พบผลลัพธ์ทั้งหมด 89 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สินเดิมชาย เรียกคืนได้หลังหย่า
เรือนหอและเครื่องเรือนซึ่งชายมีอยู่ก่อนพิธีสมรสเป็นสินเดิมของฝ่ายชาย ไม่ใช่สินสอด เมื่อหย่ากันจึงเรียกคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2483
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกคืนเงินมัดจำหลังเหตุผิดสัญญาเปลี่ยนไป ไม่ถือเป็นการฟ้องซ้ำ
โจทก์เคยฟ้องเรียกเงินมัดจำคืนโดยหาว่าจำเลยผิดสัญญาศาลยกฟ้องภายหลัง จำเลยตกอยู่ในฐานะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้โจทก์ก็ฟ้องเรียกเงินมัดจำคืนได้ ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 964/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้เงินโดยมีที่นาเป็นหลักประกันชั่วคราว ไม่ถือเป็นการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้กู้มีสิทธิเรียกคืนเมื่อครบกำหนด
กู้เงินกันโดยมอบที่นาให้ทำเป็นการหัดลดเงินกู้ ที่นารายนั้นไม่ตกเป็นทรัพย์สินของผู้ให้กู้ และเมื่อผู้ให้กู้ตายผู้กู้ฟ้องเรียกที่นาคืนจากผู้รับมฤดกของผู้ให้กู้ เมื่อเกิน 1 ปีปับแต่วันที่ผู้ให้กู้ตายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 731/2480
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกคืนภาษีที่ประเมินผิด และอายุความเริ่มนับเมื่อทราบว่าไม่ต้องเสียภาษี
โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์ในกรณีที่เจ้าพนักงานประเมินค่าภาษีการค้าผิดเจ้าพนักงานได้สั่งเด็ดขาดประการใดไม่ จนล่วงเลยเวลามาช้านานดังนี้ โจทก์มีอำนาจฟ้องต่อศาลขอเรียกค่าภาษีคืนได้ ป.พ.พ.ม. 419 - 169 การที่โจทก์จะฟ้องเรียกเงินค่าภาษีคืนฐานลาภมิควรได้ในกรณีที่เจ่าพนักงานประเมินค่าภาษีผิดนั้น อายุความเริ่มนับแต่วันที่จำเลยทราบว่าไม่ต้องเสียภาษีหาใช่นับแต่วันที่ จำเลยชำระเงินค่าภาษีไปไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 485/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียกคืนเงินขะมาหลังการล่อลวงภรรยาและการหนีตามชายอื่น ไม่สามารถเรียกร้องได้เนื่องจากถือเป็นสินสอด
ผัวเมียประกาศเรื่องสินสอดทองหมั้น ร.ศ.119 โจทก์ลักพาบุตร์จำเลยไปแล้วแต่งผู้ใหญ่มาขะมาสู่ขอและยอมเสียเงินให้เมื่อจำเลยล่อลวงเอาเมียโจทก์ไปโจทก์เรียกเงินที่ให้คืนไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 425/2472
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าเสียหายจากภัยธรรมชาติ: ค่าเช่าที่ชำระแล้วไม่สามารถเรียกคืนได้
น้ำท่วมทำนาไม่ได้ค่าเช่าชำระแล้วเรียกค่าเช่าคืนไม่ได้ ป.ม.370, 537,567,3 วัตถุที่ประสงค์เสียหายอันจะโทษลูกหนี้มิได้ การเสียหายเปนภัพแก่เจ้าหนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 604/2471
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินชำระหนี้ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย กรรมสิทธิ์ยังไม่เปลี่ยนมือ ทายาทมีสิทธิเรียกคืนได้
ลูกหนี้แล้วเอาที่นาที่สวนตีใช้หนี้ โดยทำไม่ถูกต้องตามกฎหมายเจ้าของสวนเอาสวนคืนได้แต่ต้องให้ราคา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13078/2558 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกคืนสินสมรส: การฟ้องต่อเนื่องจากคำพิพากษาเดิม
