พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,243 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1974/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญา: เจ้าของรถไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง
โจทก์เป็นเจ้าของรถโดยสาร จำเลยขับรถชนรถโจทก์ขณะลูกจ้างโจทก์เป็นคนขับดังนี้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 336(15) และตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกได้ โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1943/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและการหมิ่นประมาท: การกระทำต้องมุ่งต่อผู้เสียหายโดยตรง
ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานตาม ม.119 นั้น ผู้กระทำผิดต้องกระทำแก่เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมายดังนี้ เมื่อจำเลยกระทำการต่อสู้หรือขัดขวางแก่พนักงานเทศบาล มิได้กระทำต่อโจทก์(อดีตนายกเทศมนตรี) เป็นส่วนตัว โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย คำว่า"มันเที่ยวฟ้องคนทั้งบ้านทั้งเมือง" นั้น หาใช่เป็นคำใส่ความตามมาตรา 282 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1943/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและหมิ่นประมาท: ผู้เสียหายต้องเป็นผู้ถูกกระทำโดยตรง
ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานตามมาตรา 119 นั้นผู้กระทำผิดต้องกระทำแก่เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมายดังนี้ เมื่อจำเลยกระทำการต่อสู้หรือขัดขวางแก่พนักงานเทศบาล มิได้กระทำต่อโจทก์(อดีตนายกเทศมนตรี)เป็นส่วนตัว โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย
คำว่า "มันเที่ยวฟ้องคนทั้งบ้านทั้งเมือง" นั้นหาใช่เป็นคำใส่ความตามมาตรา 282 ไม่
คำว่า "มันเที่ยวฟ้องคนทั้งบ้านทั้งเมือง" นั้นหาใช่เป็นคำใส่ความตามมาตรา 282 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1828-1829/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวิวาทต่อเนื่องและการมีอำนาจฟ้องของโจทก์ที่ไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรง
ทำร้ายกันในขณะทำการวิวาทยังไม่ขาดตอน ต้องถือว่าเป็นการกระทำต่อเนื่องกัน กรณีวิวาทกันผู้ที่วิวาทกันไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงเป็นโจทก์ฟ้องไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249,60 ให้จำคุก 10 ปี ลดตามมาตรา 59 เสีย 1 ใน3 คงจำคุก 6 ปี 8 เดือน เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยทำผิดโดยถูกยั่วโทสะ จึงแก้ให้ลดโทษตามมาตรา 55 กึ่งหนึ่ง เช่นนี้เป็นการแก้มาก คู่ความย่อมฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คดีที่ศาลพิจารณารวมกัน มีอุทธรณ์ขึ้นมาเฉพาะคดีเดียวคู่ความในคดีที่ไม่ได้อุทธรณ์ จะมาฎีกาในชั้นฎีกาไม่ได้ เพราะคดีนั้นถึงที่สุดแล้ว
คดีที่มีการพิจารณารวมกันศาลลงโทษบทหนักตามฟ้องคดีหนึ่งมีอุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาเฉพาะคดีที่ศาลลงโทษบทหนักนี้คดีที่ไม่มีอุทธรณ์ฎีกาก็เป็นอันยุติ เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่มีความผิดในคดีที่ฎีกาขึ้นมา ศาลก็พิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยไป
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249,60 ให้จำคุก 10 ปี ลดตามมาตรา 59 เสีย 1 ใน3 คงจำคุก 6 ปี 8 เดือน เมื่อศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยทำผิดโดยถูกยั่วโทสะ จึงแก้ให้ลดโทษตามมาตรา 55 กึ่งหนึ่ง เช่นนี้เป็นการแก้มาก คู่ความย่อมฎีกาในข้อเท็จจริงได้
คดีที่ศาลพิจารณารวมกัน มีอุทธรณ์ขึ้นมาเฉพาะคดีเดียวคู่ความในคดีที่ไม่ได้อุทธรณ์ จะมาฎีกาในชั้นฎีกาไม่ได้ เพราะคดีนั้นถึงที่สุดแล้ว
คดีที่มีการพิจารณารวมกันศาลลงโทษบทหนักตามฟ้องคดีหนึ่งมีอุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาเฉพาะคดีที่ศาลลงโทษบทหนักนี้คดีที่ไม่มีอุทธรณ์ฎีกาก็เป็นอันยุติ เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยไม่มีความผิดในคดีที่ฎีกาขึ้นมา ศาลก็พิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตคำขอของอัยการและผู้เสียหายในการอุทธรณ์โทษอาญา: ศาลฎีกาพิจารณาจากคำขอให้ลงโทษหนักได้
อัยการและผู้เสียหายต่างอุทธรณ์ด้วยกัน โดยผู้เสียหายขอให้ศาลอุทธรณ์อย่ารอการลงโทษแก่จำเลย อัยการขอให้ศาลอุทธรณ์ลงโทษให้หนักขึ้น ดังนี้ศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิพากษาตามคำขอของอัยการได้ ไม่เป็นการเกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1587/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตคำขอของอัยการและผู้เสียหายในคดีอาญา: ศาลใช้ดุลพินิจลงโทษตามคำขอที่หนักกว่าได้
อัยการและผู้เสียหายต่างอุทธรณ์ด้วยกัน โดยผู้เสียหายขอให้ศาลอุทธรณ์อย่ารอการลงโทษแก่จำเลย อัยการขอให้ศาลอุทธรณ์ลงโทษให้หนักขึ้น ดังนี้ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิพากษาตามคำขอของอัยการได้ ไม่เป็นการเกินคำขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 785/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หมิ่นประมาททางหนังสือ แม้ไม่ระบุชื่อโดยตรง ก็ถือเป็นความผิด หากพิสูจน์ได้ว่าหมายถึงผู้เสียหาย และไม่มีเหตุยกเว้นตามกฎหมาย
หมิ่นประมาทเขาทางหนังสือ แม้ในหนังสือจะมิได้กล่าวเจาะจงถึงผู้เสียหายโดยตรง คือกล่าวว่าเป็นการสุดแสนจะ ทนดูพวกมหาดไทยเล่นสกปรกต่อไป ฯลฯ นั้น เมื่อทางพิจารณาได้ความว่า พวกมหาดไทยนั้นจำเลยหมายถึงผู้เสีย หายดังนี้ จำเลยก็ย่อมมีผิดฐานหมิ่นประมาทผู้เสียหาย.
