พบผลลัพธ์ทั้งหมด 432 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 969/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ แม้ผู้ขายเดิมมิได้เป็นเจ้าของ
บิดาผู้ร้องและผู้ร้องเข้าครอบครองที่พิพาทโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของโดยเฉพาะผู้ร้องได้ครอบครองที่พิพาทติดต่อกันมาเป็นเวลานานกว่า 10 ปี แม้ผู้ขายที่พิพาทให้แก่บิดาผู้ร้องมิใช่เจ้าของที่พิพาทก็ตามแต่เมื่อผู้ร้องได้ครอบครองที่พิพาทด้วยความสงบ เปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันมากว่า 10 ปี โดยมิได้ครอบครองแทนผู้อื่นผู้ร้องจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่พิพาท ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 897/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ผิดคัน ศาลต้องคืนทรัพย์สินให้เจ้าของ หากไม่ใช่ทรัพย์สินที่ศาลสั่งริบจริง
รถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 8ช-9378 ที่เจ้าพนักงานตำรวจไปยึดมาหลักจากศาลพิพากษาให้ริบ มิใช่รถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 8ช-9377 ที่ศาลพิพากษาให้ริบ ย่อมเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจที่จะต้องคืนรถยนต์นั้นแก่เจ้าของไป ศาลมีอำนาจคืนทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 36 ก็แต่เฉพาะในกรณีที่ทรัพย์สินนั้นเป็นทรัพย์สินนั้นเป็นทรัพย์สินที่ศาลสั่งริบและผู้เป็นเจ้าของที่แท้จริงมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4603/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดิน: การแย่งการครอบครองไม่เกิดขึ้นหากผู้ถูกแย่งเป็นเจ้าของ
โจทก์ฟ้องว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยบุกรุกเข้าไปในที่ดินโจทก์ ขอให้ขับไล่ การที่จำเลยให้การต่อสู้คดีว่าที่พิพาทไม่ใช่ของโจทก์ แต่เป็นของจำเลยหากข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์มีสิทธิครอบครองจำเลยก็ได้แย่งการครอบครองจากโจทก์มาแล้วกว่า1 ปี และโจทก์มิได้ฟ้องเอาคืนซึ่งการครอบครองภายใน 1 ปี นับแต่เวลาถูกแย่งการครอบครอง นั้น คดีคงมีประเด็นข้อพิพาทเพียงว่าโจทก์หรือจำเลยมีสิทธิครอบครองในที่พิพาท กรณีไม่มีประเด็นในเรื่องการแย่งการครอบครองที่ดินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375เพราะการแย่งการครอบครองจะเกิดขึ้นได้ก็แต่ในที่ดินของผู้อื่นเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4451/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดถือครอบครองที่ดินหลังการซื้อขายทอดตลาด: การเปลี่ยนแปลงลักษณะการยึดถือเพื่อเป็นเจ้าของ
เดิมจำเลยถูก ม.ฟ้องเป็นคดีแพ่งและยึดที่ดินมีหลักฐาน น.ส.3ของจำเลยออกขายทอดตลาด และ ม.เป็นผู้ประมูลซื้อที่ดินทั้งแปลงรวมทั้งที่ดินพิพาทได้จากการขายทอดตลาด จำเลยซึ่งอยู่อาศัยในที่ดินดังกล่าวมาก่อนย่อมทราบดีว่าม.ได้สิทธิครอบครองในที่ดินแล้ว การที่จำเลยอยู่อาศัยในที่ดินดังกล่าวต่อมาจึงเป็นการยึดถือที่ดินไว้แทน ม.เท่านั้น หาใช่ยึดถือเพื่อตนเองไม่ หากจำเลยจะยึดถือเพื่อตนอย่างเป็นเจ้าของ ก็ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1381 คือบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะการยึดถือไปยัง ม. จำเลยจึงไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ตาม มาตรา 1382
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3815/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความเป็นเจ้าของทรัพย์สินของกลางในคดีพนัน พยานหลักฐานขัดแย้งไม่อาจรับฟังได้
คดีชั้นร้องขอคืนของกลาง ผู้ร้องมีหน้าที่นำสืบว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของของกลางตามที่กล่าวอ้าง เมื่อพยานหลักฐานที่ผู้ร้องนำสืบมาแตกต่างขัดกันรับฟังไม่ได้ว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ของกลาง ผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิร้องขอคืนของกลาง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2847/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ของบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ และการคืนทรัพย์ให้เจ้าของ
