คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สัตยาบัน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 113 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1348/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาที่กรรมการลงชื่อไม่ถูกต้อง แต่บริษัทให้สัตยาบันแล้วผูกพันได้ตามลักษณะตัวการตัวแทน
สัญญาที่กรรมการบริษัทแต่นายเดียวลงชื่อในสัญญาไม่ถูกต้องตามข้อบังคับของบริษัทซึ่งกำหนดไว้ว่าต้องมีกรรมการ 2 นายลงชื่อจึงจะผูกมัดบริษัท กรรมการที่ลงชื่อโดยไม่ถูกต้องตามข้อบังคับบริษัทนั้นจึงไม่อยู่ในฐานะผู้แทนของบริษัท สัญญานั้นจึงไม่ผูกมัดบริษัท แต่เมื่อบริษัทได้ให้สัตยาบันสัญญานั้นโดยเข้าครอบครองทรัพย์ตามสัญญานั้นแล้วเมื่อใดกรรมการผู้มีชื่อในสัญญานั้นก็กลับมีฐานะเป็นตัวแทนของบริษัท จึงผูกพันบริษัทตามลักษณะตัวการตัวแทนตามมาตรา 823

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1884/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับบุตรบุญธรรมโดยผู้มีอายุไม่ครบ 30 ปี: โมฆะ และไม่อาจให้สัตยาบันได้
บุคคลที่อายุไม่ครบ 30 ปี (29 ปี 6 เดือน ) จดทะเบียนรับบุคคลอื่นเป็นบุตรบุญธรรมย่อม+ แม้บุคคลนั้นจะมีชีวิตมาจนถึงแก่กรรมนับอายุได้เกิน 30 ปี แล้วก็ไม่ถือว่าเป็นการให้สัตยาบันเพราะไม่ใช่กรณีที่กฎหมายให้สัตยาบันได้
เกี่ยวกับกำหนดอายุของบุคคลที่จะรับบุตรบุญธรรมนี้เป็นเรื่องความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจอนุญาตให้จำเลยแก้คำให้การภายหลังวันชี้สองสถานแล้วได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1884/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุผู้รับบุตรบุญธรรมและการให้สัตยาบัน: การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมที่อายุไม่ครบ 30 ปีเป็นโมฆะและไม่สามารถให้สัตยาบันได้
บุคคลที่อายุไม่ครบ 30 ปี(29ปี 6 เดือน) จดทะเบียนรับบุคคลอื่นเป็นบุตรบุญธรรมย่อมไม่สมบูรณ์ แม้บุคคลนั้นจะมีชีวิตมาจนถึงแก่กรรมนับอายุได้เกิน 30 ปีแล้วก็ไม่ถือว่าเป็นการให้สัตยาบันเพราะไม่ใช่กรณีที่กฎหมายให้สัตยาบันได้
เกี่ยวกับกำหนดอายุของบุคคลที่จะรับบุตรบุญธรรมนี้เป็นเรื่องความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจอนุญาตให้จำเลยแก้คำให้การภายหลังวันชี้สองสถานแล้วได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 795/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำสืบอำนาจตัวแทนในการทำสัญญาเช่า ไม่เป็นการแก้ไขเอกสารสัญญา และการให้สัตยาบันไม่จำต้องทำเป็นหนังสือ
บุตรเอาที่ดินของบิดามารดาไปให้ผู้อื่นเช่า โดยทำสัญญาเช่ากันเป็นหนังสือลงชื่อบุตรเป็นผู้ให้เช่าแล้ว นำสืบว่าที่ทำสัญญาให้เช่ารายนี้ ก็โดยได้อำนาจมาจากบิดามารดา การสืบดังกล่าวนี้มิใช่เป็นการสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อความในเอกสารสัญญาเช่าแต่อย่างใด
การที่ตัวการให้สัตยาบันการกระทำของตัวแทนตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 823 นั้น หาจำต้องทำเป็นหนังสือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้ร่วมสามีภรรยา: การยินยอมถือเป็นสัตยาบันตามกฎหมาย
สามีได้ลงชื่อให้ความยินยอมไว้ในสัญญาซึ่งภรรยาเป็นผู้กู้นั้นเป็นหลักฐานพอให้ถือได้ว่า เป็นหนี้ร่วมตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1482(4) ซึ่งบัญญัติว่า 'หนี้ที่สามีหรือภริยาก่อขึ้นเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียว แต่อีกฝ่ายหนึ่งได้ให้สัตยาบัน' เพราะการที่สามีหรือภริยากระทำเช่นนี้ ก็เช่นเดียวกับการรับรองหรือให้สัตยาบันตามความหมายของกฎหมายมาตรานี้แล้ว และในกรณีเช่นนี้ถ้าเจ้าหนี้ฟ้องขอให้ล้มละลายแล้ว ทั้งสามีและภรรยาอาจถูกศาลมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดได้ทั้ง 2 คน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1347/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำร้องบอกล้างนิติกรรมสัญญาประกันถือเป็นการสัตยาบัน ย่อมมีผลผูกพัน
ภรรยาไปทำสัญญาประกันผู้ต้องหาไว้กับศาล แล้วผิดสัญญาถูกศาลสั่งปรับ สามีจึงยื่นคำร้องบอกล้างนิติกรรมสัญญาประกันโดยว่าเป็นโมฆียกรรม แต่ก่อนศาลจะมีคำสั่งประการใดสามีกลับถอนคำร้องเสีย ดังนี้ ต้องถือว่าเท่ากับไม่ได้ยื่นคำบอกล้างไว้ และถือได้ว่าเป็นการให้สัตยาบันการกระทำของภรรยาไปในตัว ฉะนั้นในภายหลังสามีจะมาบอกล้างอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1347/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนคำบอกล้างนิติกรรมและการสัตยาบันสัญญา
ภรรยาไปทำสัญญาประกันผู้ต้องหาไว้กับศาล แล้วผิดสัญญาถูกศาลสั่งปรับ สามีจึงยื่นคำร้องบอกล้างนิติกรรมสัญญาประกันโดยว่าเป็นโมฆียะกรรม แต่ก่อนศาลจะมีคำสั่งประการใดสามีกลับถอนคำร้องเสีย ดังนี้ ต้องถือว่าเท่ากับไม่ได้ยื่นคำบอกล้างไว้ และถือได้ว่าเป็นการให้สัตยาบันการกระทำของภรรยาไปในตัว ฉะนั้นในภายหลังสามีจะมาบอกล้างอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 148/2488 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้สัตยาบันนิติกรรมโมฆียะกรรม: สามีให้ความเห็นชอบการทำต่างดอกเบี้ยที่ดินสินบริคณห์ของภรรยา
พฤติการณ์ที่ถือว่าสามีได้ให้สัตยาบันโมฆียะกรรม
ภรรยากู้เงินและเอาที่ดินสินบริคณห์ไปให้เจ้าหนี้ทำต่างดอกเบี้ย โดยสามีไม่รู้เห็นครั้นไม่มีเงินชำระ ภรรยาบอกกับเจ้าหนี้ว่าไม่มีเงินชำระ ขอมอบให้ทำต่อไป สามีไปด้วยไม่คัดค้านเจ้าหนี้ได้ทำต่างดอกเบี้ยมา 5 ปีแล้ว ดังนี้ถือว่าสามีได้ให้สัตยาบันแล้ว หมดสิทธิที่จะฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 148/2488

