พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,473 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2927/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องผิดพลาดเรื่องปริมาณยาเสพติดและสถานที่เกิดเหตุ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงต่างจากฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าฝิ่นที่จำเลยมีไว้ในความครอบครองราคา64,500 บาท ฝิ่นราคากรัมละ 10 บาท ที่ว่าฝิ่นหนัก 6.450 กรัมจึงเป็นเพราะพิมพ์ผิดที่ถูกน่าจะเป็น 6,450 กรัม หรือ 6.450 กิโลกรัมจึงจะลงตัวกับราคาข้างต้นดังนี้ ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ในทางพิจารณาต่างกับฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องระบุสถานที่เกิดเหตุไว้หลายท้องที่ แม้จะฟังว่าของกลางที่ยึดได้จากบ้านจำเลยไม่ใช่ฝิ่นจึงไม่มีความผิดเกิดขึ้นที่แขวงสามเสนนอกตามที่ระบุไว้ก็ตาม แต่สถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง ก็ไม่แตกต่างกับที่ได้ความในทางพิจารณาเพราะซอยคลังมนตรีที่ตำรวจจับจำเลยได้พร้อมฝิ่นและเฮโรอีนของกลาง ก็อยู่ในแขวงลาดยาว ตามฟ้องนั่นเอง
โจทก์บรรยายฟ้องระบุสถานที่เกิดเหตุไว้หลายท้องที่ แม้จะฟังว่าของกลางที่ยึดได้จากบ้านจำเลยไม่ใช่ฝิ่นจึงไม่มีความผิดเกิดขึ้นที่แขวงสามเสนนอกตามที่ระบุไว้ก็ตาม แต่สถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง ก็ไม่แตกต่างกับที่ได้ความในทางพิจารณาเพราะซอยคลังมนตรีที่ตำรวจจับจำเลยได้พร้อมฝิ่นและเฮโรอีนของกลาง ก็อยู่ในแขวงลาดยาว ตามฟ้องนั่นเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2330/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษคดีซ้ำจากความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด แม้ความผิดแรกเกิดก่อนบังคับใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ
แม้ว่าโทษที่จำเลยได้รับครั้งก่อนจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติกัญชาพุทธศักราช 2477 แต่พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 3 ได้บัญญัติให้ยกเลิกพระราชบัญญัติกัญชา พุทธศักราช 2477 ทั้งฉบับ โดยถือว่ากัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 และผู้มีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตาม มาตรา 26, 76 ดังนั้น การที่จำเลยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกฐานมีกัญชาไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตในคดีก่อนจึงต้องถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษด้วย เมื่อจำเลยกระทำความผิดฐานมีเฮโรอีนอันเป็น ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองภายในกำหนดเวลาห้าปี นับแต่วันพ้นโทษคดีก่อน จึงอยู่ในเกณฑ์ที่จะเพิ่มโทษจำเลยตาม มาตรา 97 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2330/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษคดีจำเลยกระทำผิดซ้ำภายในห้าปี แม้ความผิดก่อนหน้าตามกฎหมายเดิม ศาลฎีกาชี้ว่าเพิ่มโทษได้ตามกฎหมายยาเสพติด
แม้ว่าโทษที่จำเลยได้รับครั้งก่อนจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติกัญชาพุทธศักราช 2477 แต่พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 3 ได้บัญญัติให้ยกเลิกพระราชบัญญัติกัญชา พุทธศักราช 2477 ทั้งฉบับ โดยถือว่ากัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 และผู้มีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตาม มาตรา 26,76ดังนั้น การที่จำเลยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตในคดีก่อนจึงต้องถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษด้วยเมื่อจำเลยกระทำความผิดฐานมีเฮโรอีนอันเป็น ยาเสพติดให้โทษประเภท1 ไว้ในครอบครองภายในกำหนดเวลาห้าปี นับแต่วันพ้นโทษคดีก่อน จึงอยู่ในเกณฑ์ที่จะเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 97 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3586/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียงกระทงความผิดในคดีจำหน่ายยาเสพติด แม้โจทก์มิได้อ้างมาตรา 91 โดยตรง
เมื่อศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและได้จำหน่ายเฮโรอีนตามฟ้องโจทก์จำเลยมิได้อุทธรณ์โต้เถียงข้อเท็จจริงดังกล่าวคงมีแต่โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายว่าการกระทำของจำเลยดังข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยเป็นความผิดสองกรรมศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยเพียงกรรมเดียวเป็นการไม่ถูกต้อง ข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายกับจำหน่ายเฮโรอีนจึงเป็นอันยุติไปแล้วตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และมิใช่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดสองกรรมแม้โจทก์จะมิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 มาในคำขอท้ายฟ้องก็ตาม แต่โจทก์ก็ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายบทและหลายกรรมต่างกัน ศาลก็ต้องเรียงกระทงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดสองกรรมแม้โจทก์จะมิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 มาในคำขอท้ายฟ้องก็ตาม แต่โจทก์ก็ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายบทและหลายกรรมต่างกัน ศาลก็ต้องเรียงกระทงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3586/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียงกระทงความผิดจากพฤติกรรมครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด แม้ไม่ได้อ้างมาตรา 91 ในคำฟ้อง