การที่จะได้รับยกเว้นตามมาตรา 283 นั้น จะต้องเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต อันต้องด้วยลักษณะอย่างใด อย่างหนึ่งตามมาตรา 283 ถ้าเป็นเรื่องใส่ความโดยปราศจากความจริงแล้วไม่เป็นข้อแก้ตัว./
การที่จะได้รับยกเว้นตามมาตรา 283 นั้น จะต้องเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต อันต้องด้วยลักษณะอย่างใด อย่างหนึ่งตามมาตรา 283 ถ้าเป็นเรื่องใส่ความโดยปราศจากความจริงแล้วไม่เป็นข้อแก้ตัว./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 785/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หมิ่นประมาททางหนังสือ แม้ไม่ระบุชื่อโดยตรง หากพยานหลักฐานแสดงถึงตัวผู้เสียหาย ก็ถือว่ามีความผิด
หมิ่นประมาทเขาทางหนังสือแม้ในหนังสือจะมิได้กล่าวเจาะจงถึงผู้เสียหายโดยตรง คือกล่าวว่าเป็นการสุดแสนจะทนดูพวกมหาดไทยเล่นสกปรกต่อไปฯลฯนั้นเมื่อทางพิจารณาได้ความว่า พวกมหาดไทยนั้นจำเลยหมายถึงผู้เสียหายดังนี้จำเลยก็ย่อมมีผิดฐานหมิ่นประมาทผู้เสียหาย
การที่จะได้รับยกเว้นตามมาตรา 283 นั้น จะต้องเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต อันต้องด้วยลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา 283 ถ้าเป็นเรื่องใส่ความโดยปราศจากความจริงแล้วไม่เป็นข้อแก้ตัว
การที่จะได้รับยกเว้นตามมาตรา 283 นั้น จะต้องเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต อันต้องด้วยลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา 283 ถ้าเป็นเรื่องใส่ความโดยปราศจากความจริงแล้วไม่เป็นข้อแก้ตัว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 601/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีทำร้ายร่างกายสาหัส ผู้เสียหายถูกทำร้ายด้วยมีดบาดเจ็บสาหัสและต้องรักษาตัวนาน ศาลพิจารณาโทษลดลงเนื่องจากผู้เสียหายเป็นฝ่ายก่อเหตุ
ผู้เสียหายถูกทำร้ายโดยมีดโต้ มีบาดแผลถึง 7 แผล ต้องนอนรักษาตัวอยู่นานถึง 1 เดือน 19 วัน จึงพอทุเลาลุกนั่งได้ระหว่างนั้น ทำการงานอะไรไม่ได้เลย แผลที่ 1 คือกลางหลังกว้าง 5 ซ.ม.ยาว 8 ซ.ม. ทลุกลวงแพทย์ผู้รักษาว่า ถ้ารักษาไม่ทันท่วงทีหรือไม่ดีอาจถึงตายได้ทั้งจำเลยก็มิได้นำสืบโต้แย้งอย่างไร ดังนี้ต้องถือว่าเป็นบาดแผลเข้าลักษณะที่ไม่สามารถประกอบการงานตามปกติได้เกินกว่า20 วัน เป็นบาดแผลสาหัสตามมาตรา256(8)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 303/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีขัดขวางเจ้าพนักงาน: ผู้เสียหายต้องเป็นผู้ถูกกระทำโดยตรง
ความผิดฐานต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 119 นั้นไม่ถือว่าเอกชนเป็นผู้เสียหายโดยตรง เอกชนจึงไม่มีอำนาจฟ้อง.
ราษฎรพาเจ้าพนักงานที่ดินไปทำแผนที่ในคดีแพ่งเรื่องหนึ่ง จำเลยขัดขวางไม่ยอมให้เจ้าพนักงานที่ดินทำการรังวัดจนเจ้าพนักงานที่ดินต้องงดทำแผนที่ไว้ ดังนี้ แม้ราษฎรผู้นั้นจะเสียหาย ก็ไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยตามก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 119./
ราษฎรพาเจ้าพนักงานที่ดินไปทำแผนที่ในคดีแพ่งเรื่องหนึ่ง จำเลยขัดขวางไม่ยอมให้เจ้าพนักงานที่ดินทำการรังวัดจนเจ้าพนักงานที่ดินต้องงดทำแผนที่ไว้ ดังนี้ แม้ราษฎรผู้นั้นจะเสียหาย ก็ไม่มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยตามก.ม. ลักษณะอาญามาตรา 119./