับแต่รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน แม้โจทก์จะได้ยื่นคำร้องขัดทรัพย์และเจ้าพนักงานบังคับคดีปล่อยทรัพย์ การยื่นคำร้องขัดทรัพย์นั้นก็ไม่เป็นเหตุให้อายุความในเรื่องละเมิดสะดุดหยุดลง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 943/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีเจ้าหนี้กองมรดก: การฟ้องทายาทคนแรกภายในกำหนดอายุความย่อมสะดุดหยุดอายุความ แม้จะขอเพิ่มทายาทอื่น
เจ้าหนี้กองมรดกจะบังคับสิทธิเรียกร้องต่อทายาทคนใดก็ได้เมื่อเจ้าหนี้กองมรดกได้ฟ้องภริยาของเจ้ามรดกซึ่งนับได้ว่าเป็นทายาทโดยธรรมคนหนึ่ง เป็นคดีขอให้ชำระหนี้ภายในกำหนด 1 ปีนับแต่วันที่เจ้ามรดกถึงแก่ความตาย ย่อมถือได้ว่าเจ้าหนี้กองมรดกใช้สิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้อันมีต่อเจ้ามรดกภายในอายุความ 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 แล้ว การฟ้องคดีเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดอยู่ แม้ต่อมาเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์จะขอให้เรียกทายาทคนอื่น ๆ เข้ามาเป็นจำเลยร่วมอีกด้วย เมื่อพ้น1 ปีนับแต่วันที่เจ้ามรดกตาย ก็ไม่เป็นเหตุให้ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 วรรคสาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 332/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ซื้อเชื่อและการสะดุดหยุดของอายุความเมื่อฟ้องคดีล้มละลาย
โจทก์ผู้จัดหาและประกอบอุตสาหกรรมอาหารไก่ออกจำหน่าย ฟ้องเรียกค่าอาหารไก่ซึ่งจำเลยซื้อเชื่อไป มีกำหนดอายุความสองปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (1)
จำเลยรับสภาพหนี้โดยการผ่อนชำระหนี้ย่อมทำให้อายุความสะดุดหยุดลง และเริ่มนับอายุความใหม่ต่อไป
แม้โจทก์จะได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายมาก่อนภายในกำหนดอายุความ แต่ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุจำเลยไม่เป็นคนมีหนี้สินล้นพ้นตัว คดีถึงที่สุด การฟ้องคดีซึ่งต้องยกฟ้อง ย่อมไม่เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลง
คดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลาย แม้ศาลจะฟังว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์จริง แต่ยกฟ้องเพราะจำเลยไม่ต้องด้วยเกณฑ์เป็นบุคคลล้มละลายนั้น กรณีต้องด้วยมาตรา 174ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ทั้งมาตรา 174 ก็มิได้บัญญัติยกเว้นว่าถ้าเป็นกรณีฟ้องเพื่อตั้งหลักฐานสิทธิเรียกร้อง แม้ศาลพิพากษายกฟ้องก็ให้อายุความสะดุดหยุดลง
คดีที่ศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะจำเลยไม่เป็นคนมีหนี้สินล้นพ้นตัวนั้นไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 176 ซึ่งเป็นเรื่องศาลยกคดีเสีย เพราะเหตุคดีไม่อยู่ในอำนาจศาล และกำหนดอายุความสิ้นไปในระหว่างพิจารณาคดีหรือจะสิ้นลงภายในระหว่างหกเดือนภายหลังที่ได้พิพากษาคดีถึงที่สุด อายุความจึงไม่ขยายออกไป
จำเลยรับสภาพหนี้โดยการผ่อนชำระหนี้ย่อมทำให้อายุความสะดุดหยุดลง และเริ่มนับอายุความใหม่ต่อไป
แม้โจทก์จะได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายมาก่อนภายในกำหนดอายุความ แต่ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุจำเลยไม่เป็นคนมีหนี้สินล้นพ้นตัว คดีถึงที่สุด การฟ้องคดีซึ่งต้องยกฟ้อง ย่อมไม่เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลง
คดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลาย แม้ศาลจะฟังว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์จริง แต่ยกฟ้องเพราะจำเลยไม่ต้องด้วยเกณฑ์เป็นบุคคลล้มละลายนั้น กรณีต้องด้วยมาตรา 174ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ทั้งมาตรา 174 ก็มิได้บัญญัติยกเว้นว่าถ้าเป็นกรณีฟ้องเพื่อตั้งหลักฐานสิทธิเรียกร้อง แม้ศาลพิพากษายกฟ้องก็ให้อายุความสะดุดหยุดลง
คดีที่ศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะจำเลยไม่เป็นคนมีหนี้สินล้นพ้นตัวนั้นไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 176 ซึ่งเป็นเรื่องศาลยกคดีเสีย เพราะเหตุคดีไม่อยู่ในอำนาจศาล และกำหนดอายุความสิ้นไปในระหว่างพิจารณาคดีหรือจะสิ้นลงภายในระหว่างหกเดือนภายหลังที่ได้พิพากษาคดีถึงที่สุด อายุความจึงไม่ขยายออกไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 332/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้ซื้อเชื่อและการสะดุดหยุดของอายุความเมื่อฟ้องคดีล้มละลายที่ไม่สำเร็จ
โจทก์ผู้จัดหาและประกอบอุตสาหกรรมอาหารไก่ออกจำหน่าย. ฟ้องเรียกค่าอาหารไก่ซึ่งจำเลยซื้อเชื่อไป. มีกำหนดอายุความสองปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1).