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสัตยาบันโมฆียะกรรม: สามีให้ความเห็นชอบนิติกรรมภรรยาหลังทราบแล้ว
พฤติการณ์ที่ถือว่าสามีได้ให้สัตยาบันโมฆียะกรรม
ภรรยากู้เงินและเอาที่ดินสินบริคณห์ไปให้เจ้าหนี้ทำต่างดอกเบี้ย โดยสามีไม่รู้เห็นครั้นไม่มีเงินชำระ ภรรยาบอกกับเจ้าหนี้ว่าไม่มีเงินชำระขอมอบให้ทำต่อไปสามีไปด้วยไม่คัดค้านเจ้าหนี้ได้ทำต่างดอกเบี้ยมา 5 ปีแล้วดังนี้ ถือว่าสามีได้ให้สัตยาบันแล้ว หมดสิทธิที่จะฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2487

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสั่งซื้อของแทนผู้อื่นโดยไม่ได้รับมอบหมายและไม่ได้รับการสัตยาบัน: บริษัทต้องรับผิด
กรรมการผู้จัดการของบริษัทการพิมพ์สั่งซื้อกระดาษแทนผู้จ้างพิมพ์หนังสือโดยผู้จ้างพิมพ์มิได้มอบหมายให้สั่งซื้อและมิได้ให้สัตยาบันดังนี้บริษัทต้องรับผิดชำระราคากระดาษนั้น
of 12