คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ส่วนได้เสีย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 231 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2355/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเข้าเป็นจำเลยร่วม: การมีส่วนได้เสียโดยตรงในผลแห่งคดี
ที่ดินที่ผู้ร้องเช่าซื้อมาเป็นคนละส่วนกับที่พิพาทที่โจทก์ฟ้อง ขับไล่จำเลย แม้ผู้ร้องจะได้ทำสัญญาเช่าซื้อที่ดินจากว. เช่นเดียวกับจำเลยตลอดจนผลแห่งคดีนี้อาจทำให้จำเลยต้องแพ้คดีมีผลกระทบจนเป็นที่หวั่นเกรงว่าโจทก์อาจนำคดีมาฟ้องร้องได้ก็ไม่ใช่เป็นผลแห่งคดีโดยตรงที่กระทบหรือผูกพันผู้ร้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิตามกฎหมายของผู้ร้อง จึงถือไม่ได้ว่าผู้ร้องมีส่วนได้เสียตามกฎหมายในผลแห่งคดีที่จะเข้าเป็นจำเลยร่วมได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 57(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3278/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการร้องขัดทรัพย์ของผู้เช่าซื้อ แม้ไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ หากมีส่วนได้เสียในทรัพย์ที่ถูกยึด
ผู้ร้องเป็นผู้เช่าซื้อเครื่องเช็คปั๊มดีเซลมา ขณะมีการยึดทรัพย์ ผู้ร้องยังชำระค่าเช่าซื้อไม่ครบถ้วน แสดงว่าผู้ร้องเป็นผู้ครอบครองเครื่องเช็คปั๊มดีเซลและใช้ประโยชน์ ผู้ร้องจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสีย กล่าวอ้างได้ว่า จำเลยที่ 2 ไม่ใช่เจ้าของทรัพย์ที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 ผู้ร้องไม่จำต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ก็ร้องขัดทรัพย์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1974/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการเพิกถอนการขายทอดตลาด: ภรรยาจำเลยไม่มีส่วนได้เสียหากไม่ได้แสดงสิทธิในทรัพย์
โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ของจำเลยที่ 3 และมีการขายทอดตลาด ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดโดยอ้างว่าเป็นภรรยาของจำเลยที่ 3 แต่มิได้บรรยายให้เห็นว่าผู้ร้องมีส่วนได้เสียเกี่ยวกับทรัพย์ดังกล่าวอย่างใด ผู้ร้องย่อมมิได้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีจึงไม่มีสิทธิร้องขอให้ศาลเพิกถอนการขายทอดตลาดได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1706/2535 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานจัดซื้อย่อมไม่มีความผิดฐานมีส่วนได้เสีย หากการจัดซื้อเป็นไปตามระเบียบและเป็นประโยชน์ต่อส่วนราชการ
ผู้ที่จะมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 152 จะต้องเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น เมื่อปรากฏว่าในการจัดซื้อดินถมพร้อมบดอัดแน่นจากห้างหุ้นส่วนจำกัด ช.นั้น เทศบาลได้ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบของทางราชการและราคาที่ตกลงซื้อก็ต่ำกว่าราคาที่เทศบาลตั้งงบประมาณไว้ แสดงว่าการจัดซื้อดินดังกล่าวจำเลยที่ 1 ในฐานะนายกเทศมนตรีได้กระทำไปตามอำนาจหน้าที่ของตนไม่ได้มุ่งหวังประโยชน์อย่างอื่นนอกจากประโยชน์ของเทศบาลเป็นสำคัญ แม้จำเลยที่ 1จะเป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดของห้างหุ้นส่วนจำกัด ช.ก็ตาม กรณีก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยการทำสัญญาซื้อขายดังกล่าว จำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 152 เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่มีความผิด จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัด ช.ก็ไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1706/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการฯ ทำสัญญาซื้อขายกับบริษัทที่ตนเองเป็นหุ้นส่วน ไม่ถือว่ามีส่วนได้เสียหากราคาต่ำกว่างบประมาณและถูกต้องตามระเบียบ
ผู้ที่จะมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 152 จะต้องเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น การที่จำเลยที่ 1 ในฐานะเป็นนายกเทศมนตรี มีหน้าที่ควบคุมดูแลกิจการของเทศบาลโดยตรงและเป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดของห้างหุ้นส่วนจำกัดช.ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายกับห้างหุ้นส่วนจำกัดช. เมื่อเทศบาลได้ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบของทางราชการและราคาที่ตกลงซื้อก็ต่ำกว่าราคาที่เทศบาลตั้งงบประมาณไว้ แสดงว่าจำเลยที่ 1 ได้กระทำไปตามอำนาจหน้าที่ในฐานะนายกเทศมนตรีไม่ได้มุ่งหวังประโยชน์อย่างอื่น จึงถือไม่ได้ว่า จำเลยที่ 1เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยการทำสัญญาดังกล่าว จึงไม่มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 152 จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัด ช. คู่สัญญาจึงไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1706/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานทำสัญญาซื้อขายกับบริษัทที่มีส่วนได้เสีย: ไม่ผิด ม.152 หากราคาต่ำกว่างบประมาณและดำเนินการถูกต้องตามระเบียบ
