พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,220 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 855/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสัมพันธ์ระหว่างคดีอาญาและคดีแพ่ง: ศาลต้องใช้ข้อเท็จจริงจากคำพิพากษาอาญา
คดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาปนแพ่งขอให้ลงโทษจำเลยทางอาญาและเรียกทรัพย์คืนด้วยนั้น ในการพิพากษา คดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในคำพิพากษาส่วนอาญาตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 46.
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยฉ้อโกงทรัพย์ ขอให้ลงโทษและใช้ราคาทรัพย์ เมื่อพยานโจทก์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ฉ้อโกงเอา ทรัพย์ของโจทก์ไป ซึ่งจะลงโทษจำเลยทางอาญาไม่ได้แล้ว ก็จะให้จำเลยรับผิดใช้ทรัพย์แก่โจทก์ไม่ได้ด้วย./
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยฉ้อโกงทรัพย์ ขอให้ลงโทษและใช้ราคาทรัพย์ เมื่อพยานโจทก์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ฉ้อโกงเอา ทรัพย์ของโจทก์ไป ซึ่งจะลงโทษจำเลยทางอาญาไม่ได้แล้ว ก็จะให้จำเลยรับผิดใช้ทรัพย์แก่โจทก์ไม่ได้ด้วย./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 855/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสัมพันธ์ระหว่างคดีอาญาและคดีแพ่ง: การพิพากษาคดีแพ่งต้องยึดตามข้อเท็จจริงในคำพิพากษาคดีอาญา
คดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาปนแพ่งขอให้ลงโทษจำเลยทางอาญาและเรียกทรัพย์คืนด้วยนั้น ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาส่วนอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 46
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยฉ้อโกงทรัพย์ ขอให้ลงโทษและใช้ราคาทรัพย์ เมื่อพยานโจทก์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ฉ้อโกงเอาทรัพย์ของโจทก์ไปซึ่งจะลงโทษจำเลยทางอาญาไม่ได้แล้ว ก็จะให้จำเลยรับผิดใช้ทรัพย์แก่โจทก์ไม่ได้ด้วย
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยฉ้อโกงทรัพย์ ขอให้ลงโทษและใช้ราคาทรัพย์ เมื่อพยานโจทก์ฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้ฉ้อโกงเอาทรัพย์ของโจทก์ไปซึ่งจะลงโทษจำเลยทางอาญาไม่ได้แล้ว ก็จะให้จำเลยรับผิดใช้ทรัพย์แก่โจทก์ไม่ได้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 498/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบพยานจากคดีอาญามาใช้ในคดีแพ่ง: ศาลต้องพิจารณาข้อเท็จจริงด้วยตนเอง
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ไม่ใช่หนองสาธารณะ จำเลยต่อสู้ว่าเป็นหนองสาธารณะ คู่ความต่างไม่ติดในสืบพยาน โดยตกลงกันว่าให้ศาลฟังข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานที่สืบมาแล้วในคดีอาญาคดี
หนึ่ง ซึ่งอัยการเป็นโจทก์ ฟ้องโจทก์ในคดีนี้เป็นจำเลยเกี่ยวกับที่พิพาทดังนี้ เมื่อศาลฎีกาพิพากษาคดีอาญาเรื่องนั้นว่า ที่พิพาทจะเป็นหนองสาธารณะหรือไม ไม่วินิจฉัยให้คู่ความชอบที่จะโต้แย้งกันในทางแพ่ง ดังนี้ ข้อที่คู่ความร้องขอให้ฟังข้อเท็จจริงในคดีอาญา จึงเป็นอันไร้ผล ชอบที่คู่ความจะต้องนำสืบข้อเท็จจริงกันในคดีแพ่งนี้ต่อไป./
หนึ่ง ซึ่งอัยการเป็นโจทก์ ฟ้องโจทก์ในคดีนี้เป็นจำเลยเกี่ยวกับที่พิพาทดังนี้ เมื่อศาลฎีกาพิพากษาคดีอาญาเรื่องนั้นว่า ที่พิพาทจะเป็นหนองสาธารณะหรือไม ไม่วินิจฉัยให้คู่ความชอบที่จะโต้แย้งกันในทางแพ่ง ดังนี้ ข้อที่คู่ความร้องขอให้ฟังข้อเท็จจริงในคดีอาญา จึงเป็นอันไร้ผล ชอบที่คู่ความจะต้องนำสืบข้อเท็จจริงกันในคดีแพ่งนี้ต่อไป./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 498/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ข้อเท็จจริงจากคดีอาญาในคดีแพ่ง: ศาลต้องพิจารณาข้อเท็จจริงใหม่ในคดีแพ่ง
