พบผลลัพธ์ทั้งหมด 135 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1621/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการเรียกพยานหลักฐานเพิ่มเติมระหว่างไต่สวนมูลฟ้องคดีอาญา และคำสั่งรอคดีที่ไม่ทำให้ประเด็นคดีเสร็จ
ในการไต่สวนมูลฟ้องคดีอาญา แม้เมื่อโจทก์แถลงว่าหมดพยานแล้วศาลก็มีอำนาจสั่งเรียกพยานหลักฐานมาเองเพื่อประกอบการวินิจฉัยทำคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้องได้ และคำสั่งที่ให้รอคดีเพื่อฟังพยานหลักฐานเช่นนี้ เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196 และถึงแม้ว่าในคำสั่งนั้นศาลจะได้สั่งไว้ด้วยว่าให้จำหน่ายคดีเสียชั่วคราว ถ้าสำนวนคดีที่ศาลสั่งเรียกมาเพื่อประกอบการวินิจฉัยนั้นเสร็จเมื่อใดก็ให้โจทก์แถลงให้ศาลทราบ เพื่อจะได้ยกคดีที่มีการไต่สวนมูลฟ้องนี้ขึ้นพิจารณาสั่งต่อไป ดังนี้ ก็ต้องถือว่าเป็นการสั่งจำหน่ายคดีที่ไม่ทำให้ประเด็นแห่งคดีเสร็จไป โจทก์ก็ยังไม่มีสิทธิอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งนี้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18/2506)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 157/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลให้รอไต่สวนมูลฟ้องเพื่อรอผลคดีแพ่งที่เกี่ยวข้องกับการครอบครองทรัพย์สิน เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ขัดกฎหมาย
คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ไต่สวนมูลฟ้องแล้วต่อมาสั่งงดไต่สวนเพื่อรอฟังผลในอีกคดีหนึ่ง เพราะจะเป็นผลให้ร่นระยะการพิจารณาคดีให้สั้นและง่ายเข้า นั้น เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน อุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 157/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลให้รอไต่สวนมูลฟ้องเพื่อรอผลคดีแพ่งที่เกี่ยวข้องกับกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ชอบด้วยกฎหมาย
คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ไต่สวนมูลฟ้อง แล้วต่อมาสั่งงดไต่สวนเพื่อรอฟังผลในอีกคดีหนึ่ง เพราะจะเป็นผลให้ร่นระยะการพิจารณาคดีให้สั้นและง่ายเข้า นั้น เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาที่ไม่ทำให้คดีเสร็จสำนวน อุทธรณ์ฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 295/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหมิ่นประมาทโดยการกล่าวถึงกลุ่มบุคคล ศาลต้องไต่สวนมูลฟ้องเพื่อพิสูจน์เจตนาและผู้เสียหาย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328 โดยกล่าวในฟ้องว่า จำเลยได้โฆษณาด้วยเครื่องกระจายเสียงต่อชุมนุมชนซึ่งมาประชุมกันว่า'ทนายความเมืองร้อยเอ็ดคบไม่ได้ เป็นนกสองหัวเหยียบเรือสองแคม เป็นมวยล้ม ว่าความทีแรกดี ครั้นได้รับเงินแล้วก็ว่าเป็นอย่างอื่น' และได้กล่าวในฟ้องด้วยว่าทนายความจังหวัดร้อยเอ็ดมีอยู่ในวันที่จำเลยกล่าวข้อความนี้เพียง 10 คนและในขณะที่จำเลยกล่าว จำเลยได้เห็นโจทก์ซึ่งเป็นทนายความคนหนึ่งประกอบอาชีพว่าความอยู่ในจังหวัดร้อยเอ็ดเข้าประชุมอยู่ด้วยกับยืนยันมาในฟ้องว่าการที่จำเลยกล่าวเช่นนั้นก็โดยมีเจตนาหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์และบรรดาผู้ประกอบอาชีพทนายความในจังหวัดร้อยเอ็ดทุกคนให้ได้รับความเสียหายดังนี้ เป็นฟ้องที่ควรให้มีการไต่สวนมูลฟ้องฟังข้อเท็จจริงต่อไป (ประชุมใหญ่ ครั้งที่10/2505)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 280/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุพยานในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง และการอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์
ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นความผิดหลายกระทง ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ประทับฟ้องเฉพาะกระทงที่เห็นว่ามีมูลและไม่ประทับฟ้องกระทงที่เห็นว่าไม่มีมูลนั้น โจทก์อุทธรณ์ได้ในทันที ไม่ต้องรอจนกว่าศาลจะได้ตัดสินคดีแล้ว
การระบุพยานของโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง แม้บัญชีพยาน ของโจทก์จะมีคำว่า บัญชีระบุพยานชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ก็ดี จะถือว่าเป็นการระบุเฉพาะแต่ในตอนไต่สวนมูลฟ้องไม่ได้ ต้องถือว่าโจทก์มีความประสงค์ที่จะอ้างอิงพยานหลักฐานในคดีนั้นตามบัญชีพยานของตนตลอดทั้งเรื่อง (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 10/2505 วาระพิเศษ)
โจทก์ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่ประทับฟ้องความผิดบางกระทง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ และต่อมาได้พิพากษายกฟ้องความผิดกระทงที่ได้ประทับฟ้องไว้โดยถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ การที่โจทก์จะอุทธรณ์คำสั่งที่ศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์และอุทธรณ์ คำพิพากษาศาลชั้นต้นด้วยนั้น ควรยื่นอุทธรณ์แยกกันเป็นคนละฉบับ
การระบุพยานของโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง แม้บัญชีพยาน ของโจทก์จะมีคำว่า บัญชีระบุพยานชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ก็ดี จะถือว่าเป็นการระบุเฉพาะแต่ในตอนไต่สวนมูลฟ้องไม่ได้ ต้องถือว่าโจทก์มีความประสงค์ที่จะอ้างอิงพยานหลักฐานในคดีนั้นตามบัญชีพยานของตนตลอดทั้งเรื่อง (ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 10/2505 วาระพิเศษ)
โจทก์ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่ประทับฟ้องความผิดบางกระทง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ และต่อมาได้พิพากษายกฟ้องความผิดกระทงที่ได้ประทับฟ้องไว้โดยถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ การที่โจทก์จะอุทธรณ์คำสั่งที่ศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์และอุทธรณ์ คำพิพากษาศาลชั้นต้นด้วยนั้น ควรยื่นอุทธรณ์แยกกันเป็นคนละฉบับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 280/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุพยานในคดีอาญา: ขอบเขตการอ้างพยานหลักฐานตามบัญชีพยาน
คดีอาญาที่ราษฎรเป็นโจทก์นั้น ศาลจะต้องไต่สวนมูลฟ้องก่อนฉะนั้น แม้บัญชีระบุพยานของโจทก์จะมี คำว่า'บัญชีพยานชั้นไต่สวนมูลฟ้อง' ก็ดี ก็จะถือว่าเป็นการระบุพยานเฉพาะแต่ในตอนไต่สวนมูลฟ้องไม่ได้ ต้องถือว่าโจทก์มีความประสงค์ที่จะอ้างอิงพยานหลักฐานในคดีนั้นตามบัญชีระบุพยานของตนตลอดทั้งเรื่อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกฟ้องคดีอาญาในชั้นไต่สวนมูลฟ้องและการวินิจฉัยข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข้อกฎหมาย
มาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงฯ หมายถึงการที่ศาลพิพากษายกฟ้องเพราะคดีไม่มีมูลด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 792/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องอาญา: การฟ้องจำเลยในฐานะตัวแทนบริษัท และการไต่สวนมูลฟ้องที่ไม่ชอบ
