คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เช็ค

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,865 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2012/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขคำฟ้องเพิ่มเติมข้อเท็จจริงเรื่องความเป็นมาของเช็ค ไม่ถือเป็นการแก้ไขคำฟ้องในสาระสำคัญ แต่ฟ้องขาดอายุความ
คำร้องขอแก้ไขคำฟ้องของโจทก์ขอเพิ่มเติมคำฟ้องเป็นใจความว่า ก่อนนำเช็คพิพาทมาฟ้อง โจทก์ได้นำเช็คพิพาทกับเช็คอีกฉบับหนึ่งไปฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาแล้ว ต่อมาโจทก์ถอนฟ้องคดีอาญา เนื่องจากจำเลยตกลงขอผ่อนชำระหนี้ตามเช็ค จำเลยได้ชำระหนี้ตามเช็คอีกฉบับหนึ่งให้โจทก์แล้ว แต่จำเลยมิได้ผ่อนชำระหนี้ตามเช็คพิพาทให้โจทก์กรณีหาใช่เป็นเรื่องแก้ไขคำฟ้องโดยเพิ่มหรือลดจำนวนทุนทรัพย์หรือเพิ่มเติมฟ้องเดิมให้สมบูรณ์ โดยวิธีเสนอคำฟ้องเพิ่มเติมตาม ป.วิ.พ. มาตรา 179(1)(2) ไม่ แต่เป็นการเพิ่มเติมรายละเอียดเกี่ยวกับความเป็นมาของเช็คพิพาท จึงไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องขอแก้ไขในระยะเวลาที่กำหนดไว้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 180
จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทลงวันที่ 24 สิงหาคม 2527 เมื่อเช็คพิพาทถึงกำหนด โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงได้นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เมื่อโจทก์นำคดีมาฟ้องเรียกให้จำเลยรับผิดใช้เงินตามเช็คในวันที่ 27 สิงหาคม2528 ซึ่งพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันเช็คถึงกำหนดแล้ว คดีของโจทก์จึงขาดอายุความ.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1979/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คไม่มีเงินเพียงพอ แต่มีสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี และยินยอมจ่ายเงิน หากเรียกเก็บในวันออกเช็ค ถือไม่ผิด พ.ร.บ.เช็ค
จำเลยทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีไว้กับธนาคาร และออกเช็คลงวันที่ 20 มกราคม 2527 สั่งจ่ายเงินให้โจทก์ ในวันที่เช็คถึงกำหนดจำเลยโทรศัพท์ถึง จ. ผู้จัดการธนาคารตามเช็ค ขอให้จ่ายเงินตามเช็คพิพาท จ. ตกลงจะจ่ายให้ ถือได้ว่าในวันที่เช็คพิพาทถึงกำหนด จำเลยมีเงินในบัญชีพอจ่ายตามเช็คพิพาทได้ การที่โจทก์นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินในวันที่ 30 มกราคม 2527 และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยย่อมไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(เทียบนัยฎีกาที่ 1875/2527)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1979/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คไม่มีเงินในบัญชี แต่มีสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีและเจตนาให้ใช้เงินได้ ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีไว้กับธนาคาร และออกเช็คลงวันที่ 20 มกราคม 2527 สั่งจ่ายเงินให้โจทก์ ในวันที่เช็คถึงกำหนดจำเลยโทรศัพท์ถึง จ. ผู้จัดการธนาคารตามเช็ค ขอให้จ่ายเงินตามเช็คพิพาท จ. ตกลงจะจ่ายให้ ถือได้ว่าในวันที่เช็คพิพาทถึงกำหนด จำเลยมีเงินในบัญชีพอจ่ายตามเช็คพิพาทได้การที่โจทก์นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินในวันที่ 30 มกราคม2527 และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยย่อมไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(เทียบนัยฎีกาที่ 1875/2527).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1888/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แจ้งความเท็จ-เบิกความเท็จในคดีเช็ค: โจทก์เสียหายจากการถูกกล่าวหาว่านำเช็คไปแลกเงิน