จำเลยที่ 1 ในฐานะเป็นนายกเทศมนตรี มีหน้าที่ควบคุมดูแลกิจการของเทศบาลโดยตรงและเป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดของห้างหุ้นส่วนจำกัด ซ. ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ซ. เมื่อเทศบาลได้ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบของทางราชการและราคาที่ตกลงซื้อก็ต่ำกว่าราคาที่เทศบาลตั้งงบประมาณไว้ แสดงว่าจำเลยที่ 1 ได้กระทำไปตามอำนาจหน้าที่ ไม่ได้มุ่งหวังประโยชน์อย่างอื่น ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยการทำสัญญาดังกล่าว จึงไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1706/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานทำสัญญาซื้อขายกับบริษัทที่ตนเองเป็นหุ้นส่วนจำกัดความรับผิด ไม่ถือว่ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์ตนเอง หากการจัดซื้อเป็นไปตามระเบียบและราคาต่ำกว่างบประมาณ
ผู้ที่จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152จะต้องเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น เมื่อปรากฏว่าในการจัดซื้อดินถมพร้อมบดอัดแน่นจากห้างหุ้นส่วนจำกัด ช. นั้น เทศบาลได้ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบของทางราชการและราคาที่ตกลงซื้อก็ต่ำกว่าราคาที่เทศบาลตั้งงบประมาณไว้ แสดงว่าการจัดซื้อดินดังกล่าวจำเลยที่ 1 ในฐานะนายกเทศมนตรีได้กระทำไปตามอำนาจหน้าที่ของตนไม่ได้มุ่งหวังประโยชน์ของเทศบาลเป็นสำคัญ แม้จำเลยที่ 1 จะเป็นหุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดของห้างหุ้นส่วนจำกัด ช. ก็ตามกรณีก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยการทำสัญญาซื้อขายดังกล่าว จำเลยที่ 1 จึงไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152 เมื่อจำเลยที่ 1 ไม่มีความผิด จำเลยที่ 2ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัด ช.ก็ไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 143/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่มีส่วนได้เสียในกองมรดกของผู้รับโอนที่ดินเดิม ทำให้ไม่สามารถเป็นผู้จัดการมรดกได้
ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของ ค. ได้จดทะเบียนโอนที่ดินของค.ให้อ.ไปแล้วต่อมาอ. ถึงแก่กรรม ผู้ร้องจึงไม่มีส่วนได้เสียในที่ดินดังกล่าว และไม่อาจร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของ อ.ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 143/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมีส่วนได้เสียในการขอเป็นผู้จัดการมรดก เมื่อมีการโอนมรดกเฉพาะส่วนไปแล้ว
ผู้ร้องในฐานะผู้จัดการมรดกของ ค. เจ้าของที่ดินเดิมได้จดทะเบียนโอนมรดกที่ดินเฉพาะส่วนของ ค.ให้แก่อ.ผู้ตายไปแล้ว ผู้ร้องจึงไม่มีส่วนได้เสียในกองมรดกของ อ.หรือเกี่ยวกับทรัพย์สินในกองมรดกของ อ. ในอันที่จะร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของ อ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5476/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตพินัยกรรมจำกัดเฉพาะทรัพย์สินในต่างประเทศ ผู้จัดการมรดกไม่มีส่วนได้เสียในทรัพย์สินที่ไม่ได้ระบุ
ผู้ตายทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้ จ. โดยให้ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก ในพินัยกรรมมีการกรอกข้อความในช่องทรัพย์สินระบุเฉพาะทรัพย์สินที่มีอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ไม่ได้ระบุถึงทรัพย์สินที่มีอยู่ในประเทศไทย ทั้งหลังคำว่าอื่น ๆ ก็เว้นว่างไว้ แสดงว่าผู้ตายประสงค์จะยกทรัพย์สินเฉพาะที่ระบุในพินัยกรรมให้ จ. เท่านั้น ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกผู้ตายตามคำสั่งศาลสูงของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกาจึงไม่มีส่วนได้เสียที่จะขอให้ถอนผู้ร้องซึ่งเป็นผู้จัดการทรัพย์มรดกในประเทศไทยของผู้ตาย.
of 24