พบผลลัพธ์ทั้งหมด 130 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในข้อตกลงเรื่องอุปการะบุตรหลังหย่า การตีความอำนาจปกครอง
สามีภรรยาจดทะเบียนหย่ากันและทำหนังสือกำหนดข้อตกลงเกี่ยวกับทรัพย์สินและบุตรไว้ ณ อำเภอ ข้อตกลงเกี่ยวกับบุตรเขียนไว้ในบันทึกว่า บุตร 4 คน อยู่ในความอุปการะของภรรยา ดังนี้ สามีชอบที่จะนำพยานบุคคลมาสืบประกอบข้ออ้างตามคำให้การของตนได้ว่า คำว่าอุปการะ ที่เขียนไว้นั้น ตนคัดค้านแล้ว ปลัดอำเภอผู้เขียนชี้แจงว่าไม่ใช่อำนาจปกครองอยู่แก่ภรรยา เป็นแต่ให้ภรรยาช่วยอุปการะในฐานเป็นมารดาเท่านั้นนั้น ตนจึงได้ยินยอม รวมทั้งพฤติการณ์ที่แสดงความหมายแห่งข้อตกลงซึ่งสามียกขึ้นต่อสู้ไว้ว่า เป็นแต่ตกลงให้ภรรยาช่วยอุปการะเลี้ยงดูบุตรเท่านั้นด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการตกลงเรื่องอุปการะบุตรหลังหย่า สามารถนำสืบได้ หากมีข้อโต้แย้งเรื่องอำนาจปกครอง
สามีภรรยาจดทะเบียนหย่ากันและทำหนังสือกำหนดข้อตกลงเกี่ยวกับทรัพย์สินและบุตรไว้ ณ อำเภอ ข้อตกลงเกี่ยวกับบุตรเขียนไว้ในบันทึกว่า บุตร 4 คน อยู่ในความอุปการะของภรรยา ดังนี้สามีชอบที่จะนำพยานบุคคลมาสืบประกอบข้ออ้างตามคำให้การของตนได้ว่า คำว่า อุปการะที่เขียนไว้นั้น ตนคัดค้านแล้วปลัดอำเภอผู้เขียนชี้แจงว่าไม่ใช่อำนาจปกครองอยู่แก่ภรรยาเป็นแต่ให้ภรรยาช่วยอุปการะในฐานะเป็นมารดาเท่านั้น ตนจึงได้ยินยอมรวมทั้งพฤติการณ์ที่แสดงความหมายแห่งข้อตกลงซึ่งสามียกขึ้นต่อสู้ไว้ว่า เป็นแต่ตกลงให้ภรรยาช่วยอุปการะเลี้ยงดูบุตรเท่านั้นด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1848/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการปกครองบุตรหลังการรับรองบุตรชอบด้วยกฎหมาย: อำนาจของบิดาและการเรียกร้องบุตรคืนจากผู้ใช้อำนาจปกครอง
(1) เมื่อคู่ความรับกันว่า ศาลได้พิพากษาในอีกคดีหนึ่งถึงที่สุดแล้วว่าบุตรเป็นของบิดา แล้วต่างไม่สืบพยาน เป็นแต่ขอให้ศาลวินิจฉัยต่อไปตามท้องสำนวนของคดีนี้ที่มีมาในประเด็นว่า โจทก์มีอำนาจตามกฎหมายเรียกบุตรคืนจากจำเลย (หมายถึงบิดา) หรือไม่ หาใช่เป็นการถ้ากันแต่เพียงว่า ถ้ามีข้อได้แย้งเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของโจทก์จำเลยซึ่งทำให้ต้องคดีต่อศาลได้แล้วก็ให้โจทก์ชนะคดีไม่ขาดแต่ขอให้ศาลวินิจฉัยไปตามฟ้องสำนวนว่าจะทำให้โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกให้จำเลยส่งเด็กชายสุรินทร์หรือไม่ ทำให้จำเลยมีนิติสัมพันธ์ต้องส่งเด็กชายสุรินทร์แก่โจทก์หรือไม่
(2) เมื่อคดีที่รับกันนั้นฟังได้ว่าบุตรยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็ต้องอยู่ใต้อำนาจปกครองซึ่งมาตรา + บัญญัติว่าอำนาจนี้อยู่แก่บิดา และให้ผู้ใช้อำนาจนี้มีสิทธิกำหนดที่อยู่ของบุตร แก่โจทก์มามีสิทธิเช่นว่านี้ไม่ โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะเรียกเด็กชายสุรินทร์จากจำเลย จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์ ไม่มีหน้าที่ต้องส่งเด็กชายสุรินทร์แก่โจทก์ โจทก์จึงไม่มีทางชนะคดีตามข้อตกลง