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ไม่ใช่หนองสาธารณะจำเลยต่อสู้ว่าเป็นหนองสาธารณะคู่ความต่างไม่ติดใจสืบพยานโดยตกลงกันว่าให้ศาลฟังข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานที่สืบมาแล้วในคดีอาญาคดีหนึ่งซึ่งอัยการเป็นโจทก์ ฟ้องโจทก์ในคดีนี้เป็นจำเลยเกี่ยวกับที่พิพาทดังนี้เมื่อศาลฎีกาพิพากษาคดีอาญาเรื่องนั้นว่าที่พิพาทจะเป็นหนองสาธารณะหรือไม่ ไม่วินิจฉัยให้คู่ความชอบที่จะโต้แย้งกันในทางแพ่งดังนี้ ข้อที่คู่ความร้องขอให้ฟังข้อเท็จจริงในคดีอาญา จึงเป็นอันไร้ผลชอบที่คู่ความจะต้องนำสืบข้อเท็จจริงกันในคดีแพ่งนี้ต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 426/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตรวจคำคู่ความและการพิจารณาประเด็นที่เกี่ยวข้องในคดีแพ่ง ศาลมีอำนาจจำกัดเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาท
ศาลมีอำนาจตรวจคำคู่ความเช่นคำให้การจำเลยได้ถ้ามีข้อความที่กล่าวไว้โดยไม่เกี่ยวกับประเด็น ศาลสั่งไม่รับข้อความนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1462/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพในคดีอาญาแล้วมาพิสูจน์สัญชาติใหม่ในคดีแพ่ง ขัดต่อหลักกฎหมาย
จำเลยถูกฟ้องในคดีอาญาว่าเป็นคนต่างด้าว หลบหนี้เข้ามาในประเทศไทย จำเลยรับสารภาพจนศาลพิพากษาไป คดีถึงที่สุดแล้วภายหลังจำเลยจะมาฟ้องเป็นคดีต่อศาลพิศูจน์ว่าจำเลยเป็นคนไทยนั้น เป็นการขัดต่อ ป.ม.วิ.อาญามาตรา 46 ศาลย่อมไม่ยอมให้จำเลยสืบตามข้ออ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1462/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขัดกันระหว่างคำพิพากษาในคดีอาญาและคดีแพ่งเรื่องสัญชาติ การรับสารภาพมีผลผูกพัน
จำเลยถูกฟ้องในคดีอาญาว่าเป็นคนต่างด้าว หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย จำเลยรับสารภาพจนศาลพิพากษาไป คดีถึงที่สุดแล้วภายหลังจำเลยจะมาฟ้องเป็นคดีต่อศาลขอพิสูจน์ว่าจำเลยเป็นคนไทยนั้น เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 ศาลย่อมไม่ยอมให้จำเลยสืบตามข้ออ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 959/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรอคดีอาญาไว้เพื่อฟังผลคดีแพ่งเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดิน ศาลต้องรอจนคดีแพ่งถึงที่สุด
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยบุกรุกที่ดินของโจทก์จำเลยต่อสู้ว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยและปรากฎว่า โจทก์จำเลยได้เป็นความกันในทางแพ่งโต้เถียงกรรมสิทธิในที่พิพาทหนี้อยู่ โจทก์จึงขอให้ศาลรอคดีอาญาไว้ฟังผลในคดีแพ่งก่อน และศาลก็มีคำสั่งให้รอคดีอาญาไว้ ดังนี้ ย่อมหมายถึงว่า รอคดีไว้จนคดีแพ่งเสร็จเด็ดขาดถึงที่สุดแล้ว ถ้าคดีแพ่งยังไม่ถึงที่สุดแล้ว ศาลชั้นต้นก็ยังไม่สมควรจะยกเอาคดีอาญาที่รอไว้ขึ้นมาพิจารณาพิพากษาไปก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 959/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรอคดีอาญาไว้เพื่อฟังผลคดีแพ่ง: เงื่อนไขและความเหมาะสมในการพิจารณาคดีอาญา
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยบุกรุกที่ดินของโจทก์ จำเลยต่อสู้ว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลย และปรากฏว่า โจทก์จำเลยได้เป็นความกันในทางแพ่งโต้เถียงกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทนี้อยู่ โจทก์จึงขอให้ศาลรอคดีอาญาไว้ฟังผลในคดีแพ่งก่อนและศาลก็มีคำสั่งให้รอคดีอาญาไว้ ดังนี้ย่อมหมายถึงว่า รอคดีไว้จนคดีแพ่งเสร็จเด็ดขาดถึงที่สุดแล้วถ้าคดีแพ่งยังไม่ถึงที่สุดแล้ว ศาลชั้นต้นก็ยังไม่สมควรจะยกเอาคดีอาญาที่รอไว้ขึ้นมาพิจารณาพิพากษาไปก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 680/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา: ยกฟ้องอาญาแล้ว นับอายุความแพ่งตามกฎหมายทั่วไป
การฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญานั้น เมื่อฟ้องคดีอาญาก่อน ศาลพิพากษายกฟ้องคดีถึงที่สุดแล้ว กรณีเข้าตามมาตรา 51 วรรคสี่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ฉะนั้นเมื่อมาฟ้องทางแพ่งต้องนับอายุความตามหลักทั่วไปในเรื่องอายุความแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์สำหรับกรณีเรื่องนี้เป็นเรื่องละเมิดโจทก์ต้องฟ้องภายใน 1 ปีนับแต่วันรู้ถึงการละเมิดหรือรู้ตัวผู้กระทำผิด เมื่อโจทก์มาฟ้องเกิน 1 ปีนับแต่วันละเมิดคดีโจทก์จึงต้องขาดอายุความตามมาตรา 448 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์