พบผลลัพธ์ทั้งหมด 133 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1427/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าช่วงโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ให้เช่ามีสิทธิเลิกสัญญา
การที่ผู้ให้เช่าต่อสู้ว่าผู้เช่าทำผิดสัญญาโดยให้ผู้อื่นเช่าช่วงแต่ผู้เช่าปฏิเสธความข้อนี้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังสมข้างผู้ให้เช่า ผู้ให้เช่าก็ย่อมมีสิทธิเลิกสัญญากับผู้เช่าได้
ข้อความในสัญญาระบุว่า "ผู้เช่าจะไม่เอาตึกรายนี้ส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดโอนไปให้ผู้อื่นเช่าเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษร" เมื่อปรากฏว่าผู้เช่ามิได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า ดังนี้จะถือว่าผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าเช่าช่วงหาได้ไม่
ข้อความในสัญญาระบุว่า "ผู้เช่าจะไม่เอาตึกรายนี้ส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดโอนไปให้ผู้อื่นเช่าเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษร" เมื่อปรากฏว่าผู้เช่ามิได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า ดังนี้จะถือว่าผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าเช่าช่วงหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 123/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การก่อสร้างรุกล้ำคลองชลประทานโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตาม พ.ร.บ.ชลประทานหลวง
ปลูกห้องแถวรุกล้ำเข้าไปบนชานคลองภาษีเจริญ และปักเสาทำเขื่อนรุกล้ำลงไปในทางน้ำคลองภาษีเจริญ โดยมิได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากนายช่างชลประทาน ย่อมมีความผิดตาม พ.ร.บ.ชลประทานหลวง พ.ศ.2485
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ในเคหะสถาน แม้ผู้เฝ้าบ้านชวนลักทรัพย์ แต่หากมิได้รับอนุญาตเข้าห้องเก็บทรัพย์ ถือเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหะสถาน
เจ้าทรัพย์ให้จำเลยเฝ้าบ้านแต่ห้องเก็บทรัพย์เจ้าทรัพย์ใส่กุญแจไว้ จำเลยชวนผู้อื่นมาทำการลักทรัพย์โดยใช้เชือกคล้องถอดหน้าต่างให้เปิดออก แล้วปีนป่ายเขาทางช่องหน้าต่าง ซึ่งมิใช่ช่องทางสำหรับให้คนไปมา และลักทรัพย์ในห้องเก็บทรัพย์ ดังนี้ ถือได้ว่ เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้จำเลยเข้าไปในห้องเก็บทรัพย์ ซึ่งจำเลยสมคบกันเข้าไปทำการลักจำเลยจึงย่อมมีความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานตามมาตรา 255(1) ด้วย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 294 (1) แม้จะมิได้บรรยายคำว่า "เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้เข้าไป" ไว้ด้วยก็ดี แต่เมื่ออ่านข้อความตามฟ้องประกอบกันทั้งหมดแล้ว ก็พอเข้าใจได้ว่าห้องเรือนอันเป็นทีอยู่อาศัย (เคหะสถาน)ของเจ้าทรัพย์ ซึ่งจำเลยสมคบกันเข้าไปทำการลักทรัพย์ เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้จำเลยเข้าไปได้ ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 แล้ว
ฟ้องของโจทก์กล่าวในครั้งแรกว่า จำเลยบังอาจเข้าไปโดยใช้เชือก คล้อง(ถอด) กลอนหน้าต่างให้เปิดออก แล้วปีนป่ายเข้าไปในทางช่องหน้าต่างอันมิใช่ช่องทางสำหรับคนไปมา และในครั้งหลังต่อต่อมาก็ว่า บังอาจเข้าไปในห้องเก็บทรัพย์นี้ โดยปีนป่ายเข้าไปทางช่องหน้าต่าง อันมิใช่างสำหรับให้คนไปมาเช่นกัน ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่า ถ้าเป็นการเข้าไปโดยได้รับอนุญาต ก็คงไม่ต้องบังอาจปีนป่ายเข้าทางช่องทางหน้าต่างเช่นนั้น จึงพอเข้าใจได้ว่าเป็นการเข้าไปในโดยมิได้รับอนุญาต ฟ้องจึงสมบูรณ์พอเพียงตามความประสงค์ของป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 แล้วว่า ฟ้องโจทก์หาว่า จำเลยสมคบกันลักทรัพย์ในเคหะสถานตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 294(1)
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2495