โจทก์ออกเช็คให้แก่จำเลยเพื่อชำระเป็นเงินรางวัลสลากกินรวบและต่อมาได้แจ้งระงับการจ่ายเงินเพราะทราบความจริงว่าจำเลยมิได้ถูกรางวัลแต่จำเลยได้มอบอำนาจให้ ป. ไปแจ้งความ แล้วจำเลยไปให้การต่อพนักงานสอบสวนว่าโจทก์นำเช็คมาแลกเงินสดไปจากจำเลย เป็นเหตุให้โจทก์ถูกจับถูกควบคุมตัวระหว่างการสอบสวน และถูกฟ้องต่อศาล ทั้งจำเลยได้เบิกความเท็จดังกล่าว ซึ่งอาจทำให้ศาลในคดีนั้นเชื่อและลงโทษโจทก์ โจทก์จึงเป็นผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4) และมีอำนาจฟ้องจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ และเบิกความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1646/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสภาพหนี้เช็คของผู้สั่งจ่าย ผู้ทรงเช็คมีสิทธิเรียกร้องได้ แม้มีข้อตกลงภายในวงแชร์
จำเลยให้การรับว่าเป็นผู้ออกเช็คพิพาทและมิได้ปฏิเสธความเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบของโจทก์ เพียงแต่ให้การว่าเช็คดังกล่าวเกิดจากการเล่นแชร์และมีข้อตกลงกันเป็นพิเศษให้ใช้ได้เฉพาะผู้ที่เล่นแชร์ด้วยกัน แต่หัวหน้าวงแชร์กลับนำเช็คพิพาทไปชำระหนี้ส่วนตัวข้อตกลงดังกล่าวหากมีจริงก็ผูกพันเฉพาะหัวหน้าวงแชร์กับจำเลยเท่านั้น หามีผลถึงโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกไม่ คำให้การเช่นนี้จะถือว่าเป็นคำให้การต่อสู้ว่าหัวหน้าวงแชร์กับโจทก์ฉ้อฉลจำเลยไม่ได้จึงไม่มีประเด็นให้นำสืบ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1590/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบอำนาจร้องทุกข์ต้องเป็นไปตามข้อบังคับบริษัท และอายุความร้องทุกข์เช็ค
แม้การร้องทุกข์มิใช่การทำนิติกรรม แต่การมอบอำนาจให้ไปร้องทุกข์แทนโจทก์ โจทก์ก็ต้องทำให้ถูกต้องตามข้อบังคับของบริษัทโจทก์ที่ได้จดทะเบียนไว้ บริษัทโจทก์จดทะเบียนไว้ว่าจำนวนกรรมการที่ลงชื่อผูกพันบริษัทได้ คือ กรรมการจำพวก ก. 1นายกับกรรมการจำพวก ข. 1 นาย เมื่อกรรมการโจทก์เพียงผู้เดียวลงชื่อมอบอำนาจให้ ก. ไปร้องทุกข์ การมอบอำนาจจึงไม่ผูกพันบริษัทโจทก์ การกระทำของ ก. ไม่ผูกพันโจทก์ ในทางกลับกันบริษัทโจทก์ไม่สามารถถือเอาการกระทำของ ก. เป็นของโจทก์ได้ เมื่อโจทก์ไม่ได้ร้องทุกข์ในคดีความผิดต่อ พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ภายในสามเดือนนับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด คดีโจทก์ก็ขาดอายุความ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1539/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คระบุชื่อผู้รับเงินขีดคร่อมเฉพาะ ธนาคารจ่ายเงินเข้าบัญชีผู้สั่งจ่ายได้ หากไม่มีเสียหายต่อผู้รับเงิน