เมื่อศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและได้จำหน่ายเฮโรอีนตามฟ้องโจทก์ จำเลยมิได้อุทธรณ์โต้เถียงข้อเท็จจริงดังกล่าวคงมีแต่โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายว่าการกระทำของจำเลยดังข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยเป็นความผิดสองกรรมศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยเพียงกรรมเดียวเป็นการไม่ถูกต้อง ข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายกับจำหน่ายเฮโรอีนจึงเป็นอันยุติไปแล้วตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และมิใช่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดสองกรรมแม้โจทก์จะมิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 มาในคำขอท้ายฟ้องก็ตาม แต่โจทก์ก็ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายบทและหลายกรรมต่างกัน ศาลก็ต้องเรียงกระทงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำความผิดสองกรรมแม้โจทก์จะมิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 มาในคำขอท้ายฟ้องก็ตาม แต่โจทก์ก็ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายบทและหลายกรรมต่างกัน ศาลก็ต้องเรียงกระทงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 310/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดเกี่ยวพันกับยาเสพติด: ศาลฎีกามีอำนาจยกฟ้องความผิดฐานครอบครอง แม้จำเลยฎีกาไม่ได้ในข้อเท็จจริง
แม้ข้อหาฐานมียาเสพติดให้โทษชนิดเฮโรอีนไว้ในครอบครองจะต้องห้ามมิให้จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง แต่ก็เป็นความผิดที่เกี่ยวพันกับความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนนั้น เมื่อพยานหลักฐานของโจทก์ชุดเดียวกันเป็นที่สงสัยและเป็นพิรุธ ลงโทษจำเลยไม่ได้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 185 ยกฟ้องถึงความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1846/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจโทษยาเสพติด: ศาลฎีกาแก้ไขโทษจำคุกเบาลงสำหรับจำเลยร่วม กระทบถึงจำเลยที่ไม่ฎีกา
ในกรณีที่ศาลฎีกาเห็นว่า ดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลล่างหนักไป สมควรกำหนดโทษจำเลยที่ฎีกาขึ้นมาให้เบาบางลงไปอีก และเนื่องจากจำเลยที่ฎีกากับจำเลยที่มิได้ฎีกากระทำความผิดร่วมกัน เหตุสมควรกำหนดโทษดังกล่าวจึงเป็นเหตุในลักษณะคดี ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาตลอดถึงจำเลยที่มิได้ฎีกาได้ด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 213 ประกอบด้วยมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1716/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายยาเสพติด แม้ไม่ได้รับค่าตอบแทน ก็ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ฯ มาตรา 4 นิยามคำว่า "จำหน่าย" หมายความถึง ขาย จ่าย แจก แลกเปลี่ยน ให้ ดังนั้น การที่จำเลยเอาเฮโรอีนมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยไม่รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถึงแม้จำเลยจะไม่ได้ค่าตอบแทนเลยก็เป็นความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีนแล้ว
แม้โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยจำหน่ายโดยขายเฮโรอีน 2 หลอดเป็นเงิน 60 บาท ให้แก่ผู้มีชื่อ แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยเป็นเพียงเป็นผู้ไปเอาเฮโรอีนมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็หาใช่แตกต่างในข้อสาระสำคัญไม่
แม้โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยจำหน่ายโดยขายเฮโรอีน 2 หลอดเป็นเงิน 60 บาท ให้แก่ผู้มีชื่อ แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยเป็นเพียงเป็นผู้ไปเอาเฮโรอีนมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็หาใช่แตกต่างในข้อสาระสำคัญไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1716/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำหน่ายยาเสพติด แม้ไม่ได้รับค่าตอบแทน ก็ถือเป็นความผิดฐานจำหน่ายได้
การที่จำเลยไปเอาเฮโรอีนมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยจำเลยไม่ได้รับค่าตอบแทนเลยก็เป็นความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีนแล้ว และการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมอบเงินค่าเฮโรอีนให้แก่จำเลยไปนั้น จำเลยจะไปซื้อจากบุคคลอื่นหรือเอาเฮโรอีนจากที่ไหนมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจย่อมเป็นข้อเท็จจริงอยู่ในความรู้เห็นของจำเลยเอง ถึงหากจำเลยจะไม่ได้รับเงินค่าขายไว้เป็นของตน โดยเป็นเพียงผู้ไปเอาเฮโรอีนมามอบให้ผู้ซื้อ ก็ยังมีความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีนอยู่นั่นเอง ดังนั้น การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยจำหน่ายโดยขายเฮโรอีนให้แก่ผู้มีชื่อแต่ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยเป็นเพียงผู้ไปเอาเฮโรอีนมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงมิใช่ข้อแตกต่างในข้อสารสำคัญ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำเลยในความผิดซ้ำเกี่ยวกับยาเสพติด และการจำแนกประเภทของยาเสพติดให้โทษ
คำว่าพระราชบัญญัตินี้ (ตามมาตรา 97) ย่อมมีความหมายว่าหมายถึงพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดฐานมีและเสพยาเสพติดให้โทษโดยไม่รับอนุญาตและต่อมาจำเลยได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้อีกในเวลา 5 ปี นับแต่วันพ้นโทษ การเพิ่มโทษจึงต้องเพิ่มอีกกึ่งหนึ่ของโทษที่ศาลกำหนดสำหรับความผิดครั้งหลังตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ซึ่งแม้จะได้ยกเลิกพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฉบับก่อน ๆ แล้วก็ตาม
เฮโรอีนหรือเกลือของเฮโรอีนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2465 เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ส่วนมาตรา 76 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 นั้นใช้กับยาเสพติดให้โทษในประเภท 5
เฮโรอีนหรือเกลือของเฮโรอีนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2465 เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ส่วนมาตรา 76 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 นั้นใช้กับยาเสพติดให้โทษในประเภท 5