คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ไม้หวงห้าม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 180 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้ดุมเกวียน-กำเกวียน-กีบเกวียน ไม่ถือเป็นไม้แปรรูป หากมีไว้เพื่อใช้ประกอบล้อเกวียน
ไม้หวงห้ามที่เป็นดุมเกวียน กำเกวียน และกีบเกวียน ซึ่งมีสภาพเป็นเครื่องใช้และจำเลยมีไว้เพื่อจำหน่ายแก่ผู้ใช้เกวียน เอาไปใช้แทนส่วนที่หักและพร้อมที่จะนำเอาไปใช้ได้ทันทีนั้น นับได้ว่าเป็นเครื่องใช้ประกอบเป็นล้อเกวียนมิใช่เป็นวัตถุที่จะเอาไปเปลี่ยนแปลงทำเป็นสิ่งอื่นต่อไปจึงมิใช่ไม้ แปรรูปตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 มาตรา 4 (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 3054/2516)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 409/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้ดุมเกวียน-กำเกวียน-กีบเกวียน ไม่ถือเป็นไม้แปรรูป หากมีสภาพเป็นเครื่องใช้พร้อมใช้งาน
ไม้หวงห้ามที่เป็นดุมเกวียนกำเกวียนและกีบเกวียน ซึ่งมีสภาพเป็นเครื่องใช้ และจำเลยมีไว้เพื่อจำหน่ายแก่ผู้ใช้เกวียน เอาไปใช้แทนส่วนที่หักและพร้อมที่จะนำเอาไปใช้ได้ทันทีนั้น นับได้ว่าเป็นเครื่องใช้ประกอบเป็นล้อเกวียนมิใช่เป็นวัตถุที่จะเอาไปเปลี่ยนแปลงทำเป็นสิ่งอื่นต่อไป จึงมิใช่ไม้แปรรูปตามพระราชบัญญัติป่าไม้(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 มาตรา 4 (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่3054/2516)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 399/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตัดไม้หวงห้ามและครอบครองโดยไม่ติดตราค่าภาคหลวง ถือเป็นความผิดสองกระทง ต้องเรียงกระทงลงโทษ
ไม้ยางเป็นไม้หวงห้ามไม่ว่าจะขึ้นอยู่ในที่ใดในราชอาณาจักรการตัดฟันลงจะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่หรือได้รับสัมปทาน จำเลยตัดฟันไม้ยางซึ่งแม้จะขึ้นอยู่ในที่ดินของจำเลยเองก็มีความผิด การครอบครองไม้ที่ตัดฟันลงดังกล่าวโดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขายย่อมเป็นความผิดด้วย ไม้ดังกล่าวจึงเป็นไม้ที่ต้องริบ
ความผิดฐานตัดฟันลงซึ่งไม้ยางอันเป็นไม้หวงห้ามแล้วครอบครองไม้นั้น เป็นการกระทำสองกรรมต่างกันเป็นความผิดสองกระทงซึ่งมีกำหนดโทษเท่ากัน คือ จำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 20,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นซึ่งพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามบทมาตราต่าง ๆ ทั้งสองกระทง แล้วพิพากษาจำคุก 6 เดือนและปรับ 2,000 บาท โดยมิได้กล่าวว่าลงโทษตามมาตราใด นั้น เป็นการลงโทษในอัตราโทษขั้นต่ำของความผิดกระทงเดียวโดยมิได้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ซึ่งแก้ไขโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ข้อ 2ศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นให้ลงโทษเรียงกระทงความผิดให้ถูกต้องได้แต่จะแก้โทษให้หนักขึ้นไม่ได้ เพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 399/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตัดไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตและการครอบครองไม้เถื่อน ถือเป็นสองกระทงความผิด ต้องเรียงกระทงลงโทษ
ไม้ยางเป็นไม้หวงห้ามไม่ว่าจะขึ้นอยู่ในที่ใดในราชอาณาจักรการตัดฟันลงจะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่หรือได้รับสัมปทาน จำเลยตัดฟันไม้ยางซึ่งแม้จะขึ้นอยู่ในที่ดินของจำเลยเองก็มีความผิด การครอบครองไม้ที่ตัดฟันลงดังกล่าวโดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงหรือรอยตรารัฐบาลขายย่อมเป็นความผิดด้วย ไม้ดังกล่าวจึงเป็นไม้ที่ต้องริบ
