พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,140 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2508/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้เจตนา: การฝากเก็บโดยผู้อื่นและการไม่มีเจตนาในการครอบครอง
การที่กระสุนปืนของกลางอยู่ที่บ้านจำเลยโดยเจ้าของนำมาฝาก ธ.ไว้พร้อมด้วยถุงทะเลที่บรรจุสิ่งของต่าง ๆ และ ธ. ได้นำมาฝากจำเลยไว้อีกทอดหนึ่งเพราะ ธ. จะไปเที่ยวกลัวของจะหาย กระสุนปืนของกลางตั้งอยู่ที่โต๊ะจำเลยมิได้แตะต้องเคลื่อนย้ายเหตุที่ของกลางถูกเจ้าพนักงานพบเห็นเพราะ ธ. เที่ยวงานดึกแล้วไม่ได้มารับคืน พฤติการณ์ดังกล่าวไม่พอ ที่จะถือว่าจำเลยมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2458/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายห้องแถวแม้เป็นโมฆะ แต่จำเลยเข้าครอบครองโดยไม่ได้อาศัยโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องแถวของโจทก์โดยอ้างว่าจำเลยอาศัยอยู่เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าโจทก์ได้ขายห้องแถวพิพาทให้แก่จำเลยและจำเลยเป็นผู้ใช้สิทธิครอบครองตลอดมาแล้ว โจทก์มิได้อุทธรณ์หรือแก้อุทธรณ์โต้แย้งในข้อนี้ ข้อเท็จจริงจึงฟังได้เป็นยุติตามคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น แม้ศาลชั้นต้นจะวินิจฉัยว่าการซื้อขายเป็นโมฆะแต่การเข้าอยู่ในห้องแถวพิพาทของจำเลยก็มิใช่เป็นการอาศัยโจทก์ดังที่โจทก์อ้างในฟ้อง ดังนี้ โจทก์หามีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยออกไปจากห้องแถวพิพาทนั้นไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2359/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับของโจร: การช่วยเหลือพาเอาทรัพย์ที่ถูกลักไป ไม่ถือเป็นความผิดฐานรับของโจร หากไม่มีเจตนาครอบครองร่วม
จำเลยที่ 1 รับกระบือไว้จากคนร้ายโดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ถูกลักมาแล้วนำไปขายและรับชำระราคา ส่วนจำเลยที่ 2 ซึ่งช่วยจูงกระบือร่วมเดินทางไปกับจำเลยที่ 1 ตามคำขอร้อง ถือไม่ได้ว่าร่วมครอบครองช่วยพาเอาไปเสีย ช่วยจำหน่ายกระบือ การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงไม่เป็นความผิดฐานรับของโจร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีและจำหน่ายกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดคนละกรรม
การมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต และการจำหน่ายเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า เป็นความผิดคนละตอนแยกกันได้ จำเลยมีกระสุนปืนจำนวน 51 นัด ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตและในวันเดียวกันนั้นจำเลยได้จำหน่ายกระสุนปืนดังกล่าวไปจำนวน 25 นัด ดังนี้เป็นความผิด 2 กรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1438/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีครอบครองลูกระเบิดขว้างของทหารพราน: โจทก์ต้องพิสูจน์ว่าไม่ได้มอบให้จำเลย
โจทก์ไม่ได้นำสืบให้เห็นว่าทางราชการทหารไม่ได้มอบลูกระเบิดขว้างแบบเอ็ม 67 ของกลางให้จำเลยทหารพรานโจทก์จะอาศัยเหตุที่ว่าลูกระเบิดขว้างที่ทางราชการมอบให้เป็นแบบเอ็ม 26 มาเป็นข้อสันนิษฐานให้เป็นผลร้ายลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิดดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน มาตรา 5 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1392/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ถูกสงวนไว้เพื่อสร้างโรงเรียน แม้โจทก์ครอบครองและมี น.ส.3ก. ก็ใช้สิทธิยันจำเลยร่วมไม่ได้
ที่ดินที่ทางราชการสงวนไว้เพื่อสร้างโรงเรียนระดับประถมศึกษาโดยครูใหญ่เป็นผู้จับจองไว้ และต่อมาได้แจ้งการครอบครองตามแบบ ส.ค.1ในนามของศึกษาธิการอำเภอ ขณะนั้นโรงเรียนระดับประถมศึกษาสังกัดกรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ต่อมาได้โอนมาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์จำเลยร่วม จำเลยร่วมได้สร้างโรงเรียนในที่ดินดังกล่าวด้านทิศตะวันตก ส่วนทางด้านทิศตะวันออกอันเป็นที่ดินพิพาทเคยให้โจทก์เช่า ดังนี้ ที่ดินพิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินที่ทางราชการคือจำเลยร่วมสงวนไว้สำหรับสร้างโรงเรียน เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1304 (3) (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 2798-2799/2523)