การที่ธนาคารจำเลยนำเช็คซึ่งระบุชื่อ โจทก์ เป็นผู้รับเงินและเป็นเช็คขีดคร่อมเฉพาะ มีคำสั่งในระหว่างเส้นขีดคร่อมนั้นว่าACCOUNTPAYEEONLY ไปเข้าบัญชีของจำเลยร่วม โดยกระทำไปตามคำสั่งของจำเลยร่วมซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการของโจทก์ มีอำนาจสั่งจ่ายเงินจากบัญชีของโจทก์ได้ ทั้งไม่ได้ความว่าการที่จำเลยไม่นำเงินตามเช็คดังกล่าวมาเข้าบัญชีโจทก์เป็นเหตุให้โจทก์ต้องเสียหาย ธนาคารจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คแก่โจทก์ เช็คที่มีข้อความครบถ้วนตามที่บัญญัติไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา 988แล้ว ถึงแม้จะใช้ถ้อยคำว่า "โปรดจ่าย" หรือใช้ถ้อยคำว่า"ให้ใช้เงิน" ก็ย่อมมีความหมายอย่างเดียวกันว่าให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คนั้นจึงเป็นเช็คที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1497/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คและการรับผิดของผู้สั่งจ่าย: สิทธิของผู้ทรงเช็คเมื่อผู้สั่งจ่ายออกเช็คแม้ยังไม่ได้รับชำระราคาสินค้า
ในการสั่งซื้อสินค้าบริษัทผู้ซื้อที่นิวยอร์คได้ใช้วิธีเปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต จำเลยที่ 1 ผู้ขายปฏิบัติผิดเงื่อนไขจึงรับเงินไม่ได้ การไม่ได้รับชำระราคาสินค้าจึงเป็นความผิดของจำเลยที่ 1 เอง โจทก์ซึ่งเป็นนายหน้าได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนครบถ้วน และส่งหลักฐานการขอรับเงินค่านายหน้าต่อจำเลยที่ 1แล้ว จำเลยที่ 1 ออกเช็คให้ เมื่อไม่มีข้อตกลงกันว่าจะไม่จ่ายค่านายหน้าถ้ายังไม่ได้รับชำระราคาสินค้า จำเลยที่ 1ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็ค.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานฉ้อโกงและการออกเช็คที่ไม่มีเงินรองรับ เป็นความผิดหลายกรรม
จำเลยหลอกลวงขอซื้อข้าวเปลือกจากโจทก์ร่วมโดยอ้างว่าตน มีเงินพอชำระค่าข้าวเปลือกได้ โจทก์ร่วมหลงเชื่อจึงมอบข้าวเปลือกที่ขายให้จำเลยไปในวันนั้น ต่อมาวันรุ่งขึ้นจำเลยออกเช็คโดยมีเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คมอบให้โจทก์ร่วมชำระหนี้ค่าข้าวเปลือกดังกล่าว ดังนี้ จำเลยหลอกลวงจนได้ทรัพย์ของโจทก์ร่วมอันเป็นความผิดสำเร็จฐานฉ้อโกง ตาม ป.อ. มาตรา 341 แล้ว การที่จำเลยได้ออกเช็คมอบให้โจทก์ร่วมในวันต่อมาจึงเป็นการกระทำต่างหากจากการกระทำอันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงในตอนต้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดหลายกรรม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงและการออกเช็คโดยไม่มีเจตนาให้ใช้ได้เป็นความผิดต่างกรรมกัน และการนับโทษต่อจากคดีอื่น
จำเลยหลอกลวงและได้ไปซึ่งทรัพย์ตามที่หลอกลวงจากผู้เสียหายอันเป็นความผิดสำเร็จฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341แล้ว ในวันต่อมาจึงได้ออกเช็คมอบให้ผู้เสียหายเพื่อเป็นการชำระหนี้โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คซึ่งถือได้ว่าเป็นการกระทำต่างหากจากการกระทำอันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงในตอนต้น เมื่อธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยจึงมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 มาตรา 3 อีกกรรมหนึ่ง
ส่วนที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์บรรยายฟ้องกำกวมก็ดี จำเลยไม่มีความผิดฐานฉ้อโกงก็ดี เมื่อฎีกาของจำเลยไม่มีสาระว่าฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5)อย่างไร ทั้งจำเลยก็รับสารภาพตามฟ้อง ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยให้
โจทก์ขอให้นับโทษต่อจากคดีอื่นของศาลชั้นต้นหลายคดี แต่ปรากฏจากคำร้องของโจทก์ว่าศาลพิพากษาลงโทษจำเลยแล้วเพียงคดีเดียว จึงนับโทษต่อได้เฉพาะคดีดังกล่าวเท่านั้น.
of 187