ความผิดฐานตัดฟันลงซึ่งไม้ยางอันเป็นไม้หวงห้ามแล้วครอบครองไม้นั้น เป็นการกระทำสองกรรมต่างกันเป็นความผิดสองกระทงซึ่งมีกำหนดโทษเท่ากัน คือ จำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 20,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นซึ่งพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามบทมาตราต่าง ๆ ทั้งสองกระทง แล้วพิพากษาจำคุก 6 เดือนและปรับ 2,000 บาท โดยมิได้กล่าวว่าลงโทษตามมาตราใด นั้น เป็นการลงโทษในอัตราโทษขั้นต่ำของความผิดกระทงเดียวโดยมิได้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ซึ่งแก้ไขโดยประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ข้อ 2 ศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นให้ลงโทษเรียงกระทงความผิดให้ถูกต้องได้แต่จะแก้โทษให้หนักขึ้นไม่ได้เพราะโจทก์มิได้อุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1904/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ให้ผู้อื่นทำไม้หวงห้าม ผู้ใช้ไม่ต้องรับผิดฐานมีไม้หวงห้าม แต่ผิดฐานสนับสนุนการกระทำผิด
จำเลยใช้ให้บุตรนำช้างไปชักลากไม้ท่อนของ ข. ซึ่งเป็นไม้หวงห้าม โดยจำเลยไม่ได้ไปร่วมทำการชักลากไม้ด้วยถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้มีไม้ดังกล่าวไว้ในความครอบครองอันจะต้องได้รับอนุญาต จำเลยไม่มีความผิดฐานมีไม้หวงห้ามไว้ในความครอบครองตามพระราชบัญญัติป่าไม้ฯแต่ จำเลยรู้ว่าไม้ดังกล่าวเป็นไม้หวงห้าม จำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้ใช้ให้ชักลากไม้(ทำไม้)หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยร่วมทำการชักลากไม้ (ทำไม้) จึงลงโทษจำเลยฐานเป็นผู้ใช้ให้กระทำผิดไม่ได้คงลงโทษได้เพียงฐานเป็นผู้สนับสนุนกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1281/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างบทกฎหมายผิดพลาดในความผิดฐานมีไม้หวงห้าม ศาลไม่สามารถลงโทษตามบทมาตราที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีไม้แดง 2 ท่อน ไม้เต็ง 1450 ท่อนและไม้สมอ 3 ท่อน รวม 1455 ท่อน ปริมาตร 58.20 ลูกบาศก์เมตร อันเป็นไม้หวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2505 ไว้ในความครอบครอง ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตามประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายและโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484มาตรา 48, 73, 74 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503มาตรา 17 ประกาศกระทรวงเกษตร เรื่อง กำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตาม พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2499 ข้อ 1 พระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2504 มาตรา 4 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 116 ลงวันที่ 10 เมษายน 2515 ข้อ 4 ซึ่งเป็นบทมาตราขอให้ลงโทษเฉพาะเรื่องมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครอง ดังนี้ ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ประกอบกับบทมาตราที่ขอให้ลงโทษจำเลยเห็นได้ว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้างมาท้ายฟ้อง คือ ฐานมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองหากแต่ข้อเท็จจริงตามที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดดังที่โจทก์กล่าวในฟ้อง เป็นฐานมีไม้ท่อนหวงห้ามไว้ในครอบครองไม่เป็นความผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้าง หาใช่อ้างบทกฎหมายผิดไม่ จึงลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1281/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอ้างบทกฎหมายผิดพลาดในความผิดฐานมีไม้หวงห้าม