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 294 (1) แม้จะมิได้บรรยายคำว่า "เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้เข้าไป" ไว้ด้วยก็ดี แต่เมื่ออ่านข้อความตามฟ้องประกอบกันทั้งหมดแล้ว ก็พอเข้าใจได้ว่าห้องเรือนอันเป็นทีอยู่อาศัย (เคหะสถาน)ของเจ้าทรัพย์ ซึ่งจำเลยสมคบกันเข้าไปทำการลักทรัพย์ เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้จำเลยเข้าไปได้ ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 แล้ว
ฟ้องของโจทก์กล่าวในครั้งแรกว่า จำเลยบังอาจเข้าไปโดยใช้เชือก คล้อง(ถอด) กลอนหน้าต่างให้เปิดออก แล้วปีนป่ายเข้าไปในทางช่องหน้าต่างอันมิใช่ช่องทางสำหรับคนไปมา และในครั้งหลังต่อต่อมาก็ว่า บังอาจเข้าไปในห้องเก็บทรัพย์นี้ โดยปีนป่ายเข้าไปทางช่องหน้าต่าง อันมิใช่างสำหรับให้คนไปมาเช่นกัน ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่า ถ้าเป็นการเข้าไปโดยได้รับอนุญาต ก็คงไม่ต้องบังอาจปีนป่ายเข้าทางช่องทางหน้าต่างเช่นนั้น จึงพอเข้าใจได้ว่าเป็นการเข้าไปในโดยมิได้รับอนุญาต ฟ้องจึงสมบูรณ์พอเพียงตามความประสงค์ของป.ม.วิ.อาญามาตรา 158 แล้วว่า ฟ้องโจทก์หาว่า จำเลยสมคบกันลักทรัพย์ในเคหะสถานตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 294(1)
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2495
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 350/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ในเคหะสถานโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ไม่ได้ระบุในฟ้อง ก็ถือเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ได้
เจ้าทรัพย์ให้จำเลยเฝ้าบ้านแต่ห้องเก็บทรัพย์เจ้าทรัพย์ใส่กุญแจไว้จำเลยชวนผู้อื่นมาทำการลักทรัพย์โดยใช้เชือกคล้องถอดกลอนหน้าต่างให้เปิดออกแล้วปีนป่ายเข้าทางช่องหน้าต่าง ซึ่งมิใช่ช่องทางสำหรับให้คนไปมา และลักทรัพย์ในห้องเก็บทรัพย์ไป ดังนี้ถือได้ว่า เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้จำเลยเข้าไปในห้องเก็บทรัพย์ ซึ่งจำเลยสมคบกันเข้าไปทำการลัก จำเลยจึงย่อมมีความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานตามมาตรา 295(1) ด้วย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 294(1) แม้จะมิได้บรรยายคำว่า'เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้เข้าไป' ไว้ด้วยก็ดี แต่เมื่ออ่านข้อความตามฟ้องประกอบกันทั้งหมดแล้ว ก็พอจะเข้าใจได้ว่าห้องเรือนอันเป็นที่อยู่อาศัย (เคหสถาน) ของเจ้าทรัพย์ ซึ่งจำเลยสมคบกันเข้าไปทำการลักทรัพย์เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้จำเลยเข้าไปได้ ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้ว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 294(1) แม้จะมิได้บรรยายคำว่า'เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้เข้าไป' ไว้ด้วยก็ดี แต่เมื่ออ่านข้อความตามฟ้องประกอบกันทั้งหมดแล้ว ก็พอจะเข้าใจได้ว่าห้องเรือนอันเป็นที่อยู่อาศัย (เคหสถาน) ของเจ้าทรัพย์ ซึ่งจำเลยสมคบกันเข้าไปทำการลักทรัพย์เจ้าทรัพย์มิได้อนุญาตให้จำเลยเข้าไปได้ ก็ย่อมเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1578/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต: การส่งมอบคืนไม่ใช่การครอบครอง
ใช้ให้คนไปหยิบอาวุธปืนและกระสุนปืนมาจากบ้านให้นำมาส่งให้แก่ตน ณ ที่แห่งหนึ่งอันอยู่ห่างกันประมาณ 10 เส้น เพื่อมอบคืนให้แก่เจ้าของผู้มีไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย เช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าคนที่ไปหยิบอาวุธปืนและกระสุนได้มีอาวุธปืนและกระสุนปืนนั้นไว้ในความครอบครอง จึงยังไม่เป็นผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯลฯ และผู้ใช้ให้ไปหยิบก็ไม่มีความผิดด้วย
