พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,361 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1784/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้กู้โดยมิได้จำนองทรัพย์สินลำดับหนึ่งตาม พ.ร.บ.ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ ทำให้สัญญาเป็นโมฆะ
ตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจเงินทุนธุรกิจหลักทรัพย์และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์พ.ศ.2522มาตรา54(2)ห้ามมิให้บริษัทเครดิตฟองซิเอร์กระทำการให้กู้ยืมเงินเว้นแต่การรับจำนองทรัพย์สินลำดับหนึ่งเป็นประกันดังนั้นการที่โจทก์ซึ่งเป็นบริษัทเครดิตฟองซิเอร์ให้จำเลยทั้งสองกู้เงินโดยมิได้มีการจดทะเบียนจำนองทรัพย์สินลำดับหนึ่งเป็นประกันจึงฝ่าฝืนบทกฎหมายดังกล่าวตกเป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 174/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญารับใช้หนี้และการระงับหนี้เดิมด้วยสัญญาประนีประนอมยอมความ
เดิมโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสี่ชำระหนี้ให้โจทก์จากมูลหนี้ตามสัญญากู้เงินและสัญญากู้เงินโดยวิธีขายลดเช็คต่อมา ว.ซึ่งเป็นจำเลยที่4ในคดีนั้นได้ทำหนังสือรับใช้หนี้ในหนี้ทุกประเภทของจำเลยที่1ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยโดย ว.ยอมรับภาระเป็นลูกหนี้ชำระหนี้รายนี้แทนจำเลยที่1นอกเหนือจากความรับผิดในฐานะผู้ค้ำประกันและโจทก์ยินยอมให้ ว. ชำระหนี้ในวันทำสัญญาเท่ากับหนี้ที่ ว. เป็นผู้ค้ำประกันส่วนที่เหลือยอมให้ ว.ออกเช็คล่วงหน้าผ่อนชำระหนี้6งวดโดยโจทก์ให้ความเชื่อถือ ว.และยอมคืนโฉนดที่ดินที่ ว. จำนองเป็นประกันหนี้จำเลยที่1ให้ไปจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองด้วยโจทก์จะเรียกดอกเบี้ยต่อเมื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ได้ในอัตราร้อยละ20ต่อปีตามสัญญารับใช้หนี้ข้อ3เท่านั้นเป็นการที่โจทก์และ ว. ทั้งสองฝ่ายระงับข้อพิพาทที่มีขึ้นตามมูลหนี้เดิมให้เสร็จสิ้นไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันจึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา850เป็นผลทำให้มูลหนี้เดิมซึ่งมีอยู่ระงับสิ้นไปและทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิตามที่แสดงไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา852โจทก์จะมาฟ้องจำเลยทั้งสามในมูลหนี้เดิมที่ระงับสิ้นไปแล้วหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 171/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิเรียกร้องและการยินยอมของลูกหนี้ การที่คู่สัญญาไม่ได้บอกกล่าวหรือได้รับความยินยอมโดยตรง ย่อมใช้ยันต่อกันไม่ได้
คู่สัญญาจ้างเหมาก่อสร้างคือจำเลยที่3กับห้างหุ้นส่วนจำกัดช.เมื่อโจทก์อ้างว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดช.ได้ทำหนังสือโอนสิทธิการรับเงินค่าก่อสร้างให้โจทก์แต่ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้บอกกล่าวการโอนหนี้ไปยังจำเลยที่3โดยทำเป็นหนังสือหรือจำเลยที่3ได้ยินยอมในการโอนเป็นหนังสือการที่ป. และจำเลยที่2ลงชื่อในหนังสือโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าวโดยไม่ได้รับมอบอำนาจจากจำเลยที่3ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่3ยินยอมด้วยในการโอนหนี้รายนี้เอกสารที่โจทก์อ้างจึงใช้ยันแก่จำเลยที่3ไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา306
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1642/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เบี้ยปรับสัญญา ไม่ต้องสงวนสิทธิเมื่อรับมอบบางส่วน
โจทก์สัญญากับจำเลยว่าหากโจทก์ส่งมอบปฏิทินและสมุดบันทึกที่จำเลยจ้างโจทก์พิมพ์ให้จำเลยไม่ทันตามกำหนด ยินยอมให้จำเลยปรับเป็นรายวันเป็นข้อสัญญาว่าจะให้เบี้ยปรับเมื่อโจทก์ไม่ชำระหนี้ให้ถูกต้องสมควร ซึ่งนอกจากเรียกให้ชำระหนี้แล้วจำเลยผู้เป็นเจ้าหนี้จะเรียกเอาเบี้ยปรับอันจะพึงริบนั้นอีกด้วยก็ได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 381 วรรคหนึ่ง ส่วนวรรคสามของบทมาตราดังกล่าวหมายความว่า เจ้าหนี้จะต้องบอกสงวนสิทธิที่จะเรียกเอาเบี้ยปรับต่อเมื่อลูกหนี้ได้ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้โดยสิ้นเชิงแล้ว และเจ้าหนี้รับชำระหนี้นั้น เมื่อโจทก์ส่งมอบปฏิทินและสมุดบันทึกให้จำเลยเพียงบางส่วน แม้จำเลยมิได้บอกสงวนสิทธิที่จะเรียกเอาเบี้ยปรับไว้ในเวลาที่รับมอบปฏิทินและสมุดบันทึกดังกล่าว จำเลยก็หาหมดสิทธิที่จะเรียกเอาเบี้ยปรับเป็นรายวันในการที่โจทก์ส่งมอบไม่ทันตามกำหนดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1564/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องในสัญญาประกันภัยค้ำจุน: โจทก์ผู้กระทำละเมิดไม่มีสิทธิเรียกร้องจากจำเลยผู้รับประกันภัยโดยตรง