ศาลต้องลงโทษตามบทที่ถูกต้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยมีไม้แดง 2 ท่อน ไม้เต็ง 1450 ท่อน และไม้สมอ 3 ท่อน รวม 1455 ท่อน ปริมาตร 58.20 ลูกบาศก์เมตรอันเป็นไม้หวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2505 ไว้ในความครอบครอง ภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ตามประกาศของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายและโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48, 73, 74 พระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2503 มาตรา 17 ประกาศกระทรวงเกษตร เรื่อง กำหนดเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2499 ข้อ 1พระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ. 2504 มาตรา 4 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 116 ลงวันที่ 10 เมษายน 2515 ข้อ 4 ซึ่งเป็นบทมาตราขอให้ลงโทษเฉพาะเรื่องมีไม้แปรรูปไว้ในความครอบครอง ดังนี้ ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์ประกอบกับบทมาตราที่ขอให้ลงโทษจำเลย เห็นได้ว่า โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้างมาท้ายฟ้อง คือ ฐานมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครอง หากแต่ข้อเท็จจริงตามที่โจทก์กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดดังที่โจทก์กล่าวในฟ้อง เป็นฐานมีไม้ท่อนหวงห้ามไว้ในครอบครอง ไม่เป็นความผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้าง หาใช่อ้างบทกฎหมายผิดไม่ จึงลงโทษจำเลยไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต และการใช้ยานพาหนะเป็นอุปกรณ์ในการกระทำผิด ทำให้ต้องริบรถยนต์
ไม้ของกลางเป็นไม้หวงห้ามที่ยังไม่ได้แปรรูปและไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงประทับไว้ จำเลยรู้อยู่แล้วว่ามีผู้ตัดฟันโดยไม่ชอบ ยังนำมาไว้ในความครอบครองของจำเลย อันเป็นความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำความผิดตามมาตรา11, 69, 70, 73แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 เมื่อจำเลยมีไม้หวงห้ามดังกล่าวไว้โดยมิได้รับอนุญาต ด้วยการใช้รถยนต์ของกลางบรรทุกไม้ดังกล่าวมา อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 69ย่อมเป็นการใช้รถยนต์ของกลางเป็นอุปกรณ์เพื่อให้ได้รับผลในการกระทำความผิดตามมาตรา 69 และมาตรา 74 ทวิ โดยตรงอยู่แล้ว จึงต้องริบรถยนต์ของกลาง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต และการใช้ยานพาหนะในการกระทำความผิด ทำให้ต้องริบยานพาหนะ
ไม้ของกลางเป็นไม้หวงห้ามที่ยังไม่ได้แปรรูปและไม่มีรอยตราค่าภาคหลวงประทับไว้ จำเลยรู้อยู่แล้วว่ามีผู้ตัดฟันโดยไม่ชอบ ยังนำมาไว้ในความครอบครองของจำเลยอันเป็นความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำความผิดตามมาตรา11,69,70,73 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 เมื่อจำเลยมีไม้หวงห้ามดังกล่าวไว้โดยมิได้รับอนุญาต ด้วยการใช้รถยนต์ของกลางบรรทุกไม้ดังกล่าวมา อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 69 ย่อมเป็นการใช้รถยนต์ของกลางเป็นอุปกรณ์เพื่อให้ได้รับผลในการกระทำความผิดตามมาตรา 69 และมาตรา 74 ทวิ โดยตรงอยู่แล้ว จึงต้องริบรถยนต์ของกลาง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ไม้แปรรูปประกอบล้อเกวียนยังไม่เป็นเครื่องใช้ ไม่อยู่ในข้อยกเว้นตามกฎหมายป่าไม้
จำเลยมีไม้หวงห้ามทำเป็นซี่ล้อ ดุมล้อ คันชัก และฝักขามสำหรับประกอบเป็นล้อเกวียนและเกวียนเพื่อจำหน่าย เมื่อยังมิได้ประกอบเป็นล้อเกวียนหรือเกวียน จึงไม่อยู่ในสภาพเป็นเครื่องใช้คงถือว่าเป็นไม้แปรรูปตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503มาตรา 4
of 18