จำเลยรับสภาพหนี้โดยการผ่อนชำระหนี้ย่อมทำให้อายุความสะดุดหยุดลง. และเริ่มนับอายุความใหม่ต่อไป.
แม้โจทก์จะได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายมาก่อนภายในกำหนดอายุความ. แต่ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุจำเลยไม่เป็นคนมีหนี้สินล้นพ้นตัว. คดีถึงที่สุด. การฟ้องคดีซึ่งต้องยกฟ้อง. ย่อมไม่เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลง.
คดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลาย. แม้ศาลจะฟังว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์จริง.แต่ยกฟ้องเพราะจำเลยไม่ต้องด้วยเกณฑ์เป็นบุคคลล้มละลายนั้น. กรณีต้องด้วยมาตรา 174ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ทั้งมาตรา 174 ก็มิได้บัญญัติยกเว้นว่าถ้าเป็นกรณีฟ้องเพื่อตั้งหลักฐานสิทธิเรียกร้อง.แม้ศาลพิพากษายกฟ้องก็ให้อายุความสะดุดหยุดลง.
คดีที่ศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะจำเลยไม่เป็นคนมีหนี้สินล้นพ้นตัวนั้นไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 176 ซึ่งเป็นเรื่องศาลยกคดีเสีย เพราะเหตุคดีไม่อยู่ในอำนาจศาล. และกำหนดอายุความสิ้นไปในระหว่างพิจารณาคดีหรือจะสิ้นลงภายในระหว่างหกเดือนภายหลังที่ได้พิพากษาคดีถึงที่สุด. อายุความจึงไม่ขยายออกไป.
จำเลยรับสภาพหนี้โดยการผ่อนชำระหนี้ย่อมทำให้อายุความสะดุดหยุดลง. และเริ่มนับอายุความใหม่ต่อไป.
แม้โจทก์จะได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายมาก่อนภายในกำหนดอายุความ. แต่ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุจำเลยไม่เป็นคนมีหนี้สินล้นพ้นตัว. คดีถึงที่สุด. การฟ้องคดีซึ่งต้องยกฟ้อง. ย่อมไม่เป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลง.
คดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลาย. แม้ศาลจะฟังว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์จริง.แต่ยกฟ้องเพราะจำเลยไม่ต้องด้วยเกณฑ์เป็นบุคคลล้มละลายนั้น. กรณีต้องด้วยมาตรา 174ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ทั้งมาตรา 174 ก็มิได้บัญญัติยกเว้นว่าถ้าเป็นกรณีฟ้องเพื่อตั้งหลักฐานสิทธิเรียกร้อง.แม้ศาลพิพากษายกฟ้องก็ให้อายุความสะดุดหยุดลง.
คดีที่ศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะจำเลยไม่เป็นคนมีหนี้สินล้นพ้นตัวนั้นไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 176 ซึ่งเป็นเรื่องศาลยกคดีเสีย เพราะเหตุคดีไม่อยู่ในอำนาจศาล. และกำหนดอายุความสิ้นไปในระหว่างพิจารณาคดีหรือจะสิ้นลงภายในระหว่างหกเดือนภายหลังที่ได้พิพากษาคดีถึงที่สุด. อายุความจึงไม่ขยายออกไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 757/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสะดุดหยุดเมื่อมีการผ่อนชำระหนี้ แม้ฟ้องภายในอายุความเดิม ศาลต้องวินิจฉัยตามฟ้อง
คู่ความแถลงท้ากันว่า ขอให้ศาลวินิจฉัยเพียงฟ้องโจทก์อย่างเดียวว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ ถ้าฟ้องโจทก์ขาดอายุความ โจทก์ยอมแพ้คดีทุกประการ ถ้าฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ จำเลยยอมแพ้คดี ยินดีปฏิบัติตามคำขอท้ายฟ้องทุกประการ ดังนี้ การที่จำเลยผ่อนชำระหนี้ครั้งสุดภายในอายุความย่อมทำให้อายุความสะดุดหยุดลง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 คดีโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ จำเลยต้องแพ้คดีตามคำท้า
โจทก์จำเลยท้ากันให้ศาลวินิจฉัยเพียงฟ้องอย่างเดียวว่าคดีขาดอายุความหรือไม่ ศาลจึงต้องวินิจฉัยไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในฟ้องเท่านั้น
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี จนกว่าจำเลยชำระให้โจทก์ครบ ดังนี้ ย่อมเข้าใจได้ว่าให้ชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป
โจทก์จำเลยท้ากันให้ศาลวินิจฉัยเพียงฟ้องอย่างเดียวว่าคดีขาดอายุความหรือไม่ ศาลจึงต้องวินิจฉัยไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในฟ้องเท่านั้น
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี จนกว่าจำเลยชำระให้โจทก์ครบ ดังนี้ ย่อมเข้าใจได้ว่าให้ชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 757/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความสะดุดหยุดชะงักจากการชำระหนี้ การวินิจฉัยตามฟ้อง
คู่ความแถลงท้ากันว่า ขอให้ศาลวินิจฉัยเพียงฟ้องโจทก์อย่างเดียวว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ ถ้าฟ้องโจทก์ขาดอายุความ โจทก์ยอมแพ้คดีทุกประการ ถ้าฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ จำเลยยอมแพ้คดี ยินดีปฏิบัติตามคำขอท้ายฟ้องทุกประการ ดังนี้ การที่จำเลยผ่อนชำระหนี้ครั้งหลังสุดภายในอายุความย่อมทำให้อายุความสะดุดหยุดลง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 คดีโจทก์จึงยัง ไม่ขาดอายุความ จำเลยต้องแพ้คดีตามคำท้า
โจทก์จำเลยท้ากันให้ศาลวินิจฉัยเพียงฟ้องอย่างเดียวว่าคดีขาดอายุความหรือไม่ ศาลจึงต้องวินิจฉัยไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในฟ้องเท่านั้น
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี จนกว่าจำเลยชำระให้โจทก์ครบ ดังนี้ย่อมเข้าใจได้ว่าให้ชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป
โจทก์จำเลยท้ากันให้ศาลวินิจฉัยเพียงฟ้องอย่างเดียวว่าคดีขาดอายุความหรือไม่ ศาลจึงต้องวินิจฉัยไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏในฟ้องเท่านั้น
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี จนกว่าจำเลยชำระให้โจทก์ครบ ดังนี้ย่อมเข้าใจได้ว่าให้ชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 756/2510
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีค่าเช่าและการสะดุดหยุดของอายุความ: การผ่อนชำระหลังอายุความพ้นกำหนด
ในการพิจารณาและชี้ขาดตัดสินคดี ศาลต้องสืบพยานตามประเด็นในข้อพิพาท ซึ่งหมายถึงปัญหาใด ๆ ไม่ว่าปัญหาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่คู่ความฝ่ายหนึ่งยกขึ้นอ้างและคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งไม่รับ และศาลจดลงไว้เป็นประเด็นข้อพิพาท แล้วพิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีไปตามนั้น จำเลยให้การแก้ฟ้องเดิมของโจทก์ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความโจทก์เพิ่มเติมฟ้องว่า คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ เพราะจำเลยได้ชำระหนี้ให้โจทก์สองคราวเป็นการชำระหนี้บางส่วนอายุความสะดุดหยุดลงจำเลยให้การปฏิเสธไม่รับรอง คดีจึงมีประเด็นว่าจำเลยได้ชำระหนี้ให้ดังโจทก์อ้างหรือไม่ ซึ่งโจทก์ย่อมนำสืบได้ และโจทก์มีหน้าที่นำสืบได้ตามประเด็นนี้เท่านั้น โจทก์จะนำสืบถึงการที่จำเลยชำระหนี้คราวอื่นอีกไม่ได้ เป็นการสืบนอกฟ้องนอกประเด็น
สิทธิเรียกร้องเอาค่าเช่าค้างโดยบุคคลจำพวกที่ค้าในการให้เช่าสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(6) มีอายุความ 2 ปี และจะฟ้องขอให้จำเลยชำระค่าเช่าค้างตามหนังสือรับสภาพหนี้ก็ต้องฟ้องภายใน 2 ปีนับแต่วันรับสภาพหนี้
การรับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172ต้องเป็นการรับสภาพหนี้ภายในกำหนดอายุความ ถ้าเป็นระยะเวลาที่พ้นกำหนดอายุความแล้ว ก็ไม่มีอะไรจะสะดุดหยุดลงอีก
สิทธิเรียกร้องเอาค่าเช่าค้างโดยบุคคลจำพวกที่ค้าในการให้เช่าสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(6) มีอายุความ 2 ปี และจะฟ้องขอให้จำเลยชำระค่าเช่าค้างตามหนังสือรับสภาพหนี้ก็ต้องฟ้องภายใน 2 ปีนับแต่วันรับสภาพหนี้
การรับสภาพหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172ต้องเป็นการรับสภาพหนี้ภายในกำหนดอายุความ ถ้าเป็นระยะเวลาที่พ้นกำหนดอายุความแล้ว ก็ไม่มีอะไรจะสะดุดหยุดลงอีก