คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องซ้ำ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,459 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2006/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รับของโจรกรรมเดียว: การฟ้องซ้ำเป็นเหตุให้สิทธิระงับตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
คนร้ายลักทรัพย์สองเจ้าของ และจำเลยได้รับทรัพย์ที่ถูกลักทั้งสองเจ้าของนั้นไว้. โดยโจทก์สืบไม่ได้ว่าจำเลยได้รับทรัพย์ของกลางนั้นไว้ต่างคราวต่างวาระกันได้. จึงต้องฟังว่าจำเลยได้รับทรัพย์ของกลางทั้งสองรายนั้นไว้ในคราวเดียวกัน. ซึ่งเป็นการกระทำผิดฐานรับของโจรกรรมเดียว. แต่โจทก์ได้แยกฟ้องจำเลยเป็นสองคดี. คดีแรกจำเลยได้ถูกศาลพิพากษาลงโทษในความผิดฐานรับของโจรเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว. โจทก์จึงไม่มีสิทธิจะนำคดีมาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานรับของโจรในคดีหลังอีก. เพราะความผิดของจำเลยเป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)แล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1855/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอนสิทธิเพื่อนบ้านจากสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำพื้นที่สาธารณะและการฟ้องละเมิดที่ไม่เป็นการฟ้องซ้ำ
โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดที่ 3308 อยู่ริมแม่น้ำ โดยซื้อจาก บ. ซึ่ง บ. รับซื้อจาก อ. อีกต่อหนึ่ง ที่ดินแปลงนี้อยู่ติดกับบ้านของจำเลยซึ่งปลูกอยู่ชายตลิ่งแม่น้ำในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตัวเรือนของจำเลยบังหน้าที่ดินของโจทก์ ขัดต่อความสะดวกในการที่โจทก์จะใช้สอยหรือรับประโยชน์จากแม่น้ำลำคลองอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ดังนี้ถือว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายพิเศษ จำเลยจะอ้างว่าโจทก์ไม่เสียหาย เพราะที่ดินโจทก์ใช้เป็นทางเดินจำเป็นแล้ว ย่อมไม่ได้ (อ้างฎีกาที่1095/2500)
พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 มาตรา 89หาได้ตัดอำนาจโจทก์ที่จะฟ้องร้องจำเลยทางแพ่งเพื่อบังคับตามสิทธิของโจทก์อันมีอยู่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่
คดีแดงที่ 3425/2504 นั้น ศาลวินิจฉัยในประเด็นที่ว่าจำเลยปลูกเรือนอยู่ได้เพราะบิดาของ อ. โจทก์ในคดีนั้นให้จำเลยเช่า และโจทก์ได้รับรองการเช่าแล้ว โจทก์ในคดีนั้นจึงไม่มีอำนาจที่จะฟ้องขับไล่จำเลย เพราะจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าฯ อันเป็นประเด็นโต้เถียงเกี่ยวกับเรื่องเช่าทรัพย์ ไม่ใช่เรื่องละเมิด ส่วนคดีนี้โจทก์อ้างว่าได้รับซื้อที่ดินโฉนดที่ 3308 จาก บ. โดย บ. ซื้อจาก อ. เป็นโฉนดแบ่งแยกจากโฉนดเลขที่ 2389 คือ ที่ดินที่พิพาทในคดีแดงที่3425/2504. แต่โจทก์คดีนี้มิได้เป็นคู่ความกับจำเลยในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 3425/2504 จะถือว่าโจทก์เป็นผู้สืบสิทธิมาจากโจทก์ในคดีก่อนก็ไม่ได้ เพราะสัญญาเช่าระหว่างจำเลยกับโจทก์ในคดีก่อนเป็นสัญญาเช่าที่ในแม่น้ำนอกที่ดินที่โจทก์ในคดีนี้ซื้อมา จึงไม่ได้โอนมายังโจทก์พร้อมกับที่ดินที่โจทก์ซื้อ คดีจึงไม่มีประเด็นในเรื่องเช่าทรัพย์ดังในคดีก่อน ประเด็นในคดีนี้คือ โจทก์ให้จำเลยออกไปจากหน้าที่ดิน จำเลยไม่ยอมออก อันเป็นเรื่องละเมิด ฟ้องของโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีแดงที่ 3425/2504

