คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เพิ่มโทษ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 491 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5867/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษปรับเพื่อเพิ่มโทษในความผิดฐานพนัน: การปรับเป็นโทษทางอาญา ทำให้การชำระค่าปรับถือเป็นการพ้นโทษ
การปรับเป็นโทษอย่างหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18(4)เมื่อศาลลงโทษปรับจำเลยและมีการชำระค่าปรับครบถ้วนแล้วในวันเวลาใดย่อมถือได้ว่าจำเลยได้พ้นโทษนับแต่วันที่ชำระค่าปรับนั้นแล้วหากจำเลยพ้นโทษปรับมาแล้ว ยังไม่ครบกำหนด 3 ปี มากระทำผิดต่อพระราชบัญญัติการพนันอีก จึงเข้าหลักเกณฑ์ต้องวางโทษหนักขึ้นตามที่พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 14 ทวิ อนุมาตรา (1)หรือ (2) แล้วแต่กรณี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5867/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนับโทษปรับเพื่อเพิ่มโทษในความผิดซ้ำ พ.ร.บ.การพนัน: โทษปรับถือเป็นโทษแล้ว ทำให้การกระทำผิดซ้ำภายใน 3 ปี ต้องเพิ่มโทษ
การปรับเป็นโทษอย่างหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18(4)เมื่อศาลลงโทษปรับจำเลยและมีการชำระค่าปรับครบถ้วนแล้วในวันเวลาใดย่อมถือได้ว่าจำเลยได้พ้นโทษนับแต่วันที่ชำระค่าปรับนั้นแล้วหากจำเลยพ้นโทษปรับมาแล้ว ยังไม่ครบกำหนด 3 ปี มากระทำผิดต่อพระราชบัญญัติการพนันอีก จึงเข้าหลักเกณฑ์ต้องวางโทษหนักขึ้นตามที่พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 14 ทวิ อนุมาตรา (1)หรือ (2) แล้วแต่กรณี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5808/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำในคดีพนัน: การพ้นโทษจากค่าปรับและการบังคับใช้มาตรา 14 ทวิ
โทษปรับเป็นโทษอย่างหนึ่งในจำพวกโทษทั้ง 5 ชนิดที่ลงแก่ผู้กระทำผิดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18(4)เมื่อศาลลงโทษปรับจำเลยและมีการชำระค่าปรับครบถ้วนแล้วในวันเวลาใดย่อมถือได้ว่าจำเลยได้พ้นโทษนับแต่วันที่ชำระค่าปรับนั้นแล้วฉะนั้น หากจำเลยพ้นโทษปรับแล้วยังไม่ครบกำหนด 3 ปี มากระทำผิดต่อพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 อีก จึงเข้าหลักเกณฑ์ต้องเพิ่มโทษตามวิธีการที่พระราชบัญญัติการพนันฯ มาตรา 14 ทวิ ที่แก้ไขแล้วบัญญัติไว้ในอนุมาตรา (1) หรือ (2) แล้วแต่กรณี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5808/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำในคดีการพนัน โดยการชำระค่าปรับถือเป็นการพ้นโทษแล้ว
โทษปรับเป็นโทษอย่างหนึ่งในจำพวกโทษทั้ง 5 ชนิดที่ลงแก่ผู้กระทำผิดตามที่บัญญัติไว้ใน ป.อ. มาตรา 18(4) เมื่อศาลลงโทษปรับจำเลยและมีการชำระค่าปรับครบถ้วนแล้วในวันเวลาใดย่อมถือได้ว่าจำเลยได้พ้นโทษ นับแต่วันที่ชำระค่าปรับนั้นแล้วฉะนั้น หากจำเลยพ้นโทษปรับแล้วยังไม่ครบกำหนด 3 ปี มากระทำผิดต่อ พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. 2478 อีก จึงเข้าหลักเกณฑ์ต้องเพิ่มโทษตามวิธีการที่ พ.ร.บ. การพนันฯ มาตรา 14 ทวิ ที่แก้ไขแล้วบัญญัติไว้ในอนุมาตรา (1) หรือ (2) แล้วแต่กรณี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5808/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำในคดีพนัน โดยการพ้นโทษคือการชำระค่าปรับครบถ้วน
โทษปรับเป็นโทษอย่างหนึ่งในจำพวกโทษทั้ง 5 ชนิดที่ลงแก่ผู้กระทำผิดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18(4)เมื่อศาลลงโทษปรับจำเลยและมีการชำระค่าปรับครบถ้วนแล้วในวันเวลาใดย่อมถือได้ว่าจำเลยได้พ้นโทษนับแต่วันที่ชำระค่าปรับนั้นแล้วฉะนั้น หากจำเลยพ้นโทษปรับแล้วยังไม่ครบกำหนด 3 ปี มากระทำผิดต่อพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 อีก จึงเข้าหลักเกณฑ์ต้องเพิ่มโทษตามวิธีการที่พระราชบัญญัติการพนันฯ มาตรา 14 ทวิ ที่แก้ไขแล้วบัญญัติไว้ในอนุมาตรา (1) หรือ (2) แล้วแต่กรณี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4891/2533 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงผู้อื่นหลังจากการโต้เถียง และผลกระทบของพ.ร.บ.ล้างมลทินต่อการเพิ่มโทษ
จำเลยและโจทก์ร่วมสมัครใจด่าทอซึ่งกันและกันก่อนเกิดเหตุแล้วจำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วม การกระทำของจำเลยเช่นนี้ถือไม่ได้ว่ากระทำไปเพราะบันดาลโทสะโดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอัน ไม่เป็นธรรม
เมื่อคดีก่อนจำเลยกระทำผิดก่อนวันที่ 5 ธันวาคม 2530และพ้นโทษไปก่อนแล้ว จำเลยย่อมได้รับประโยชน์จากพระราชบัญญัติล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลย เดชทรงมีพระชนมพรรษา 60 พรรษา พ.ศ. 2530 มาตรา 4 ถือว่าจำเลยไม่เคยถูกลงโทษในความผิดดังกล่าว จึงเพิ่มโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3170/2533

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ล้างมลทินกระทบการเพิ่มโทษคดีเก่า: ศาลฎีกายกประเด็นเพื่อความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยไม่ได้อุทธรณ์
พ.ร.บ. ล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระชนม พรรษา 60 พรรษาพ.ศ. 2530 มาตรา 4 บัญญัติให้ล้างมลทินให้แก่บรรดาผู้ต้องโทษในกรณีความผิดต่าง ๆ ซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 5 ธันวาคมพ.ศ. 2530 และได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับโดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษในกรณีความผิดนั้น ๆ จำเลยได้กระทำความผิดในคดีก่อนก่อนวันที่ 5 ธันวาคมพ.ศ. 2530 และได้พ้นโทษไปแล้วก่อนวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2530 ซึ่งเป็นวันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับ ดังนั้นจึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้ แม้จำเลยมิได้ฎีกาในข้อนี้ แต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6711/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การล้างมลทินตาม พ.ร.บ.ล้างมลทินกระทบต่อการเพิ่มโทษในคดีซ้ำ
มาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระชนมพรรษา60 พรรษา พ.ศ. 2530 ให้ล้างมนทินให้แก่บรรดาผู้ต้องโทษในกรณีความผิดต่าง ๆ ซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2530และได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับโดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษในกรณีความผิดนั้น ๆการล้างมลทินตามพระราชบัญญัตินี้มิได้จำกัดความผิดของผู้ต้องโทษไว้ผู้ต้องโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษจึงอยู่ในข่ายได้รับผลด้วยจำเลยพ้นโทษฐานมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองไปก่อนวันที่5 ธันวาคม 2530 ซึ่งเป็นวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับจึงถือว่าจำเลยไม่เคยถูกลงโทษในความผิดนี้มาก่อน เพิ่มโทษจำเลยในคดีหลังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6711/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การล้างมลทินและการเพิ่มโทษ: ผลของ พ.ร.บ. ล้างมลทิน ต่อการเพิ่มโทษในความผิดซ้ำ
มาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระชนมพรรษา 60 พรรษาพ.ศ. 2530 ให้ล้างมลทินให้แก่บรรดาผู้ต้องโทษในกรณีความผิดต่าง ๆซึ่งได้กระทำก่อนหรือในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2530 และได้พ้นโทษไปแล้วก่อนหรือในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษในกรณีความผิดนั้น ๆ การล้างมลทินตามพระราชบัญญัติ นี้มิได้จำกัดความผิดของผู้ต้องโทษไว้ ผู้ต้องโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษจึงอยู่ในข่ายได้รับผลด้วยจำเลยพ้นโทษฐานมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองไปก่อนวันที่ 5ธันวาคม 2530 ซึ่งเป็นวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับจึงถือว่าจำเลยไม่เคยถูกลงโทษในความผิดนี้มาก่อน เพิ่มโทษจำเลยในคดีหลังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5669/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คดีอาญาและการจำกัดอำนาจศาลอุทธรณ์ในการเพิ่มโทษ รวมถึงข้อจำกัดในการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 69 จำคุก 2 ปี และริบมีดของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เฉพาะบทกฎหมายที่ลงโทษเป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ส่วนโทษจำคุกยังคงเท่ากับที่ศาลชั้นต้นกำหนด เป็นการแก้ไขเล็กน้อยเมื่อศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกไม่เกินห้าปี จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ฎีกาขอให้รอการลงโทษเป็นเรื่องโต้แย้งดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลอุทธรณ์ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 69 ให้จำคุกจำเลยมีกำหนด 2 ปี โจทก์มิได้อุทธรณ์จำเลยอุทธรณ์ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกัน จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 แม้ศาลอุทธรณ์ฟังว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่น มิใช่เป็นการป้องกันสิทธิของจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยหนักกว่าที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้มิได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212 ศาลอุทธรณ์คงมีอำนาจวางบทลงโทษจำเลยให้ถูกต้องเท่านั้น
of 50