(2) เมื่อคดีที่รับกันนั้นฟังได้ว่าบุตรยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็ต้องอยู่ใต้อำนาจปกครองซึ่งมาตรา + บัญญัติว่าอำนาจนี้อยู่แก่บิดา และให้ผู้ใช้อำนาจนี้มีสิทธิกำหนดที่อยู่ของบุตร แก่โจทก์มามีสิทธิเช่นว่านี้ไม่ โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะเรียกเด็กชายสุรินทร์จากจำเลย จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์ ไม่มีหน้าที่ต้องส่งเด็กชายสุรินทร์แก่โจทก์ โจทก์จึงไม่มีทางชนะคดีตามข้อตกลง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1848/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจปกครองบุตรหลังการรับรองบุตรชอบด้วยกฎหมาย: สิทธิในการกำหนดที่อยู่ของบุตรเป็นของผู้ใช้อำนาจปกครอง
(1) เมื่อคู่ความรับกันว่า ศาลได้พิพากษาในอีกคดีหนึ่งถึงที่สุดแล้วว่าบุตรเป็นของบิดา แล้วต่างไม่สืบพยาน เป็นแต่ขอให้ศาลวินิจฉัยต่อไปตามท้องสำนวนคดีนี้ที่มีมาในประเด็นว่า โจทก์มีอำนาจตามกฎหมายเรียกบุตรคืนจากจำเลย (หมายถึงบิดา) หรือไม่ หาใช่เป็นการท้ากันแต่เพียงว่า ถ้ามีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของโจทก์จำเลย ซึ่งทำให้ฟ้องคดีต่อศาลได้แล้ว ก็ให้โจทก์ชนะคดีไม่ยาก แต่ขอให้ศาลวินิจฉัยไปตามท้องสำนวนว่าจะทำให้โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกให้จำเลยส่งเด็กชายสุรินทร์หรือไม่ ทำให้จำเลยมีนิติสัมพันธ์ต้องส่งเด็กชายสุรินทร์แก่โจทก์หรือไม่ (2) เมื่อคดีที่รับกันนั้นฟังได้ว่าบุตรยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งต้องอยู่ใต้อำนาจปกครองซึ่งมาตรา1537 บัญญัติว่าอำนาจนี้อยู่แก่บิดา และให้ผู้ใช้อำนาจนี้มีสิทธิกำหนดที่อยู่ของบุตร แต่โจทก์หามีสิทธิเช่นว่านี้ไม่ โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะเรียกเด็กชายสุรินทร์จากจำเลย จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์ไม่มีหน้าที่ต้องส่งเด็กชายสุรินทร์แก่โจทก์โจทก์จึงไม่มีทางชนะคดีตามข้อตกลง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 928/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดข่มขืนโดยจำเลยไม่ใช่ผู้ปกครองตามกฎหมาย: การตีความอำนาจปกครองเด็ก
เด็กหญิงเชื่อมอายุ 12 ปีเป็นบุตรติดนางมามารดาแล้วนางมาสมรสกับจำเลย จำเลยข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงเชื่อมจำเลยย่อมมีความผิดเพียงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 เท่านั้น กรณียังไม่ต้องด้วย มาตรา 285 อันเป็นบทบัญญัติที่ให้วางโทษหนักกว่าที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ หนึ่งในสาม เพราะอำนาจปกครองเด็กหญิงเชื่อมตกอยู่แก่นางมามารดาตาม ป.พ.พ. มาตรา 1540 เด็กหญิงเชื่อมมิได้อยู่ในความปกครองของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 928/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดข่มขืนเด็กหญิงบุตรติดภรรยา: อำนาจปกครองตามกฎหมายและผลต่อการลงโทษ
เด็กหญิงเชื่อมอายุ 12 ปี เป็นบุตรติดนางมามารดาแล้วนางมาสมรสกับจำเลย จำเลยข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงเชื่อม จำเลยย่อมมีความผิดเพียงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 เท่านั้น กรณียังไม่ต้องด้วย มาตรา 285 อันเป็นบทบัญญัติที่ให้วางโทษหนักกว่าที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้นๆหนึ่งในสาม เพราะอำนาจปกครองเด็กหญิงเชื่อมตกอยู่แก่นางมามารดาตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1540 เด็กหญิงเชื่อมมิได้อยู่ในความปกครองของจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 965/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจปกครองเด็ก: พิจารณาประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสำคัญ แม้บิดาโดยทั่วไปมีอำนาจ