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ 2 แต่ผู้เดียว ส่วนจำเลยที่1 พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ด้วยแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์จึงฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 อีก แม้จำเลยที่ 2 จะมิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาด้วยเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าตามรูปคดี จำเลยที่ 2ยังไม่มีความผิด ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยที่ 2 ได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยที่ 2 แต่ผู้เดียว ส่วนจำเลยที่1 พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ด้วยแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์จึงฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 อีก แม้จำเลยที่ 2 จะมิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาด้วยเมื่อศาลฎีกาเห็นว่าตามรูปคดี จำเลยที่ 2ยังไม่มีความผิด ศาลฎีกาก็มีอำนาจพิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยที่ 2 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบสุราของกลาง กรณีเกิน 1 ลิตร โดยไม่ได้รับอนุญาต
ขนสุราของรัฐบาลเกินกว่า 1 ลิตร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานสรรพสามิต อันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติสุรา2493 มาตรา 15,38 นั้นจะริบสุราของกลางไม่ได้เพราะมาตรา 45 มิได้มีบัญญัติให้ริบในกรณีเช่นนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1989/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเล่นพนันสลากกินรวบโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดทางอาญา การฟ้องต้องระบุชัดเจนว่าเล่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยบังอาจจัดให้มีการเล่นการพะนันสลากกินรวบ ขอให้ลงโทษ แต่ในฟ้องมิได้บรรยายว่า เล่นโดยไม่ได้รับอนุญาตดังนี้ ศาลต้องยกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1624/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังนายทะเบียนไม่อนุญาตและไม่ดำเนินการเรียกคืน
บิดาได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืน 1 กระบอก เมื่อบิดาตายบุตรจึงไปแจ้งต่อนายทะเบียน และขออนุญาตมีอาวุธปืนกระบอกนั้น แต่นายทะเบียนไม่อนุญาตกลับสั่งให้ขายปืนนั้นเสียภายใน 6 เดือนแต่บุตรขายปืนนั้นไม่ได้ นายทะเบียนก็มิได้เรียกเอาปืนนั้นไปขายทอดตลาดเสียเองและมิใช่สั่งอย่างไรอีก ปืนนั้นจึงคงอยู่กับบุตรอย่างเดิม ดังนี้ จะว่าบุตรมีอาวุธปืนโดยไม่รับอนุญาตเป็นการผิดกฎหมายไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1376/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตของผู้ได้รับอนุญาตค้าอาวุธปืน และการไม่แจ้งบัญชีอาวุธปืน
ผู้ได้รับอนุญาตให้ค้าอาวุธปืน รับซื้อปืนจากเจ้าของผู้ได้รับอนุญาตให้มีไว้โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว เมื่อชำระเงินกันเสร็จแล้วก็รับปืนที่ซื้อนั้นไว้ในร้านแล้วดำเนินการทำคำร้องขออนุญาตโอนต่อนายทะเบียนแต่ถูกเจ้าพนักงานจับปืนรายนี้เสียก่อน ต่อมาจึงได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมตำรวจให้โอนได้ ดังนี้ ย่อมถือว่า ผู้รับซื้อ "มี" ปืนไว้ในความครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ก่อน มีความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ 2490 มาตรา 7,72 และมีผิดฐานมีปืนไว้นอกบัญชีตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงตามมาตรา 28,81 ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 109/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้จะมีการทำหนังสือแจ้งผลการพิจารณาจากคณะกรรมการฯ ก็ไม่ถือเป็นคำสั่งอนุญาต
จำเลยทำการเรี่ยไรด้วยการจำหน่ายรูปปั้นอ้างว่าเพื่อสร้างอนุสาวรีย์โดยไม่ได้รับอนุญาต แม้จำเลยจะได้เคยยื่นคำร้องขออนุญาตต่อคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไร และคณะกรรมการฯมีหนังสือแจ้งมาว่า การกระทำของจำเลยเป็นการขายสิ่งของมีสิทธิทำได้เอง ดังนี้จำเลยย่อมมีความผิด และไม่ถือว่าหนังสือคณะกรรมการฯนั้นเป็นคำสั่งอนุญาต