พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,178 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 53/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเรื่องการแบ่งที่ดิน เจ้าของรวมตกลงแบ่งแยกไม่เป็นผล ศาลต้องฟังข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
ปรากฏตามฟ้องโจทก์ว่าจำเลยโจทก์ตกลงแบ่งแยกที่ดินกันแล้วแต่ครั้นเวลานำเจ้าพนักงานไปรังวัดกลับรังวัดเปลี่ยนทิศทางไปเสียไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้ ฝ่ายจำเลยว่าไม่ได้รังวัดผิดทิศทางเดิม รังวัดไปตามข้อตกลงแต่เพราะการรังวัดแบ่งแยกเป็นเหตุให้โจทก์ต้องรื้อครัวไฟ ปรากฏตามคำแถลงคู่ความรับกันว่าจำเลยมีสิทธิครึ่งหนึ่งในที่พิพาท อีกครึ่งหนึ่งเป็นของโจทก์ทั้งสองเรือนโจทก์ปลูกมา 10 ปีแล้ว การแบ่งตามที่จำเลยว่าจะต้องผ่ากลางห้องทิศตะวันออกและครัวทั้งหลังของโจทก์ไปโจทก์ว่าที่ลงนามยินยอมแบ่งเพราะเข้าใจผิดไปว่าเป็นไปตามคำขอเดิม คือไม่ต้องรื้อเรือนและว่าตามคำขอเดิมและคำขอใหม่โจทก์จำเลยได้ที่เปลี่ยนทิศทางไปหมด เช่นนี้ถือว่าฟ้องโจทก์และคำให้การของจำเลยโต้แย้งกันอยู่อย่างตรงกันข้ามในเรื่องการตกลงใหม่และการรังวัดแบ่งแยกเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือไม่ประการใดทั้งคำแถลงของคู่ความยังไม่มีอะไรเพียงพอที่จะชี้ขาดพิพากษาคดีเรื่องนี้ได้ ศาลไม่ควรด่วนสั่งงดสืบพยานเพราะคดีจำเป็นต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไปว่า โจทก์จำเลยได้ทำความตกลงกันเป็นสัญญาหรือไม่อย่างไรแน่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 53/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทเรื่องการแบ่งแยกที่ดิน เจ้าของร่วมตกลงกันหรือไม่เป็นสาระสำคัญในการวินิจฉัย
ปรากฏตามฟ้องโจทก์ว่าจำเลยโจทก์ตกลงแบ่งแยกที่ดินกันแล้วแต่ครั้นเวลานำเจ้าพนักงานไปรังวัดกลับรังวัดเปลี่ยนทิศทางไปเสียไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้ฝ่ายจำเลยว่าไม่ได้รังวัดผิดทิศทางเดิมรังวัดไปตามข้อตกลงแต่เพราะการรังวัดแบ่งแยกเป็นเหตุให้โจทก์ต้องรื้อครัวไฟปรากฏตามคำแถลงคู่ความรับกันว่าจำเลยมีสิทธิครึ่งหนึ่งในที่พิพาทอีกครึ่งหนึ่งเป็นของโจทก์ทั้งสองเรือนโจทก์ปลูกมา 10ปีแล้ว การแบ่งตามที่จำเลยว่าจะต้องผ่ากลางห้องทิศตะวันออกและครัวทั้งหลังของโจทก์ไปโจทก์ว่าที่ลงนามยินยอมแบ่งเพราะเข้าใจผิดไปว่าเป็นไปตามคำขอเดิม คือไม่ต้องรื้อเรือนและว่าตามคำขอเดิมและคำขอใหม่โจทก์จำเลยได้ที่เปลี่ยนทิศทางไปหมดเช่นนี้ถือว่าฟ้องของโจทก์และคำให้การของจำเลยโต้แย้งกันอยู่อย่างตรงกันข้ามในเรื่องการตกลงใหม่และการรังวัดแบ่งแยกเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือไม่ประการใดทั้งคำแถลงของคู่ความยังไม่มีอะไรเพียงพอที่จะชี้ขาดพิพากษาคดีเรื่องนี้ได้ศาลไม่ควรด่วนสั่งงดสืบพยานเพราะคดีจำเป็นต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไปว่าโจทก์จำเลยได้ทำความตกลงกันเป็นสัญญาหรือไม่อย่างไรแน่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงระหว่างคู่ความในการดำเนินคดี และการท้าประเด็นการนำสืบพยาน
การที่คู่ความตกลงกันเกี่ยวกับการที่จำดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปอย่างไร ก็ย่อมมีผลบังคับได้
เมื่อโจทก์มิได้คัดค้านข้อที่ว่า "การท้านประเด็นจะต้องทำต่อหน้าคู่ความ" มาเสียแต่ชั้นต้นแล้วจะมากล่าว้างในชั้นฎีกาหาได้ไม่.
เมื่อโจทก์มิได้คัดค้านข้อที่ว่า "การท้านประเด็นจะต้องทำต่อหน้าคู่ความ" มาเสียแต่ชั้นต้นแล้วจะมากล่าว้างในชั้นฎีกาหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 515/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงระหว่างคู่ความมีผลผูกพัน & การท้าประเด็นต้องทำต่อหน้าศาล
การที่คู่ความตกลงกันเกี่ยวกับการที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปอย่างไร ก็ย่อมมีผลบังคับได้
เมื่อโจทก์มิได้คัดค้านข้อที่ว่า'การท้าประเด็นจะต้องทำต่อหน้าคู่ความ'มาเสียแต่ชั้นต้นแล้วจะมากล่าวอ้างในชั้นฎีกาหาได้ไม่
เมื่อโจทก์มิได้คัดค้านข้อที่ว่า'การท้าประเด็นจะต้องทำต่อหน้าคู่ความ'มาเสียแต่ชั้นต้นแล้วจะมากล่าวอ้างในชั้นฎีกาหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 50/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงเช่าทรัพย์สิน: การเปลี่ยนแปลงข้อความในสัญญาเช่าที่ทำเป็นหนังสือ
การเช่าโรงเก็บสินค้าและการเช่าที่ดิน กฎหมายบังคับว่าต้องทำเป็นหนังสือตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538
ส่วนสัญญาเช่ามีข้อความชัดเจนว่าจำเลยตกลงรับเช่าโรงหลังคาสังกะสีซึ่งเป็นของโจทก์ ไม่ใช่แต่เพียงที่ดินเพื่อไปปลูกสร้างโรงขึ้นเองสัญญาเช่านี้ฝ่ายจำเลยรับรองว่าได้เซ็นชื่อเป็นผู้เช่านั้นในสัญญาเช่านั้นจริงดังนี้การที่จำเลยจะขอสืบว่าไม่ได้เช่าโรงเก็บสินค้าของโจทก์เช่าแต่ที่ดินเท่านั้น ถือว่าเป็นการขอสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารนั้น ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา94
จำเลยให้การต่อสู้แต่เพียงว่าจำเลยเช่าที่ดินไม่ใช่เช่าโรงเรือน สัญญาไม่ถูกต้องเฉยๆ เท่านี้มิได้แสดงโดยแจ้งชัดว่าไม่ถูกต้องอย่างไรเมื่อเอกสารสัญญาเช่ามีข้อความแจ้งชัดอยู่แล้วเช่นนี้จำเลยจะขอนำสืบให้เป็นอื่นได้ต่อเมื่อจำเลยได้กล่าวอ้างแสดงเหตุผลเป็นข้อต่อสู้โดยแน่ชัดว่ากรณีต้องด้วยข้อยกเว้นประการใดตาม มาตรา 94วรรคท้ายแต่กรณีนี้ไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นใน มาตรา94วรรคท้าย จำเลยจึงนำสืบไม่ได้ทั้ง กฎหมาย มิให้ศาลรับฟังเป็นพยานบุคคลในพฤติการณ์ดังกล่าว แม้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งจะได้ยินยอมให้นำสืบกันได้ก็ดี (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2499)
ส่วนสัญญาเช่ามีข้อความชัดเจนว่าจำเลยตกลงรับเช่าโรงหลังคาสังกะสีซึ่งเป็นของโจทก์ ไม่ใช่แต่เพียงที่ดินเพื่อไปปลูกสร้างโรงขึ้นเองสัญญาเช่านี้ฝ่ายจำเลยรับรองว่าได้เซ็นชื่อเป็นผู้เช่านั้นในสัญญาเช่านั้นจริงดังนี้การที่จำเลยจะขอสืบว่าไม่ได้เช่าโรงเก็บสินค้าของโจทก์เช่าแต่ที่ดินเท่านั้น ถือว่าเป็นการขอสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารนั้น ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา94
จำเลยให้การต่อสู้แต่เพียงว่าจำเลยเช่าที่ดินไม่ใช่เช่าโรงเรือน สัญญาไม่ถูกต้องเฉยๆ เท่านี้มิได้แสดงโดยแจ้งชัดว่าไม่ถูกต้องอย่างไรเมื่อเอกสารสัญญาเช่ามีข้อความแจ้งชัดอยู่แล้วเช่นนี้จำเลยจะขอนำสืบให้เป็นอื่นได้ต่อเมื่อจำเลยได้กล่าวอ้างแสดงเหตุผลเป็นข้อต่อสู้โดยแน่ชัดว่ากรณีต้องด้วยข้อยกเว้นประการใดตาม มาตรา 94วรรคท้ายแต่กรณีนี้ไม่ต้องด้วยข้อยกเว้นใน มาตรา94วรรคท้าย จำเลยจึงนำสืบไม่ได้ทั้ง กฎหมาย มิให้ศาลรับฟังเป็นพยานบุคคลในพฤติการณ์ดังกล่าว แม้คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งจะได้ยินยอมให้นำสืบกันได้ก็ดี (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2499)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้ำประกันและการผ่อนเวลาชำระหนี้ ข้อตกลงพิเศษในสัญญาค้ำประกันมีผลผูกพันผู้ค้ำประกัน
เรื่องกู้หนี้กันตามธรรมดาถ้าเจ้าหนี้ผ่อนเวลาชำระหนี้แก่ลูกหนี้ โดยผู้ค้ำประกันมิได้ตกลงด้วยแล้วผู้ค้ำประกันก็ย่อมหลุดพ้นจากความรับผิด
แต่สำหรับเรื่องขอกู้เบิกเงินเกินบัญชีกับธนาคารในคดีนี้ ผู้ค้ำประกันทำสัญญาไว้ว่าการผ่อนเวลาชำระหนี้แม้จะไม่ได้รับแจ้งก็ไม่เป็นเหตุให้ปลดเปลื้องความรับผิดของผู้ค้ำประกันแล้วในเมื่อธนาคารผ่อนเวลาชำระหนี้และการกู้เบิกเงินเกินบัญชีแก่ผู้เบิกในครั้งหลังจะมิได้แจ้งให้ผู้ค้ำประกันทราบและผู้ค้ำประกันมิได้ลงชื่อรับรองดังครั้งก่อนก็ดี ผู้ค้ำประกันก็จำต้องผูกพันตามสัญญาที่ทำกันไว้หาทำให้หลุดพ้นจากความรับผิดชอบไปได้ไม่.
แต่สำหรับเรื่องขอกู้เบิกเงินเกินบัญชีกับธนาคารในคดีนี้ ผู้ค้ำประกันทำสัญญาไว้ว่าการผ่อนเวลาชำระหนี้แม้จะไม่ได้รับแจ้งก็ไม่เป็นเหตุให้ปลดเปลื้องความรับผิดของผู้ค้ำประกันแล้วในเมื่อธนาคารผ่อนเวลาชำระหนี้และการกู้เบิกเงินเกินบัญชีแก่ผู้เบิกในครั้งหลังจะมิได้แจ้งให้ผู้ค้ำประกันทราบและผู้ค้ำประกันมิได้ลงชื่อรับรองดังครั้งก่อนก็ดี ผู้ค้ำประกันก็จำต้องผูกพันตามสัญญาที่ทำกันไว้หาทำให้หลุดพ้นจากความรับผิดชอบไปได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1696/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงประนีประนอมทางการแพ่ง: การคืนกระบือและเงินกู้ ไม่ใช่การพนัน
โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้กับดอกเบี้ย 2,037 บาท จำเลยต่อสู้ว่าความจริงจำเลยตกลงซื้อกระบือ 2 ตัวราคา 2,000บาท โดยโจทก์ผ่อนชำระภายในเดือน 3 ทุกๆ ปี โจทก์ให้จำเลยทำเป็นสัญญากู้ให้ไว้ เมื่อจำเลยชำระราคากระบือแล้วจะคืนสัญญาให้
วันชี้ คู่ความท้ากันว่าขอให้สืบนายเลี่ยม ถ้าให้การว่ากระบือรายนี้ตกอยู่แก่จำเลยก่อนเดือน 11 พ.ศ.2497 แล้ว จำเลยยอมคืนกระบือ 2 ตัวกับเงิน 2,000 บาทถ้าให้การว่าเพิ่งตกอยู่กับจำเลยเมื่อเดือน 11 พ.ศ.2498นี้เอง จำเลยยอมคืนกระบือให้โจทก์ 2 ตัวอย่างเดียว
ดังนี้เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยคืนกระบือ 2 ตัว กับเงิน 2,000 บาทให้โจทก์ตามที่คู่ความแถลงตกลงกันในชั้นชี้สองสถาน จึงไม่ใช่การพนันขันต่อเป็นเรื่องทำความประนีประนอมกันให้ศาลพิพากษา เช่นนี้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 และ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา138 ไม่เป็นการพิพากษานอกคำฟ้อง
วันชี้ คู่ความท้ากันว่าขอให้สืบนายเลี่ยม ถ้าให้การว่ากระบือรายนี้ตกอยู่แก่จำเลยก่อนเดือน 11 พ.ศ.2497 แล้ว จำเลยยอมคืนกระบือ 2 ตัวกับเงิน 2,000 บาทถ้าให้การว่าเพิ่งตกอยู่กับจำเลยเมื่อเดือน 11 พ.ศ.2498นี้เอง จำเลยยอมคืนกระบือให้โจทก์ 2 ตัวอย่างเดียว
ดังนี้เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยคืนกระบือ 2 ตัว กับเงิน 2,000 บาทให้โจทก์ตามที่คู่ความแถลงตกลงกันในชั้นชี้สองสถาน จึงไม่ใช่การพนันขันต่อเป็นเรื่องทำความประนีประนอมกันให้ศาลพิพากษา เช่นนี้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 และ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา138 ไม่เป็นการพิพากษานอกคำฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1339/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทานบนหลังไม่จดทะเบียนสมรส: ข้อตกลงธรรมดา ไม่ผูกพันทางกฎหมาย, ศาลไม่แก้ไขคำพิพากษาแบ่งทรัพย์ที่โจทก์ไม่ฎีกา
ฟ้องขอหย่าและให้ริบทรัพย์โดยอ้างว่าอีกฝ่ายหนึ่งผิดทัณฑ์บน เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าโจทก์จำเลยไม่เป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว เรื่องผิดทัณฑ์บนจึงเป็นเพียงข้อตกลงกันตามธรรมดา เมื่อไม่มีมูลหนี้ผูกพันกันตามกฎหมายก็บังคับกันไม่ได้
โจทก์ฟ้องขอให้ริบทรัพย์จำเลยตามทัณฑ์บนเมื่อศาลวินิจฉัยว่าทัณฑ์บนใช้บังคับไม่ได้ คดีก็ไม่มีประเด็นว่าจะแบ่งทรัพย์กันเพียงใดหรือไม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้แบ่งทรัพย์แก่โจทก์ เมื่อจำเลยไม่ฎีกาโต้แย้ง ศาลฎีกาย่อมไม่แก้ไข
โจทก์ฟ้องขอให้ริบทรัพย์จำเลยตามทัณฑ์บนเมื่อศาลวินิจฉัยว่าทัณฑ์บนใช้บังคับไม่ได้ คดีก็ไม่มีประเด็นว่าจะแบ่งทรัพย์กันเพียงใดหรือไม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้แบ่งทรัพย์แก่โจทก์ เมื่อจำเลยไม่ฎีกาโต้แย้ง ศาลฎีกาย่อมไม่แก้ไข
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1260/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีและการบังคับตามข้อตกลงประมูล ศาลมีอำนาจชี้ขาดได้
โจทก์มาถึงศาลเมื่อศาลสืบตัวจำเลยเป็นพยานเสร็จแล้วเป็นแต่อ่านคำให้การนั้นให้พยานฟังจวนจะจบคำให้การนั้นโจทก์จึงมาถึงห้องพิจารณาซึ่งศาลได้มีคำสั่งแสดงว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณาแล้ว แล้วโจทก์ก็หายไปอีก ฝ่ายจำเลยคงขอสืบพยานตัวจำเลยปากเดียว เช่นนี้ต้องฟังว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1230/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพันตามกฎหมาย หากข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่ตกลง
ก่อนฟ้องโจทก์จำเลยได้ทำหนังสือตกลงประนีประนอมกันต่อหน้าอำเภอว่า จำเลยยอมให้เงินโจทก์ 1,000 บาท แล้วขอรับเอาที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย ฝ่ายโจทก์ยอมเอาเงิน 1,000บาท และยอมให้ที่ดินพิพาทแก่จำเลยเป็นกรรมสิทธิ์
การตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเช่นนี้จึงต้องบังคับด้วยกฎหมายลักษณะสัญญาประนีประนอมยอมความ
การตกลงระหว่างโจทก์จำเลยเช่นนี้จึงต้องบังคับด้วยกฎหมายลักษณะสัญญาประนีประนอมยอมความ