จำเลยถูกฟ้องที่ศาลแขวงในมูลคดีเดียวกันกับที่ถูกฟ้องในศาลอาญา ในชั้นศาลอาญา จำเลยถูกฟ้องว่าร่วมกระทำผิดด้วยกันกับบริษัทเคี่ยนหงวน (ไทย) จำกัด เป็นที่ชัดเจนอยู่แล้ว ว่าโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นผู้กระทำผิดเป็นการเฉพาะตัว ส่วนในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ในหน้าฟ้องมีว่า นายจิ้น แซ่เล้าหรือยินจุน แทนบริษัทเคี่ยนหงวน (ไทย) จำกัด จำเลย ใจความฟ้องมีว่า จำเลยได้กระทำผิดพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งสินค้าบางอย่าง โดยจำเลยในนามของบริษัทเคี่ยนหงวน (ไทย) จำกัด ได้นำกระสอบป่านสองแสนใบจากประเทศอินเดีย เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยมิได้รับอนุญาต และในรายงานกระบวนพิจารณา ผู้ว่าคดีแถลงต่อศาลว่าฟ้องจำเลยในฐานะเป็นตัวแทนของบริษัทเคี่ยนหงวน (ไทย) จำกัด หาใช่ฟ้องจำเลยเป็นการเฉพาะตัวไม่ ดังนี้ถือว่าจำเลยมิได้ถูกฟ้องหาว่าได้กระทำผิดโดยเฉพาะตัวและยังมิได้ถูกไต่สวนมูลฟ้อง อัยการจึงยังไม่มีอำนาจที่จะฟ้องจำเลยต่อศาลอาญาได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 792/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องอัยการ: จำเลยถูกฟ้องในฐานะตัวแทนบริษัทฯ ต้องมีการไต่สวนมูลฟ้องเฉพาะตัวก่อน จึงจะฟ้องจำเลยต่อศาลอาญาได้
จำเลยถูกฟ้องที่ศาลแขวงในมูลคดีเดียวกันกับที่ถูกฟ้องในศาลอาญา ในชั้นศาลอาญาจำเลยถูกฟ้องว่าร่วมกระทำผิดด้วยกันกับบริษัทเคี่ยนหงวน(ไทย) จำกัด เป็นที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นผู้กระทำผิดเป็นการเฉพาะตัวส่วนในชั้นไต่สวนมูลฟ้องในหน้าฟ้องมีว่า นายจิ้นแซ่เล้าหรือยินจุนแทนบริษัทเคี่ยนหงวน(ไทย) จำกัด จำเลยใจความฟ้องมีว่า จำเลยได้กระทำผิดพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่างโดยจำเลยในนามของบริษัทเคี่ยนหงวน(ไทย) จำกัด ได้นำกระสอบป่านสองแสนใบจากประเทศอินเดีย เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยมิได้รับอนุญาตและในรายงานกระบวนพิจารณาผู้ว่าคดีแถลงต่อศาลว่าฟ้องจำเลยในฐานะเป็นตัวแทนของบริษัทเคี่ยนหงวน(ไทย) จำกัด หาใช่ฟ้องจำเลยเป็นการเฉพาะตัวไม่ดังนี้ถือว่าจำเลยมิได้ถูกฟ้องหาว่าได้กระทำผิดโดยเฉพาะตัวและยังมิได้ถูกไต่สวนมูลฟ้องอัยการจึงยังไม่มีอำนาจที่จะฟ้องจำเลยต่อศาลอาญาได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 549/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลแขวงให้คดีมีมูลเด็ดขาด ไม่อุทธรณ์ฎีกาได้ แม้มีข้อโต้แย้งเรื่องอำนาจฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
ศาลแขวงไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า คดีมีมูลและประทับฟ้องส่งสำนวนให้อัยการดำเนินการ คำสั่งของศาลแขวงที่ให้คดีมีมูลย่อมเด็ดขาด จำเลยจะอุทธรณ์ฎีกาว่า ผู้ว่าคดีโจทก์ฟ้องคดีพ้นระยะเวลาตามที่ กำหนดไว้ใน มาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวงฯ พ.ศ. 2499 โดยไม่มีการขอและรับอนุญาตจากอธิบดีกรมอัยการตาม มาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ. นั้น โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ดังนี้ หาได้ไม่
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2503)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2503)