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2549 โจทก์ในฐานะภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของจำเลยที่ 1 ฟ้องเพิกถอนนิติกรรมที่จำเลยที่ 1 นำเงินสินสมรสไปซื้อที่ดินและทาวน์เฮ้าส์พิพาทให้แก่จำเลยที่ 2 ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1480 ภายในกำหนดเวลา 1 ปี นับแต่โจทก์ทราบเหตุการณ์ทำนิติกรรมระหว่างจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 แต่ต่อมาศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2552 ว่า ฟ้องโจทก์มิใช่การฟ้องเพื่อเพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายที่ดินและทาวน์เฮ้าส์ แต่เป็นการฟ้องเพื่อเรียกสินสมรสคืนจากจำเลยที่ 2 และการที่ศาลชั้นต้นให้โจทก์นำสืบว่าจำเลยที่ 1 เป็นคนถอนเงินในบัญชีซึ่งเป็นสินสมรสและมอบให้แก่จำเลยที่ 2 เพื่อซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แล้วพิพากษาให้จำเลยที่ 2 คืนเงินแก่โจทก์ เป็นการนำสืบนอกฟ้องนอกประเด็น จะพิพากษาให้จำเลยที่ 2 คืนเงินหาได้ไม่ โจทก์ต้องไปว่ากล่าวต่างหากแล้วโจทก์จึงยื่นฟ้องคดีนี้ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2552 เรียกร้องให้จำเลยที่ 2 คืนเงินจำนวน 1,512,400 บาท จึงเป็นการใช้สิทธิฟ้องต่อเนื่องจากคำพิพากษาในคดีเดิม แม้คำพิพากษาคดีดังกล่าวจะไม่มีถ้อยคำว่า "โดยไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องคดีใหม่" อายุความคดีนี้จึงตกอยู่ในบังคับ ป.พ.พ. มาตรา 193/17 วรรคสอง หาใช่ต้องฟ้องคดีภายใน 1 ปี นับแต่วันที่ได้รู้เหตุอันเป็นมูลให้เพิกถอนตาม ป.พ.พ. มาตรา 1480 วรรคสอง ตามที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 1 ในคดีนี้พิพากษาไม่ เมื่อโจทก์นำคดีมาฟ้องภายใน 60 วัน นับแต่คำพิพากษาคดีก่อนถึงที่สุด คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5689/2550
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกคืนโฉนดที่ดินที่บุตรเลี้ยงนำไปวางเป็นประกันโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ และการมีอำนาจฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ว. เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิพาท ว. ถึงแก่ความตาย โจทก์ในฐานะทายาท ว. เนื่องจากเป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมายจึงเป็นผู้สืบสิทธิในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพิพาท อ. บุตรเลี้ยงของโจทก์นำโฉนดที่ดินพิพาทไปวางเป็นประกันเงินกู้ไว้แก่จำเลยในขณะที่ ว. ยังมีชีวิตอยู่โดยมิได้รับความยินยอมจาก ว. เป็นการไม่ชอบ จำเลยจึงไม่มีสิทธิยึดถือโฉนดที่ดินพิพาท ขอให้บังคับจำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินพิพาท เป็นการบรรยายโดยแจ้งชัดแล้ว แม้ฟ้องโจทก์จะมิได้บรรยายว่า โจทก์มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาททั้งหมดหรือเป็นเจ้าของร่วมในสัดส่วนเท่าใด ก็เป็นเพียงรายละเอียดที่โจทก์อาจนำสืบให้ปรากฏในชั้นพิจารณา ไม่ต้องกล่าวในฟ้อง ฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
โจทก์ฟ้องเรียกโฉนดที่ดินพิพาทคืน โดยอ้างสิทธิในฐานะเป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมายซึ่งเป็นทายาทของผู้ตาย จำเลยยึดถือโฉนดที่ดินพิพาทไว้โดยไม่มีสิทธิ เมื่อโจทก์ทวงถามให้จำเลยคืนโฉนดดังกล่าวแก่โจทก์แล้ว จำเลยเพิกเฉย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ในฐานะเป็นทายาทผู้สืบสิทธิในที่ดินพิพาท โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้
โจทก์ฟ้องเรียกโฉนดที่ดินพิพาทคืน โดยอ้างสิทธิในฐานะเป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมายซึ่งเป็นทายาทของผู้ตาย จำเลยยึดถือโฉนดที่ดินพิพาทไว้โดยไม่มีสิทธิ เมื่อโจทก์ทวงถามให้จำเลยคืนโฉนดดังกล่าวแก่โจทก์แล้ว จำเลยเพิกเฉย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ในฐานะเป็นทายาทผู้สืบสิทธิในที่ดินพิพาท โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยได้