คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจ้าพนักงาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,471 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 369/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์: การกระทำความผิดสำเร็จเมื่อมีเจตนายักยอก แม้จะมีการส่งมอบทรัพย์ต่อ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยใช้อำนาจตำแหน่งหน้าที่ในทางทุจริตสมคบกันยักยอกทองคำแท่งที่หนีภาษีได้แล้วปล่อยผู้ต้องหาไปดังนี้แม้ทางพิจารณาจะปรากฏว่ามิใช่ทองคำแท่งที่หนีภาษีมาก็ดีก็ยังไม่เรียกว่าข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับฟ้องเพราะทองคำของกลางจะเป็นของหนีภาษีหรือไม่ไม่สำคัญและคดีนี้เป็นคดีอาญาแผ่นดินอัยการโจทก์มีอำนาจฟ้องและเมื่อจำเลยรับทองของกลางจากผู้ต้องหาแล้ว เจตนาทุจริตยักยอกไปเป็นประโยชน์ของตนเสียก็เป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์แล้ว จำเลยจะส่งจำหน่ายทองของกลางนั้นต่อไปอย่างไรไม่สำคัญ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 300/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งต้องชัดเจนบังคับมิใช่แค่แนะนำ หากเจ้าพนักงานกระทำผิดตามความเห็นตนเอง ต้องรับผิดชอบ
คำสั่งต้องเป็นคำบังคับ มิใช่คำแนะนำซึ่งผู้รับจะกระทำหรือไม่ ก็แล้วความตกลงใจของผู้นั้น ผู้ใหญ่บ้านพูดว่า "นายบัวมันบ้า ๆ บอ ๆ ให้จำเลยไปเอามาดีกว่า เป็นเจ้าพนักงานมันจะได้กลัว" เพียงแค่นี้ยังถือไม่ได้ว่าผู้ใหญ่บ้านมีคำสั่งให้จำเลยไปทำการจับกุมนายบัวมา โดยใช้อำนาจบังคับ หากแต่เป็นการแนะนำจำเลยว่าจำเลยควรจะไปเอามาดีกว่า เพราะจำเลยเป็นเจ้าพนักงาน(นายตรวจสรรพสามิตต์) ผู้ใหญ่บ้านกลับมาแอบอ้างอำนาจจำเลยเสียเอง เพื่อให้นายบัวกลัว เมื่อจำเลยขึ้นไปบนบ้านผู้เสียหายและบังคับตบตี นำผู้เสียหายมาเช่นนี้ จำเลยก็ต้องมีความผิดตาม ม. 329 และ 270 จะอ้างว่ากระทำไปตามคำสั่งของเจ้าพนักงานให้พ้นผิดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 300/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งต้องชัดเจนบังคับ มิใช่แค่แนะนำ หากเจ้าพนักงานอ้างอำนาจผู้อื่นเพื่อข่มขู่ ไม่ถือเป็นคำสั่ง
คำสั่งต้องเป็นคำบังคับมิใช่คำแนะนำซึ่งผู้รับจะกระทำหรือไม่ก็แล้วความตกลงใจของผู้นั้น
ผู้ใหญ่บ้านพูดว่า 'นายบัวมันบ้าๆบอๆ ให้จำเลยไปเอามาดีกว่าเป็นเจ้าพนักงานมันจะได้กลัว'เพียงแค่นี้ยังถือไม่ได้ว่าผู้ใหญ่บ้านมีคำสั่งให้จำเลยไปทำการจับกุมนายบัวมาโดยใช้อำนาจบังคับหากแต่เป็นการแนะนำจำเลยว่าจำเลยควรจะไปเอามาดีกว่า เพราะจำเลยเป็นเจ้าพนักงาน(นายตรวจสรรพสามิต) ผู้ใหญ่บ้านกลับมาแอบอ้างอำนาจจำเลยเสียเองเพื่อให้นายบัวกลัว
เมื่อจำเลยขึ้นไปบนบ้านผู้เสียหายและบังคับตบตี นำผู้เสียหายมาเช่นนี้ จำเลยก็ต้องมีความผิดตาม มาตรา 329,และ 270 จะอ้างว่ากระทำไปตามคำสั่งของเจ้าพนักงานให้พ้นผิดไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 184/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตายและประเด็นการกระทำตามหน้าที่ของเจ้าพนักงาน
จำเลยใช้ไม้สากตำข้าวโตเท่าแข้งยาว 1 วาตีลงกลางศีร์ษะผู้ตายโดยแรง เป็นบาดแผลยาว 11 ซม. กว้าง 6 ซม. ดังนี้จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา แม้ผู้ตายเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แต่ข้อเท็จจริงไม่ได้ความว่าการที่ผู้ตายเข้าจับกุมจำเลยนั้น ผู้ตายได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่บ้านให้กระทำ ผู้ตายกระทำไปโดยลำพังเช่นนี้ จึงไม่เป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่ของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ตาม ม. 28 ทวิ แห่ง พ.ร.บ. ปกครองท้องที่ พ.ศ.2457แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่2) พ.ศ.2486 ม.7 จำเลยจึงผิดตาม ม.249 ไม่ใช่ ม.250 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 184/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย ศาลพิจารณาความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา และการกระทำต่อเจ้าพนักงาน
จำเลยใช้ไม้สากตำข้าวโตเท่าแข้งยาว 1 วาตีลงกลางศีรษะผู้ตายโดยแรง เป็นบาดแผลยาว 11 ซม. กว้าง6ซม.ดังนี้จำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
แม้ผู้ตายเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแต่ข้อเท็จจริงไม่ได้ความว่าการที่ผู้ตายเข้าจับกุมจำเลยนั้น ผู้ตายได้รับมอบหมายจากผู้ใหญ่บ้านให้กระทำผู้ตายกระทำไปโดยลำพังเช่นนี้จึงไม่เป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่ของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ตาม มาตรา 28 ทวิ แห่ง พระราชบัญญัติปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)พ.ศ.2486 มาตรา 7 จำเลยจึงผิดตาม มาตรา 249 ไม่ใช่ มาตรา 250(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1727/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานใช้อำนาจเกินหน้าที่และอนุญาตตัดไม้โดยมิชอบ ไม่ถือเป็นความผิดตาม ม.129 อาญา
จะมีความผิดตาม ก.ม.อาญา ม.129 ก็ต่อเมื่อได้ความว่าผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ท่านใช้ให้มีหน้าที่ปกครองหรือพิทักษ์รักษาทรัพย์หรือหนังสืออย่างใดใด ถ้ามันมิได้มีอำนาจที่จะทำได้โดยชอบด้วย ก.ม.และมันทำลายทรัพย์หรือหนังสือนั้น ๆ หรือ ทำให้วิปลาศ บุบสลายหรือมันยอมให้ผู้อื่นกระทำเช่นนั้น โดยมันรู้เห็นเป็นใจด้วยก็ดี จึงจะมีความผิด
เมื่อได้ความว่าจำเลยเป็นผู้รักษาการป่าไม้อำเภอ อนุญาตให้ผู้มีชื่อตัดไม้โดยไม่อยู่ในอำนาจที่จะอนุญาตได้เพียงเท่านี้จึงไม่ใช่เรื่องเจตนาทำลายทรัพย์หรือหนังสืออย่างใดตามความใน ม.129 และเมื่อคดีไม่มีปัญหาที่จะวินิจฉัยว่าจำเลยจะมีความผิดสถานอื่นอีกหรือไม่ เพราะไม่มีฝ่ายใดฎีกา คดีจึงไม่มีทางลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1727/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานอนุญาตตัดไม้เกินอำนาจ ไม่ถึงเจตนาทำลายทรัพย์ ไม่ผิด ม.129 อาญา
จะมีความผิดตาม กฎหมายอาญา มาตรา 129 ก็ต่อเมื่อได้ความว่าผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ท่านใช้ให้มีหน้าที่ปกครองหรือพิทักษ์รักษาทรัพย์หรือหนังสืออย่างใดใด ถ้ามันมิได้มีอำนาจที่จะทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และมันทำลายทรัพย์หรือหนังสือนั้นๆ หรือทำให้วิปลาสบุบสลายหรือมันยอมให้ผู้อื่นกระทำเช่นนั้นโดยมันรู้เห็นเป็นใจด้วยก็ดี จึงจะมีความผิด
เมื่อได้ความว่าจำเลยเป็นผู้รักษาการป่าไม้อำเภอ อนุญาตให้ผู้มีชื่อตัดไม้โดยไม่อยู่ในอำนาจที่จะอนุญาตได้เพียงเท่านี้จึงไม่ใช่เรื่องเจตนาทำลายทรัพย์หรือหนังสืออย่างใดตามความใน มาตรา 129 และเมื่อคดีไม่มีปัญหาที่จะวินิจฉัยว่าจำเลยจะมีความผิดสถานอื่นอีกหรือไม่เพราะไม่มีฝ่ายใดฎีกา คดีจึงไม่มีทางลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1727/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานอนุญาตตัดไม้เกินอำนาจ ไม่ถือเป็นทำลายทรัพย์สินตาม ม.129 อาญา
จะมีความผิดตาม กฎหมายอาญา มาตรา 129 ก็ต่อเมื่อได้ความว่าผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ท่านใช้ให้มีหน้าที่ปกครองหรือพิทักษ์รักษาทรัพย์หรือหนังสืออย่างใดใด ถ้ามันมิได้มีอำนาจที่จะทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และมันทำลายทรัพย์หรือหนังสือนั้นๆ หรือทำให้วิปลาสบุบสลายหรือมันยอมให้ผู้อื่นกระทำเช่นนั้นโดยมันรู้เห็นเป็นใจด้วยก็ดี จึงจะมีความผิด
เมื่อได้ความว่าจำเลยเป็นผู้รักษาการป่าไม้อำเภอ อนุญาตให้ผู้มีชื่อตัดไม้โดยไม่อยู่ในอำนาจที่จะอนุญาตได้เพียงเท่านี้จึงไม่ใช่เรื่องเจตนาทำลายทรัพย์หรือหนังสืออย่างใดตามความใน มาตรา 129 และเมื่อคดีไม่มีปัญหาที่จะวินิจฉัยว่าจำเลยจะมีความผิดสถานอื่นอีกหรือไม่เพราะไม่มีฝ่ายใดฎีกา คดีจึงไม่มีทางลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1663/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยึดทรัพย์และการรักษาทรัพย์บังคับคดี: เจ้าพนักงานตำรวจไม่ใช่เจ้าพนักงานบังคับคดี
ตำรวจไม่ใช่เจ้าพนักงานบังคับคดีตาม ก.ม.(ป.วิ.แพ่ง ม.1(14))
ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระข้าวค่าเช่าหรือเงินแก่โจทก์จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบังคับตามคำพิพากษา โจทก์นำเจ้าพนักงานไปยึดทรัพย์(ข้าว) จำเลยแล้ว แต่การยึดขัดข้องเพราะโจทก์ไม่สามารถหาคนรักษา แทนที่โจทก์จะดำเนินการตามวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.303(2) เกี่ยวกับเรื่องยึดทรัพย์ โจทก์กลับยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ตำรวจเป็นผู้รักษาทรัพย์ต่อไป เมื่อตำรวจตอบขัดข้องเพราะกำลังไม่พอประกอบกับมีเหตุพอสันนิษฐานได้ว่าข้าวในนาจำเลยได้เกี่ยวไปหมดแล้วเช่นนี้ คดีของโจทก์ก็ไม่มีทางที่จะสั่งประการใดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1662/2498

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คนต่างด้าวที่ใบสำคัญหมดอายุ ไม่ต้องพกใบสำคัญนั้นแสดงต่อเจ้าพนักงาน
คนต่างด้าวซึ่งมีใบสำคัญประจำตัว แต่ว่าขาดอายุแล้วนั้นไม่จำต้องนำใบสำคัญที่ใช้ไม่ได้นั้นติดตัวไปไว้เพื่อแสดงต่อเจ้าพนักงานตาม มาตรา 17 ด้วย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวและฐานไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไว้แสดงต่อเจ้าพนักงานศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยทั้งสองกระทง โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ในกระทงไม่ต่ออายุศาลอุทธรณ์พิพากษายกโจทก์และจำเลยฎีกาต่อมา ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ในกระทงความผิดฐานไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวไว้แสดงต่อเจ้าพนักงานด้วยได้
of 148