สัญญาประกันภัยค้ำจุนคือสัญญาซึ่งผู้รับประกันภัยจะต้องรับผิดในความวินาศภัยที่เกิดขึ้นต่อบุคคลภายนอกต่อเมื่อผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเมื่อโจทก์ไม่ได้เป็นคู่สัญญากับจำเลยและไม่ปรากฏว่าโจทก์มีนิติสัมพันธ์อันใดกับผู้เอาประกันภัยในอันที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดในการกระทำละเมิดของโจทก์ต่อบุคคลภายนอกโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องให้จำเลยชดใช้เงินที่โจทก์จ่ายเป็นค่าเสียหายให้แก่บุคคลภายนอกคืนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1510/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดอกเบี้ยทบต้นบัญชีเดินสะพัด: สิทธิคิดดอกเบี้ยตามสัญญา แม้หลังสัญญาครบกำหนด หากยังมีการเดินสะพัดทางบัญชี
แม้สัญญาเบิกเงินเกินบัญชีจะครบกำหนดแต่เมื่อโจทก์และจำเลยที่1ยังคงเดินสะพัดทางบัญชีกันต่อไปโจทก์จึงมีสิทธิครอบครองคิดดอกเบี้ยทบต้นได้ หลังจากสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีเลิกกันแล้วจำเลยที่1ยังมีภาระต้องชำระหนี้ตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีให้แก่โจทก์จึงต้องรับผิดดอกเบี้ยตามที่ระบุไว้ในสัญญาจะถือว่าไม่ได้ตกลงเรื่องดอกเบี้ยหาได้ไม่โจทก์จึงมีสิทธิคิดดอกเบี้ยตามอัตราที่ระบุไว้ในสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีได้เพียงแต่คิดทบต้นไม่ได้เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1503/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับคู่สัญญาและการผูกพันตามสัญญา แม้มีข้อโต้แย้งเรื่องหนังสือมอบอำนาจ
ตามสัญญาว่าจ้างก่อสร้างบ้านระบุว่าโจทก์เป็นคู่สัญญากับจำเลย การที่จำเลยยินยอมเข้าทำสัญญาและปฏิบัติตามสัญญาบางส่วนแล้ว ถือได้ว่าจำเลยยอมรับว่าโจทก์เป็นคู่สัญญาโดยโจทก์มอบอำนาจให้ จ. ทำสัญญากับจำเลยแทนโจทก์จำเลยจะกลับยกเอาความไม่สมบูรณ์ของหนังสือมอบอำนาจมาต่อสู้เพื่อให้พ้นความรับผิดตามสัญญาหาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1503/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมทำสัญญาและการปฏิบัติตามสัญญาบางส่วน ถือเป็นการยอมรับว่าคู่สัญญาเป็นผู้มีอำนาจ แม้หนังสือมอบอำนาจจะไม่สมบูรณ์
ตามสัญญาว่าจ้างก่อสร้างบ้านระบุว่าโจทก์เป็นคู่สัญญากับจำเลยการที่จำเลยยินยอมเข้าทำสัญญาและปฎิบัติตามสัญญาบางส่วนแล้วถือได้ว่าจำเลยยอมรับว่าโจทก์เป็นคู่สัญญาโดยโจทก์มอบอำนาจให้จ. ทำสัญญากับจำเลยแทนโจทก์จำเลยจะกลับยกเอาความไม่สมบูรณ์ของหนังสือมอบอำนาจมาต่อสู้เพื่อให้พ้นความรับผิดตามสัญญาหาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1216/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาไม่เป็นผลเนื่องจากผู้ฟ้องไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขสัญญา และประเด็นพยานหลักฐานที่มิได้อุทธรณ์ในชั้นอุทธรณ์
โจทก์มิได้ฎีกาโต้เถียงคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค2ที่ว่าโจทก์ไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญาจึงไม่มีสิทธิฟ้องบังคับจำเลยให้ปฏิบัติตามสัญญาข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงยุติตามคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค2ปัญหาตามฎีกาโจทก์ที่ว่าสัญญายังไม่เลิกกันจึงเป็นข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีเพราะไม่อาจเปลี่ยนแปลงผลของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค2ได้ ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องและคำให้การประกอบคำแถลงของทนายโจทก์แล้วเห็นว่าข้อเท็จจริงแห่งคดีพอวินิจฉัยได้จึงงดสืบพยานโจทก์จำเลยโจทก์มิได้อุทธรณ์ในปัญหานี้ปัญหาเรื่องพยานหลักฐานในสำนวนครบถ้วนหรือไม่จึงเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ทั้งไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนจึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1150/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไม่ต้องทำตามแบบการโอนหุ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ และไม่จำเป็นต้องทำสัญญาเป็นหนังสือ
การซื้อขายหุ้นหรือหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์มิใช่การซื้อขายหุ้นตามปกติธรรมดาไม่จำต้องปฏิบัติตามแบบของการโอนหุ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1129และการตั้งตัวแทนเพื่อซื้อและขายหุ้นดังกล่าวก็ไม่จำต้องทำเป็นหนังสือ โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่1ชำระหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงินซึ่งมีมูลหนี้จากที่จำเลยที่1กู้ยืมเงินจากโจทก์หาใช่ฟ้องให้จำเลยที่1ชำระหนี้กู้ยืมเงินโดยตรงไม่จึงไม่จำต้องมีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญมาเป็นพยานต่อศาล