คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
สาธารณสมบัติ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 312 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1324/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องขับไล่: ผู้มีสิทธิใช้ประโยชน์ในที่ดินที่สุขาภิบาลจัดให้เช่า สามารถฟ้องขับไล่ผู้เช่าได้ แม้ที่ดินเดิมเป็นสาธารณสมบัติ
ที่ดินพิพาทเดิมเป็นคลองซึ่งประชาชนใช้ร่วมกันอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ต่อมาสุขาภิบาลได้ถมคลองแล้วจัดให้ประชาชนวางแผงลอย โจทก์เป็นผู้เข้าทำสัญญาวางแผงลอยบนที่ดินพิพาทกับสุขาภิบาล ต่อมาโจทก์นำที่ดินพิพาทให้จำเลยเช่าเพื่อสร้างอาคารแบบร้านค้า โจทก์เป็นผู้มีสิทธิใช้ประโยชน์ในที่ดินพิพาทและจำเลยได้เช่าที่ดินดังกล่าวจากโจทก์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5344/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องและข้อเท็จจริงสาธารณสมบัติของแผ่นดิน: ศาลต้องวินิจฉัยเฉพาะประเด็นที่คู่ความยกขึ้น
ปัญหาว่าที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือไม่ เป็นข้อเท็จจริงที่จะต้องพิสูจน์กันในทางพิจารณา ไม่ใช่เรื่องอำนาจฟ้องและไม่ใช่ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนเมื่อฟ้องโจทก์มิได้อ้างว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินศาลจะหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองโดยที่จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้หาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2695/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คลองชลประทานสาธารณสมบัติ ผู้บุกรุกไม่มีสิทธิครอบครอง การกระทำไม่เป็นความผิดฐานบุกรุก
ที่พิพาทเป็นส่วนหนี่งของคลองชลประทานซึ่งมีไว้สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตาม ป.พ.พ. มาตรา 1304 ที่ไม่อาจให้บุคคลใดใช้โดยเฉพาะ จึงเป็นทรัพย์สินที่บุคคลหนึ่งบุคคลใดไม่อาจมีสิทธิครอบครอง แม้ที่พิพาทจะตื้นเขิน แต่เมื่อยังไม่มีการถอนสภาพตามกฎหมายก็ยังคงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภททรัพย์สินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันอยู่ โจทก์ร่วมกับสามีซึ่งเข้าครอบครองโดยมิชอบ จึงไม่ได้สิทธิครอบครอง การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์ร่วมอันจะเป็นความผิดฐานบุกรุกตาม ป.อ. มาตรา 362,364, 365

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2695/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองคลองชลประทานที่เป็นสาธารณสมบัติ การรบกวนการครอบครองไม่เป็นความผิด
ที่พิพาทเป็นส่วนหนึ่งของคลองชลประทานซึ่งมีไว้สำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินตาม ป.พ.พ. มาตรา 1304ที่ไม่อาจให้บุคคลใดใช้โดยเฉพาะ จึงเป็นทรัพย์สินที่บุคคลหนึ่งบุคคลใดไม่อาจมีสิทธิครอบครอง แม้ที่พิพาทจะตื้นเขิน แต่เมื่อยังไม่มีการถอนสภาพตามกฎหมายก็ยังคงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภททรัพย์สินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันอยู่ โจทก์ร่วมกับสามีซึ่งเข้าครอบครองโดยมิชอบ จึงไม่ได้สิทธิครอบครอง การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์ร่วมอันจะเป็นความผิดฐานบุกรุกตาม ป.อ. มาตรา 362,364,365

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2397/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความและการฟ้องคืนที่ดินสาธารณสมบัติ: การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยประเด็นที่มิได้ยกขึ้นในชั้นศาลต้องห้ามฎีกา
จำเลยยกปัญหาเรื่องอายุความขึ้นต่อสู้ไว้ในศาลชั้นต้น แต่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโดยไม่ได้วินิจฉัยปัญหาเรื่องอายุความ เมื่อโจทก์อุทธรณ์ก็มิได้ยกปัญหาเรื่องอายุความขึ้นอุทธรณ์ และจำเลยมิได้แก้อุทธรณ์ของโจทก์ จึงไม่มีประเด็นเรื่องอายุความในชั้นอุทธรณ์ แม้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยปัญหาเรื่องอายุความด้วย ก็ถือว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามป.วิ.พ. มาตรา 249
ที่ราชพัสดุใช้ในราชการกองทัพบกเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะตาม ป.พ.พ. มาตรา 1304 (3)แม้จะมีผู้ได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์มาโดยสุจริต และจำเลยรับโอนต่อมาโดยสุจริตก็ตาม จำเลยก็ไม่มีสิทธิในที่ดิน เมื่อจำเลยขุดหรือตักดินไป โจทก์ย่อมฟ้องบังคับให้จำเลยคืนดินหรือใช้ราคาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2397/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินราชพัสดุเป็นสาธารณสมบัติ การขุดดินโดยไม่ได้รับอนุญาตจำเลยต้องรับผิดชดใช้ราคา