ตามธรรมดาแล้วอำนาจปกครองอยู่แก่บิดา แต่เมื่อมีความเหมาะสม ศาลอาจสั่งให้อำนาจปกครองอยู่แก่มารดาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2085/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขอค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรควบคู่กับการรับรองบุตร และอำนาจฟ้องในฐานะมารดาผู้ใช้อำนาจปกครอง
การฟ้องขอให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูเด็กรวมเข้ามาในคดีเดียวกันกับขอให้รับรองบุตรนั้น ย่อมทำได้ไม่มีกฎหมายห้ามโดยเป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน
ส่วนที่โจทก์ฟ้องขอให้จ่ายค่าเลี้ยงดูเด็กนั้นไม่ได้ฟ้องในนามของบุตรหรือในฐานะเป็นผู้แทนบุตร แต่ฟ้องในฐานะโจทก์เป็นมารดาและเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองเพื่อให้จำเลยจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรร่วมกับโจทก์จึงไม่เป็นอุทลุม(ป.พ.พ. ม.1534)
ข้อเถียงของจำเลยเรื่องอำนาจปกครองบุตรนั้นมิได้ยกขึ้นคัดค้านเสียแต่แรก จึงไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัย
ส่วนที่โจทก์ฟ้องขอให้จ่ายค่าเลี้ยงดูเด็กนั้นไม่ได้ฟ้องในนามของบุตรหรือในฐานะเป็นผู้แทนบุตร แต่ฟ้องในฐานะโจทก์เป็นมารดาและเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองเพื่อให้จำเลยจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรร่วมกับโจทก์จึงไม่เป็นอุทลุม(ป.พ.พ. ม.1534)
ข้อเถียงของจำเลยเรื่องอำนาจปกครองบุตรนั้นมิได้ยกขึ้นคัดค้านเสียแต่แรก จึงไม่มีประเด็นจะต้องวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2076/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุตรไม่ใช่ทรัพย์สิน แม้อุปการะเลี้ยงดู ก็ไม่มีสิทธิในอำนาจปกครอง
บุคคลไม่ใช่ทรัพย์สิน บุตรจึงไม่เป็นกรรมสิทธิ์ของบิดามารดที่จะมอบให้บุคคลอื่นได้
เด็กจะเป็นบุตรที่ชอบหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายของบิดาก็ตามเมื่อบิดาถึงแก่กรรมและไม่ปรากฎว่ามารดาถูกถอนอำนาจปกครองเหนือเด็กนั้นอยู่ บุคคลอื่นแม้จะได้อุปการะมานานและสิ้นเงินไปเพียงใดก็ตาม หาก่อให้เกิดสิทธิที่จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองเด็กนั้นขึ้นมาไม่
เด็กจะเป็นบุตรที่ชอบหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายของบิดาก็ตามเมื่อบิดาถึงแก่กรรมและไม่ปรากฎว่ามารดาถูกถอนอำนาจปกครองเหนือเด็กนั้นอยู่ บุคคลอื่นแม้จะได้อุปการะมานานและสิ้นเงินไปเพียงใดก็ตาม หาก่อให้เกิดสิทธิที่จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองเด็กนั้นขึ้นมาไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 848/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจผู้ใช้อำนาจปกครองกู้เงินแทนเด็ก: เด็กต้องรับผิดชอบหนี้เมื่อเงินใช้เพื่อประโยชน์ของตน
ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1546 (3) ไม่ได้ห้ามไม่ให้ผู้ใช้อำนาจปกครองไปกู้เงินเขาแทนเด็ก ฉะนั้นเมื่อผู้ใช้อำนาจปกครอง ไปกู้เงินเขาใช้ เพื่อประโยชน์ของเด็กแล้ว เด็กก็ต้องรับผิดต่อผู้ให้กู้./