คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ลักทรัพย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,595 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 34/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเก็บสะตอในที่พิพาทกรรมสิทธิ์ ไม่ถือเป็นการลักทรัพย์หากมีเหตุผลเชื่อว่าตนเองมีสิทธิ์
การที่จำเลยเก็บผักสะตอในที่ซึ่งผู้เสียหายและจำเลยยังเถียงกรรมสิทธิในเรื่องที่ดินและต้นสะตอรายนี้อยู่โดยมีเหตุผลนั้นย่อมฟังไม่ได้ว่าจำเลยเก็บสะตอไปโดยการทุจริตอันเป็นผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทกรรมสิทธิ์นาและการลักทรัพย์: ศาลฎีกายืนยกฟ้องเนื่องจากขาดเจตนาทุจริต
ได้ความว่าโจทก์หาว่าจำเลยสมคบกันลักเกี่ยวข้าวในนาของผู้เสียหายหายไปแต่ปรากฏว่านาที่จำเลยเก็บเกี่ยวข้าวไปเป็นนามือเปล่า ผู้เสียหายถือว่าเป็นของตนโดยได้รับมรดกตกทอดมาจากบิดาผู้เสียหายและพรรพวกได้ทำมา ฝ่ายจำเลยก็ถือว่าเป็นของตนโดยได้ทำนิติกรรมที่อำเภอซื้อมาจากพวกจำเลยด้วยกันทั้งสองฝ่ายจะได้ทำนารายนี้ตรงไหนและจะล้ำเหลื่อมกันอย่างไรไม่ได้ความชัด พอถึงฤดูเก็บเกี่ยวต่างก็แย่งกันเก็บเกี่ยวและไปร้องต่อเจ้าพนักงานว่าอีกฝ่ายหนึ่งลักข้าวของตน เพียงเท่านี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยกับพวกมีเจตนาทุจริตลักเกี่ยวข้าวไปตามฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 235/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทกรรมสิทธิ์นาและเจตนาทุจริต: ศาลยกฟ้องคดีลักทรัพย์เนื่องจากความไม่ชัดเจนของกรรมสิทธิ์และขาดเจตนา
ได้ความว่าโจทก์หาว่าจำเลยสมคบกันลักเกี่ยวข้าวในนาของผู้เสียหายไปแต่ปรากฏว่านาที่จำเลยเก็บเกี่ยวข้าวไปเป็นนามือเปล่าผู้เสียหายถือว่าเป็นของตนโดยได้รับมรดกตกทอดมาจากบิดาผู้เสียหายและพรรคพวกได้ทำมาฝ่ายจำเลยก็ถือว่าเป็นของตนโดยได้ทำนิติกรรมที่อำเภอซื้อมาจากพวกจำเลยด้วยกันทั้งสองฝ่ายจะได้ทำนารายนี้ตรงไหนและจะล้ำเหลื่อมกันอย่างไรไม่ได้ความชัด พอถึงฤดูเก็บเกี่ยวต่างก็แย่งกันเก็บเกี่ยวและไปร้องต่อเจ้าพนักงานว่าอีกฝ่ายหนึ่งลักข้าวของตนเพียงเท่านี้ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยกับพวกมีเจตนาทุจริตลักเกี่ยวข้าวไปตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2135/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์: การครอบครองทรัพย์ที่หลงลืม และการส่งมอบให้ผู้อื่น
เจ้าทรัพย์ลืมกระเป๋าทิ้งไว้ที่ข้างเกียร์บนรถยนต์ที่จำเลยเป็นผู้ขับขี่ , มีบุคคลอื่นมาพบและเก็บได้ถามว่ากระเป๋าของใคร ผู้โดยสารคนหนึ่งว่าเป็นของเขา ผู้เก็บได้จึงส่งกระเป๋าเงินให้จำเลยไปให้ผู้โดยสารคนนั้นเพราะมาด้วยกัน แต่จำเลยกลับเอาไว้เสียเองเช่นนี้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานยักยอกมิใช่ลักทรัพย์เพราะเมื่อเจ้าทรัพย์ลืมกระเป๋าเงินทิ้งไว้กรณีเป็นเก็บของตก ความยึดถือครอบครองทรัพย์ย่อมตกอยู่แก่คนกระเป๋ารถ ๆ มอบทรัพย์ให้อยู่ในความยึดถือครอบครองของจำเลยอีกต่อหนึ่ง โดยจำเลยไม่ทราบว่ากระเป๋าเป็นของใคร เมื่อจำเลยเอาไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียจึงมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2135/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานลักทรัพย์หรือยักยอกทรัพย์: การยึดถือครอบครองทรัพย์ที่หล่นหาย และเจตนาเอาทรัพย์ไปเป็นของตนเอง
เจ้าทรัพย์ลืมกระเป๋าทิ้งไว้ที่ข้างเกียร์บนรถยนต์ที่จำเลยเป็นผู้ขับขี่มีบุคคลอื่นมาพบและเก็บได้ถามว่ากระเป๋าของใคร ผู้โดยสารคนหนึ่งว่าเป็นของเขา ผู้เก็บได้จึงส่งกระเป๋าเงินให้จำเลยไปให้ผู้โดยสารคนนั้นเพราะมาด้วยกัน แต่จำเลยกลับเอาไว้เสียเองเช่นนี้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานยักยอกมิใช่ลักทรัพย์ เพราะเมื่อเจ้าทรัพย์ลืมกระเป๋าเงินทิ้งไว้กรณีเป็นเก็บของตก ความยึดถือครอบครองทรัพย์ย่อมตกอยู่แก่คนกระเป๋ารถๆ มอบทรัพย์ให้อยู่ในความยึดถือครอบครองของจำเลยอีกตอนหนึ่งโดยจำเลยไม่ทราบว่าเป็นของใคร เมื่อจำเลยเอาไว้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเสียจึงมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานลักทรัพย์ของสามีภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ต้องพิจารณาเจตนาและหลักเกณฑ์ตามกฎหมาย