เมื่อที่ดินพิพาทเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้โจทก์จะครอบครองมาและได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้วก็ไม่ได้สิทธิครอบครองและใช้ยันจำเลยร่วมไม่ได้
เมื่อที่ดินพิพาทเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้โจทก์จะครอบครองมาและได้รับหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้วก็ไม่ได้สิทธิครอบครองและใช้ยันจำเลยร่วมไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแยกความผิดฐานมีฝิ่นและมูลฝิ่น แม้มีครอบครองในวาระเดียวกัน ถือเป็นคนละกรรม
เดิมกฎหมายบัญญัติเกี่ยวกับการมีฝิ่นและมูลฝิ่นไว้ในมาตราเดียวกัน ต่อมาได้มีการแก้ไขโดยบัญญัติแยกไว้คนละมาตราเป็นคนละฐานความผิด จึงเป็นเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการแยกการมีฝิ่นและมูลฝิ่นไว้เป็นคนละความผิดกัน ฉะนั้น แม้จำเลยจะมีฝิ่นและมูลฝิ่นไว้ในความครอบครองในวาระเดียวกันก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1020/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแยกความผิดฐานมีฝิ่นและมูลฝิ่นเป็นคนละกรรม แม้ครอบครองพร้อมกัน
เดิมกฎหมายบัญญัติเกี่ยวกับการมีฝิ่นและมูลฝิ่นไว้ในมาตราเดียวกัน ต่อมาได้มีการแก้ไขโดยบัญญัติแยกไว้คนละมาตรา เป็นคนละฐานความผิด จึงเป็นเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการแยกการมีฝิ่นและมูลฝิ่นไว้เป็นคนละความผิดกัน ฉะนั้น แม้จำเลยจะมีฝิ่นและมูลฝิ่นไว้ในความครอบครองในวาระเดียวกันก็เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 85/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าของรวมสิทธิครอบครองและส่วนแบ่งที่ดิน: ศาลมีอำนาจวินิจฉัยสัดส่วนการถือครอง แม้ไม่มีระบุในโฉนด
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1357 บัญญัติว่า "ท่านใหัสันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้เป็นเจ้าของรวมกันมีส่วนเท่ากัน" นั้น ย่อมนำสืบหักล้างได้ว่าความจริงมีอยู่อย่างไร และศาลมีอำนาจวินิจฉัยได้ว่า ฝ่ายใด้มีส่วนเป็นเจ้าของในส่วนใดเท่าใด หาเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายไม่
ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยครอบครองที่ดินส่วนของจำเลยมา 10 ปีแล้วย่อมได้กรรมสิทธิ์นั้น เมื่อจำเลยให้การว่าจำเลยได้รับโอนที่ดินพิพาทจากบิดาเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2482 แล้วครอบครองตลอดมา ตามคำให้การนี้ถือได้ว่าจำเลยได้ยกประเด็นขึ้นอ้างแล้วว่าจำเลยครอบครองที่ดินมาเกิน 10 ปี ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยนอกประเด็น
ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยครอบครองที่ดินส่วนของจำเลยมา 10 ปีแล้วย่อมได้กรรมสิทธิ์นั้น เมื่อจำเลยให้การว่าจำเลยได้รับโอนที่ดินพิพาทจากบิดาเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2482 แล้วครอบครองตลอดมา ตามคำให้การนี้ถือได้ว่าจำเลยได้ยกประเด็นขึ้นอ้างแล้วว่าจำเลยครอบครองที่ดินมาเกิน 10 ปี ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 561-562/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความมรดก: การครอบครองมรดกโดยทายาทและคู่สมรส, ผลต่อการฟ้องแบ่งมรดก
ม. ถึงแก่กรรมตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 ร. สามี ม. ซึ่งเป็นทายาทได้ครอบครองทำประโยชน์ในที่มรดกของ ม. ร่วมกับ จำเลยซึ่งเป็นภริยาคนใหม่ของ ร.จนกระทั่งร. ได้ถึงแก่กรรมในวันที่ 3 มกราคม 2517 แล้วโจทก์สำนวนแรกจึงมาฟ้องจำเลยซึ่งเป็นทายาทครอบครองมรดกของ ร. เพื่อขอแบ่งมรดกของ ม. เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2518 พ้นกำหนด 1 ปี ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1754 แล้ว หากยังมีชีวิตอยู่ ร. ซึ่งครอบครองที่พิพาทย่อมยกอายุความขึ้นต่อสู้โจทก์สำนวนแรกได้จำเลยเป็นคู่สมรสและเป็นทายาทโดยธรรมซึ่งมีสิทธิรับมรดกของร. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1629 และ 1635 จึงชอบที่จะใช้สิทธิของ ร. ยกอายุความมรดก ขึ้นต่อสู้โจทก์สำนวนแรกได้ตามมาตรา 1755