พระราชบัญญัติ ญญัติป่าไม้ฯ มาตรา 64 ทวิ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจยึดบรรดาเครื่องมือ เครื่องใช้ สัตว์พาหนะ ยานพาหนะหรือเครื่องจักรกลใด ๆ ที่บุคคลได้ใช้หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าได้ใช้การกระทำความผิด เพื่อเป็นหลักฐานในการพิจารณาคดีได้จนกว่าพนักงานอัยการสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีหรือจนกว่าคดีจะถึงที่สุดนั้น มิได้มีข้อความระบุถึงกรณีเจ้าของเครื่องมือดังกล่าวมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดก็ให้ยึดได้ ดังนั้นจะยึดทรัพย์ของบุคคลที่มิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดไว้ประกอบคดีจนกว่าคดีจะถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 85 หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2244/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน: แม้ได้มาด้วยเงินทุจริต แต่สิทธิในการร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ยึดมีเฉพาะเจ้าของทรัพย์
แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 ซื้อรถยนต์พิพาทด้วยเงินที่ลักไปจากผู้ร้องก็ตาม แต่ก็จะถือว่ารถยนต์พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องหาได้ไม่ เพราะรถยนต์พิพาทไม่ใช่ทรัพย์ของผู้ร้องที่จำเลยที่ 1 ลักเอาไป เมื่อผู้ร้องไม่ได้เป็นเจ้าของรถยนต์พิพาท ผู้ร้องจึงไม่ถูกโต้แย้งสิทธิและไม่มีอำนาจร้องขอให้ปล่อยรถยนต์พิพาทที่โจทก์นำยึด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินพิพาท: การกันส่วนที่ดินจากการบังคับคดี
โจทก์นำยึดที่ดินพิพาทซึ่งมีใบแจ้งการครอบครอง (ส.ค. 1)ของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษา ปรากฏว่าผู้ร้องได้ครอบครองที่ดินพิพาทอย่างเป็นเจ้าของตลอดมา ผู้ร้องจึงเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทเป็นสัดส่วนตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง โจทก์จะนำยึดที่ดินส่วนที่ผู้ร้องครอบครองอยู่ออกขายทอดตลาดไม่ได้ ผู้ร้องย่อมมีสิทธิที่จะขอให้กันส่วนที่ดินของผู้ร้องออกก่อนที่จะดำเนินการขายทอดตลาดได้ ปัญหาว่าที่ดินพิพาทเป็นสินสมรสหรือไม่ เป็นปัญหาที่ไม่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 733/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิรุธในการอ้างความเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ของกลาง ขัดแย้งกับเอกสารและพยานหลักฐาน
ผู้ร้องขอคืนรถจักรยานยนต์ของกลาง อ้างว่าเป็นเจ้าของ ซื้อมาจากร้าน ว. แต่ไม่มีหลักฐานสัญญาซื้อขายหรือสัญญาเช่าซื้อมายืนยันตามข้ออ้าง และปรากฏหลักฐานการจดทะเบียนเมื่อวันที่ 25 มกราคม2533 ก่อนผู้ร้องเบิกความเป็นเวลาเกิน 9 เดือน ทั้งเป็น เอกสารที่ออกแทนเล่มที่หายไปโดยออกให้เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2533 หลังวันที่ 25มิถุนายน 2533 ซึ่งมีวันเกิดเหตุคดีนี้เป็นเวลา 2 เดือนเศษ และก่อนวันที่ 24 สิงหาคม 2533 อันเป็นวันที่ผู้ร้อง ยื่นคำร้องขอคืนของกลางเพียง9 วัน เป็นข้อพิรุธทั้งขัดกับข้อความ ที่ปรากฏในบัตรส่งค่างวดของรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวที่จำเลย นำไปแสดงกับพนักงานสอบสวนโดยอ้างว่า จำเลยเป็นผู้เช่าซื้อเมื่อ วันที่ 9 มกราคม 2533 ค้างค่างวด 27,000บาท และที่ผู้ร้องอ้างว่า ให้จำเลยยืมรถจักรยานยนต์ไปในวันเกิดเหตุเวลา 17.30 นาฬิกา ก็ขัดกับบันทึกคำให้การของจำเลยชั้นสอบสวนและบันทึกการจับกุมจำเลย ซึ่งระบุว่าจับกุมจำเลยได้พร้อมรถจักรยานยนต์เมื่อเวลา 6 นาฬิกา ก่อนเวลาที่ผู้ร้องให้จำเลยยืมไป ผู้ร้องทราบเรื่องรถจักรยานยนต์ ถูกยึดวันรุ่งขึ้นแต่ไม่ปรากฏว่าผู้ร้องไปติดต่อขอคืนในทันที พยานหลักฐานของผู้ร้องมีพิรุธและขัดต่อเหตุผล จึงฟังไม่ได้ว่าผู้ร้องเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ของกลาง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 380/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจร้องทุกข์ในคดีอาญา: เจ้าของ/ผู้ครอบครองทรัพย์สินเสียหายมีสิทธิฟ้องดำเนินคดีได้ แม้มิได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
แม้โจทก์ร่วมจะมิได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ตั้งหมู่บ้าน แต่โจทก์ร่วมก็เป็นเจ้าของหมู่บ้าน เป็นผู้ครอบครองหมู่บ้านกับเป็นเจ้าของโซ่และกุญแจซึ่งปิดกั้นทางเข้าหมู่บ้านเมื่อมีผู้มาทำลายโซ่และกุญแจเพื่อจะเข้าไปในหมู่บ้าน โจทก์ร่วมย่อมเป็นผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีได้ บ.และจำเลยกระทำความผิดร่วมกัน บ.ถูกแยกฟ้องที่ศาลคดีเด็กและเยาวชนกลาง แต่ศาลคดีเด็กและเยาวชนกลางพิพากษายกฟ้องเพราะพยานโจทก์เบิกความแตกต่างกัน ก็เป็นดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของแต่ละศาล ศาลในคดีที่จำเลยถูกฟ้องไม่จำต้องถือตาม