คำว่า "สามีภรรยา" ตาม ก.ม. อาญา ม.54 ก.ม.มิได้บัญญัติไว้ว่าพฤติการณ์เช่นไร ก.ม.อาญายอมรับนับถือว่าเป็นสามีภรรยากันฉนั้นโดยปกติต้องอาศัย ป.พ.พ. ที่ใช้อยู่ในขณะทำผิดเป็นหลักกล่าวคือต้องได้มีการจดทะเบียนสมรสแล้ว
ชายหญิงที่ได้เสียกันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสแล้วภายหลังฝ่ายหนึ่งเอาทรัพย์ของอีกฝ่ายหนึ่งไป ดังนี้ต้องอาศัยเจตนาเป็นหลักว่ามีเถยจิตลักทรัพย์หรือไม่
เมื่อจำเลยไม่ใช่สามีตาม ม.54 และในเรื่องเจตนานี้ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงในคดีนี้ว่าจำเลยเจตนาลักทรัพย์แล้ว ฎีกาของจำเลยในเรื่องว่าไม่มีความผิดตาม ม.54 ในข้อนี้จึงเป็นฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงต้องห้ามตาม ป.วิ.อาญา ม.220.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2041/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาความผิดฐานลักทรัพย์ของคู่ความสัมพันธ์ที่ไม่จดทะเบียนสมรส และการยกฎีกาที่คัดค้านข้อเท็จจริง
คำว่า "สามีภรรยา" ตาม กฎหมายอาญา มาตรา 54 กฎหมายมิได้บัญญัติไว้ว่าพฤติการณ์เช่นไร กฎหมายอาญายอมรับนับถือว่าเป็นสามีภรรยากัน ฉะนั้นโดยปกติต้องอาศัย ป.พ.พ.ที่ใช้อยู่ในขณะทำผิดเป็นหลักกล่าวคือต้องได้มีการจดทะเบียนสมรสแล้ว
ชายหญิงที่ได้เสียกันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสแล้วภายหลังฝ่ายหนึ่งเอาทรัพย์ของอีกฝ่ายหนึ่งไป ดังนี้ต้องอาศัยเจตนาเป็นหลักว่ามีเถยจิตลักทรัพย์หรือไม่
เมื่อจำเลยไม่ใช่สามีตาม มาตรา 54 และในเรื่องเจตนานี้ศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงในคดีนี้ว่าจำเลยเจตนาลักทรัพย์แล้ว ฎีกาของจำเลยในเรื่องว่าไม่มีความผิดตาม มาตรา 54 ในข้อนี้จึงเป็นฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1947/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์โค: การกระทำที่เชื่อมโยงถึงการชำแหละเนื้อสัตว์
ใช้ปืนยิงโคของผู้อื่นในตอนบ่ายแล้วตอนเย็นจึงมาชำแหละเอาเนื้อโคย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์แล้ว ส่วนผู้ที่มาร่วมชำแหละเนื้อโคด้วยในตอนหลังยังไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1947/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานลักทรัพย์จากการยิงโคและการชำแหละเนื้อโค ความรับผิดของผู้ร่วมกระทำ
ใช้ปืนยิงโคของผู้อื่นในตอนบ่ายแล้วตอนเย็นจึงมาชำแหละเอาเนื้อโคย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์แล้ว ส่วนผู้ที่มาร่วมชำแหละเนื้อโคด้วยในตอนหลังยังไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1914-1915/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมคบกันลักทรัพย์และต่อสู้ขัดขวางการจับกุม ถือเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโคและกระบือของผู้เสียหายถูกลักไปในคืนเกิดเหตุทั้งสองแห่ง เมื่อผู้เลี้ยงต่างเห็นผู้ร้ายพาโคกระบือไปห่างบ้านตนคนละประมาณ 3 เส้น และ 2 เส้นเศษต่างก็ไปแจ้งผู้เสียหายทันที และผู้เสียหายก็ไปแจ้งตำรวจทันที ตำรวจแยกเป็น 2 ทางตามรอยโคกระบือไปเป็นเวลาประมาณ 7 ชั่วโมงจนไปพบปะผู้ร้ายและโคกระบือคนละตำบลกับที่เกิดเหตุก็ดี และแม้ผู้ร้ายจะกระจัดกระจายจนโคกระบือข้ามแม่น้ำไปบ้างแล้วก็ดี การลักทรัพย์รายนี้ก็หายังได้ขาดตอนจากกันไม่
เมื่อผู้ร้ายมี5 คน 3 คนแรกวิ่งไปทางกลางเกาะอีก 2 คนวิ่งตามไปติด ๆ กัน แล้วอีก 2 คนลงไปที่เรือชล่าที่จอดอยู่ ตอนเจ้าพนักงานบอกให้วางอาวุธเพราะได้ล้อมไว้แล้ว พวกผู้ร้ายกลับยิงปืนมาเป็นทำนองต่อสู้ขัดขวางเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญา ดังนี้การกระทำของจำเลยต้องด้วยลักษณะสมคบกันปล้นทรัพย์.
of 160