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1855/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรอนสิทธิใช้ประโยชน์ที่ดินริมน้ำของเจ้าของที่ดินจากสิ่งปลูกสร้างบนที่สาธารณสมบัติ การฟ้องไม่เป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดที่ 3308 อยู่ริมแม่น้ำ โดยซื้อจาก บ. ซึ่ง บ. รับซื้อจาก อ. อีกต่อหนึ่ง.ที่ดินแปลงนี้อยู่ติดกับบ้านของจำเลยซึ่งปลูกอยู่ชายตลิ่งแม่น้ำในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ตัวเรือนของจำเลยบังหน้าที่ดินของโจทก์. ขัดต่อความสะดวกในการที่โจทก์จะใช้สอยหรือรับประโยชน์จากแม่น้ำลำคลองอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน. ดังนี้ถือว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายพิเศษ. จำเลยจะอ้างว่าโจทก์ไม่เสียหาย. เพราะที่ดินโจทก์ใช้เป็นทางเดินจำเป็นแล้ว. ย่อมไม่ได้ (อ้างฎีกาที่1095/2500).
พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 มาตรา 89.หาได้ตัดอำนาจโจทก์ที่จะฟ้องร้องจำเลยทางแพ่งเพื่อบังคับตามสิทธิของโจทก์อันมีอยู่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไม่.
คดีแดงที่ 3425/2504 นั้น ศาลวินิจฉัยในประเด็นที่ว่าจำเลยปลูกเรือนอยู่ได้เพราะบิดาของ อ. โจทก์ในคดีนั้นให้จำเลยเช่า และโจทก์ได้รับรองการเช่าแล้ว. โจทก์ในคดีนั้นจึงไม่มีอำนาจที่จะฟ้องขับไล่จำเลย. เพราะจำเลยได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าฯ อันเป็นประเด็นโต้เถียงเกี่ยวกับเรื่องเช่าทรัพย์. ไม่ใช่เรื่องละเมิด. ส่วนคดีนี้โจทก์อ้างว่าได้รับซื้อที่ดินโฉนดที่ 3308 จาก บ. โดย บ. ซื้อจาก อ. เป็นโฉนดแบ่งแยกจากโฉนดเลขที่ 2389 คือ ที่ดินที่พิพาทในคดีแดงที่3425/2504. แต่โจทก์คดีนี้มิได้เป็นคู่ความกับจำเลยในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 3425/2504. จะถือว่าโจทก์เป็นผู้สืบสิทธิมาจากโจทก์ในคดีก่อนก็ไม่ได้. เพราะสัญญาเช่าระหว่างจำเลยกับโจทก์ในคดีก่อนเป็นสัญญาเช่าที่ในแม่น้ำนอกที่ดินที่โจทก์ในคดีนี้ซื้อมา. จึงไม่ได้โอนมายังโจทก์พร้อมกับที่ดินที่โจทก์ซื้อ. คดีจึงไม่มีประเด็นในเรื่องเช่าทรัพย์ดังในคดีก่อน. ประเด็นในคดีนี้คือ โจทก์ให้จำเลยออกไปจากหน้าที่ดิน จำเลยไม่ยอมออก. อันเป็นเรื่องละเมิด. ฟ้องของโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีแดงที่ 3425/2504.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1628/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำหรือไม่เมื่ออ้างสิทธิตามพินัยกรรมต่างฉบับของเจ้ามรดกต่างคนกัน ศาลฎีกาเห็นว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินซึ่งโจทก์ได้มาตามพินัยกรรมของนางสาว ก. เป็นของโจทก์ทั้งหมด ศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดให้ยกฟ้องโจทก์ เพราะคดีโจทก์ขาดอายุความเรียกร้องมรดกตามพินัยกรรมของนางสาว ก. โจทก์จึงฟ้องจำเลยให้จัดการจำหน่ายที่ดินดังกล่าวแล้วนำเงินแบ่งให้โจทก์ครึ่งหนึ่งตามพินัยกรรมของนาง ร. การที่โจทก์กลับมาฟ้องจำเลยครั้งหลัง จึงเป็นการฟ้องเรียกที่ดินโดยอ้างสิทธิตามพินัยกรรมของนาง ร. ซึ่งเป็นพินัยกรรมอีกฉบับหนึ่ง มีข้อความแตกต่างกัน เป็นการเรียกร้องเอาทรัพย์ตามพินัยกรรมของเจ้ามรดกต่างคนกัน จึงมิใช่อาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ฟ้องโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้ำ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 25/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1628/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำหรือไม่เมื่ออ้างสิทธิตามพินัยกรรมของเจ้ามรดกต่างกัน แม้คดีก่อนอ้างพินัยกรรมแล้วขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินซึ่งโจทก์ได้มาตามพินัยกรรมของนางสาว ก.