ที่ดินพิพาทเป็นที่ราชพัสดุที่ใช้ในราชการกองทัพบกอันเป็น ทรัพย์สินของแผ่นดินตาม พ.ร.บ. ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518 มาตรา 4 ที่ดินพิพาทจึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทที่ใช้เพื่อ ประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะตาม ป.พ.พ. มาตรา 1304(3) แม้ ส. จะได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) สำหรับที่ดินแปลงนี้มาโดยสุจริตและจำเลยจะซื้อที่ดินแปลงนี้มาโดยสุจริตก็ตาม จำเลยก็ไม่มีสิทธิในที่ดินพิพาท จำเลยจึงไม่มีสิทธิที่จะขุดหรือ ตัก ดินไปจากที่ดินแปลงนี้ เมื่อจำเลยขุดหรือตัก ดินไป โจทก์ ย่อมฟ้องบังคับให้จำเลยนำดินที่ขุดหรือตักไปนั้นคืนมาหรือขอให้ จำเลยชดใช้ราคาได้ แม้จำเลยจะได้ยกอายุความขึ้นต่อสู้ไว้ในศาลชั้นต้น แต่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์โดยมิได้วินิจฉัยปัญหาที่ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ เมื่อโจทก์อุทธรณ์ โจทก์มิได้ยกปัญหาในเรื่องอายุความขึ้นอุทธรณ์ และจำเลยมิได้แก้อุทธรณ์ของโจทก์ จึงถือว่าไม่มีประเด็นในเรื่องอายุความในชั้นอุทธรณ์ แม้ศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยปัญหาข้อนี้ด้วยก็เป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น ต้องถือว่า เป็นข้อที่มิได้ว่ากล่าวกันมาแล้วโดยชอบในศาลอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ.มาตรา 249.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4679/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ชายตลิ่งเป็นสาธารณสมบัติ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่ แม้จะครอบครองพื้นที่ก่อน
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกไปจากพื้นไม้กระดานของโจทก์ซึ่งปลูกอยู่บนที่ชายตลิ่ง กับให้ใช้ค่าเสียหายจนกว่าจำเลยและบริวารจะออกไปจากที่พิพาท เท่ากับฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารออกไปจากที่ชายตลิ่งใต้พื้นไม้กระดานนั่นเอง แม้จะฟังว่าพื้นไม้กระดานบนที่พิพาทเป็นของโจทก์ก็ตาม แต่ที่พิพาทเป็นที่ชายตลิ่งอันเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภททรัพย์สินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันตาม ป.พ.พ. มาตรา 1304(2) ผู้ใดหามีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองไม่ แม้โจทก์จะได้ครอบครองที่พิพาทมาก่อนแล้วยอมให้จำเลยใช้ที่พิพาทเพื่อวางสินค้าขาย ขนสินค้าลงไปบรรทุกเรือและขึ้นจากเรือ ก็จะถือว่าเป็นการมอบให้จำเลยครอบครองแทนหาได้ไม่เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาทอยู่จำเลยย่อมมีสิทธิดีกว่าโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่ และเรียกค่าเสียหายจากจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3766/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สาธารณสมบัติของแผ่นดิน: โฉนดที่ดินออกไม่ชอบหากทับที่สาธารณะ แม้ครอบครองนานก็ไม่เกิดกรรมสิทธิ์
ที่ดินพิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน การที่จำเลยได้ที่ดินพิพาทมาอยู่ในโฉนดที่ทำขึ้นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำโดยชอบหรือมิชอบของโจทก์ หรือเจ้าพนักงานผู้ที่เกี่ยวข้องก็ตามและแม้จำเลยจะได้ครอบครองที่ดินดังกล่าวเป็นเวลานานเท่าใด เมื่อมิใช่เป็นการได้มาโดยอำนาจแห่งกฎหมายเฉพาะ หรือพระราชกฤษฎีกาตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1305 แล้ว จำเลยก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ ทั้งไม่อาจอ้างสิทธิใด ๆ ขึ้นมาเป็นข้อต่อสู้กับโจทก์ผู้ดูแลรักษาสาธารณสมบัติของแผ่นดินได้ ไม่ว่าในทางใด การออกโฉนดของจำเลยส่วนที่ทับที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินจึงเป็นการออกไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินพังทลายเป็นทางน้ำสาธารณะ ย่อมกลายเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน การรังวัดแบ่งแยกที่ดินจึงถูกต้องตามกฎหมาย
ที่พิพาทเป็นที่ดินมีโฉนด แต่ได้พังทลายเป็นทางน้ำสาธารณะไปแล้ว ย่อมกลายเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินพังทลายเป็นทางน้ำสาธารณะกลายเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน การรังวัดแบ่งแยกที่ดินตามคำพิพากษาชอบด้วยกฎหมาย
ที่พิพาทเป็นที่ดินมีโฉนด แต่ได้พังทลายเป็นทางน้ำสาธารณะไปแล้ว ย่อมกลายเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
of 32