เป็นของโจทก์ทั้งหมด ศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดให้ยกฟ้องโจทก์ เพราะคดีโจทก์ขาดอายุความเรียกร้องมรดกตามพินัยกรรมของนางสาว ก. โจทก์จึงฟ้องจำเลยให้จัดการจำหน่ายที่ดินดังกล่าวแล้วนำเงินแบ่งให้โจทก์ครึ่งหนึ่งตามพินัยกรรมของนาง ร. การที่โจทก์กลับมาฟ้องจำเลยครั้งหลัง จึงเป็นการฟ้องเรียกที่ดินโดยอ้างสิทธิตามพินัยกรรมของนาง ร. ซึ่งเป็นพินัยกรรมอีกฉบับหนึ่ง มีข้อความแตกต่างกัน เป็นการเรียกร้องเอาทรัพย์ตามพินัยกรรมของเจ้ามรดกต่างคนกัน จึงมิใช่อาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ฟ้องโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้ำ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 25/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1628/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำหรือไม่เมื่ออ้างสิทธิตามพินัยกรรมของเจ้ามรดกต่างคนกัน ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าไม่เป็นฟ้องซ้ำ
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ศาลแสดงว่าที่ดินซึ่งโจทก์ได้มาตามพินัยกรรมของนางสาว ก.เป็นของโจทก์ทั้งหมด. ศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดให้ยกฟ้องโจทก์. เพราะคดีโจทก์ขาดอายุความเรียกร้องมรดกตามพินัยกรรมของนางสาว ก.. โจทก์จึงฟ้องจำเลยให้จัดการจำหน่ายที่ดินดังกล่าวแล้วนำเงินแบ่งให้โจทก์ครึ่งหนึ่งตามพินัยกรรมของนาง ร.. การที่โจทก์กลับมาฟ้องจำเลยครั้งหลัง. จึงเป็นการฟ้องเรียกที่ดินโดยอ้างสิทธิตามพินัยกรรมของนาง ร. ซึ่งเป็นพินัยกรรมอีกฉบับหนึ่ง มีข้อความแตกต่างกัน. เป็นการเรียกร้องเอาทรัพย์ตามพินัยกรรมของเจ้ามรดกต่างคนกัน. จึงมิใช่อาศัยเหตุอย่างเดียวกัน. ฟ้องโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้ำ.(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 25/2511).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1560/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำหรือไม่: คดีล้มละลาย vs. คดีขอชำระหนี้เงินกู้ แม้เป็นเรื่องเดียวกันแต่ประเด็นต่างกัน
ในคดีล้มละลายที่โจทก์ฟ้องจำเลยและศาลยกฟ้องไปแล้วนั้น มีประเด็นข้อใหญ่อยู่ว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่มีทรัพย์สินจะชำระหนี้ อยู่ในเกณฑ์ที่ศาลจะพิพากษาให้ล้มละลายได้หรือไม่ ในคดีนี้มีประเด็นอยู่ว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์อยู่จริงหรือไม่ โดยโจทก์ฟ้องขอให้ชำระหนี้เงินที่จำเลยกู้เงินโจทก์ไป ซึ่งเป็นคนละประเด็นกันการวินิจฉัยในเรื่องทั้งสองนี้จึงมิได้อาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ฟ้องโจทก์ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำและไม่เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144, 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1560/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: คดีล้มละลาย vs. คดีเรียกทรัพย์สิน - ประเด็นต่างกัน ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ในคดีล้มละลายที่โจทก์ฟ้องจำเลยและศาลยกฟ้องไปแล้วนั้นมีประเด็นข้อใหญ่อยู่ว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว ไม่มีทรัพย์สินจะชำระหนี้ อยู่ในเกณฑ์ที่ศาลจะพิพากษาให้ล้มละลายได้หรือไม่ ในคดีนี้มีประเด็นอยู่ว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์อยู่จริงหรือไม่ โดยโจทก์ฟ้องขอให้ชำระหนี้เงินที่จำเลยกู้เงินโจทก์ไป ซึ่งเป็นคนละประเด็นกันการวินิจฉัยในเรื่องทั้งสองนี้จึงมิได้อาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ฟ้องโจทก์ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ และไม่เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144,148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1560/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: คดีล้มละลาย vs. คดีขอชำระหนี้เงินกู้ แม้ประเด็นต่างกัน ไม่ถือฟ้องซ้ำ
ในคดีล้มละลายที่โจทก์ฟ้องจำเลยและศาลยกฟ้องไปแล้วนั้น. มีประเด็นข้อใหญ่อยู่ว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว. ไม่มีทรัพย์สินจะชำระหนี้. อยู่ในเกณฑ์ที่ศาลจะพิพากษาให้ล้มละลายได้หรือไม่. ในคดีนี้มีประเด็นอยู่ว่าจำเลยเป็นหนี้โจทก์อยู่จริงหรือไม่. โดยโจทก์ฟ้องขอให้ชำระหนี้เงินที่จำเลยกู้เงินโจทก์ไป ซึ่งเป็นคนละประเด็นกัน.การวินิจฉัยในเรื่องทั้งสองนี้จึงมิได้อาศัยเหตุอย่างเดียวกัน. ฟ้องโจทก์ในคดีนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ.และไม่เป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 144,148.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1225/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องแย่งการครอบครอง และฟ้องซ้ำ: การรบกวนการครอบครองเพียงครั้งเดียวไม่ทำให้ขาดอายุความ
จำเลยเข้ารบกวนการครอบครองเพียงครั้งเดียว โจทก์นำคดีมาฟ้องเป็นเวลาเกินกว่า 1 ปี ภายหลังจากที่โจทก์ถูกรบกวนในครั้งนั้น โจทก์จึงหมดสิทธิที่จะฟ้องคดีเพื่อปลดเปลื้องการรบกวนต่อไป
คดีก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องโจทก์ โดยวินิจฉัยว่าประธานกรรมการและกรรมการบริษัทโจทก์ไม่มีอำนาจลงชื่อแทนบริษัทประการหนึ่ง และโจทก์หมดสิทธิฟ้องจำเลยเพราะไม่ฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันถูกแย่งการครอบครองอีกประการหนึ่ง โจทก์จึงกลับมาฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้อีก ดังนี้ เมื่อศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์ไม่เป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายเสียแล้ว ก็ย่อมไม่มีอำนาจที่จะวินิจฉัยในประเด็นอื่นที่เกี่ยวกับฟ้องของโจทก์ได้ เพราะการที่จะวินิจฉัยไปถึงประเด็นอื่นดังกล่าวได้ ฟ้องของโจทก์จะต้องเป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายเสียก่อน ฉะนั้น ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยไว้ในคดีก่อนด้วยว่า โจทก์หมดสิทธิฟ้องจำเลย เพราะไม่ฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันถูกแย่งการครอบครอง จึงเป็นคำวินิจฉัยที่เกินเลยไปจะถือว่ามีคำพิพากษาถึงที่สุดในประเด็นข้อนี้แล้วไม่ได้ โจทก์นำคดีนี้มาฟ้องจึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
of 146