คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คำพิพากษา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,887 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสั่งขับไล่ในคดีสัตว์ป่า: ต้องมีคำพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดตามกฎหมายก่อน
เมื่อศาลมิได้พิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดตามมาตรา 24แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2503 ศาลจึงไม่มีอำนาจสั่งให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่พิพาทได้ไม่ว่าที่พิพาทจะเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์หรือไม่ก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3587/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชี้สองสถาน, การแก้ไขคำให้การ, และสัญญาประนีประนอมยอมความ: ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาเดิม
การชี้สองสถานคือการกะประเด็นข้อพิพาทและกำหนดหน้าที่นำสืบ การกะประเด็นข้อพิพาทย่อมกะได้จากคำฟ้องและคำให้การซึ่งเป็นคำคู่ความ คำคู่ความเท่านั้นที่จะตั้งประเด็นระหว่างคู่ความได้ การฟังคำแถลงของคู่ความและการสอบถามคู่ความเป็นเรื่องที่กฎหมายประสงค์แต่เพียงเพื่อให้ได้ความชัดในประเด็นข้อพิพาทเท่านั้น จะฟังคำแถลงของคู่ความหรือสอบถามคู่ความแล้วตั้งประเด็นขึ้นใหม่หาได้ไม่ ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องและคำให้การแล้วกำหนดประเด็นข้อพิพาทโดยไม่ได้สอบถามหรือฟังคำแถลงของคู่ความก่อน จึงเป็นการชี้สองสถานโดยชอบแล้ว
คำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การของจำเลยเป็นเรื่องที่จำเลยยืนยันว่าที่ดินพิพาทอยู่นอกเขตตราจองของโจทก์ โจทก์ไม่มีกรรมสิทธิ์และไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยอันเป็นข้อต่อสู้เดียวกับคำให้การซึ่งจำเลยได้สละแล้วในวันชี้สองสถาน กรณีจึงไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน เมื่อจำเลยยื่นคำร้องขอแก้ไขคำให้การหลังจากวันชี้สองสถาน จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180
ในชั้นชี้สองสถานคู่ความแถลงไม่ติดใจประเด็นข้อ 1 ที่ว่าที่ดินพิพาทอยู่ในเขตตราจองของโจทก์หรือไม่ ประเด็นข้อนี้จึงยุติ รูปคดีไม่มีเหตุที่จะต้องนำสืบในประเด็นข้อนี้ต่อไป จำเลยจึงขอให้สืบพยานในประเด็นข้อนี้อีกไม่ได้
บันทึกข้อตกลงในรายงานกระบวนพิจารณาของศาลเป็นสัญญาที่โจทก์จำเลยทำขึ้นเพื่อระงับข้อพิพาทในคดีที่โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท แม้โจทก์จำเลยจะทำต่อหน้าศาลโดยไม่ขอให้ศาลพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ บันทึกข้อตกลงดังกล่าวก็เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3249/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิบังคับคดีตามคำพิพากษาตกทอดแก่ทายาท ผู้จัดการมรดกมีสิทธิดำเนินการต่อไปได้
สิทธิเกี่ยวกับการบังคับคดีตามคำพิพากษา มิใช่เป็นสิทธิเฉพาะตัวย่อมตกทอดแก่ทายาท ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกมีสิทธิขอดำเนินการบังคับคดีต่อไปได้
จำเลยฎีกาว่าโจทก์ถึงแก่กรรมก่อนศาลมีคำพิพากษา ผู้ร้องมิได้ยื่นคำร้องขอรับมรดกความแทนโจทก์ ผู้ร้องไม่มีสิทธิเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ อันเป็นฎีกาทำนองเดียวกับในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้ทนายโจทก์และทนายจำเลยฟังโดยไม่ทราบเรื่องโจทก์ถึงแก่ความตาย คำพิพากษาศาลฎีกามีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายผู้ร้องในฐานะผู้จัดการมรดกของโจทก์มีสิทธิที่จะดำเนินการบังคับคดีต่อไปได้ ฎีกาของจำเลยจึงมิใช่เป็นการโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3116/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในความผิดกรรมเดียวกัน แม้มีการตายภายหลังคำพิพากษาเดิม
โจทก์เคยฟ้องจำเลยฐานทำร้ายร่างกายผู้เสียหายศาลพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยและคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์แม้ต่อมาผู้เสียหายถึงแก่ความตายเพราะบาดแผลที่ถูกจำเลยทำร้าย โจทก์จะฟ้องจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาซึ่งเป็นการกระทำผิดกรรมเดียวกันในขณะที่คดีก่อนอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์อีกไม่ได้เพราะถือว่าได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องแล้วต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)(ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 3792/2524)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ วิธีชั่วคราวก่อนศาลชั้นต้นพิพากษา: ศาลฎีกาไม่ต้องพิจารณาคำร้องคุ้มครองชั่วคราวเมื่อศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว
ในเรื่องวิธีการชั่วคราวก่อนศาลชั้นต้นพิพากษานั้น เมื่อปรากฏว่าศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว ก็หมดความจำเป็นที่ศาลฎีกาจะต้องพิจารณาเกี่ยวกับคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวของโจทก์ต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2416/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลาภมิควรได้จากการชำระหนี้ตามคำพิพากษา: การบังคับคดีตามคำพิพากษาไม่ถือเป็นการได้มาซึ่งทรัพย์โดยปราศจากมูลอันจะอ้างได้
การที่โจทก์จะต้องชำระเงินให้แก่จำเลยตามคำพิพากษา เรียกไม่ได้ว่าจำเลยได้มาซึ่งทรัพย์โดยปราศจากมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย จึงไม่ใช่ลาภมิควรได้โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขอให้จำเลยงดการบังคับคดีซึ่งจำเลยมีสิทธิบังคับคดีได้ในคดีก่อนนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2416/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลาภมิควรได้จากการชำระหนี้ตามคำพิพากษา: ไม่เป็นเหตุฟ้องระงับการบังคับคดี
การที่โจทก์จะต้องชำระเงินให้แก่จำเลยตามคำพิพากษาเรียกไม่ได้ว่าจำเลยได้มาซึ่งทรัพย์โดยปราศจากมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมาย จึงไม่ใช่ลาภมิควรได้โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขอให้จำเลยงดการบังคับคดีซึ่งจำเลยมีสิทธิบังคับคดีได้ในคดีก่อนนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2407/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย: การอุทธรณ์เฉพาะเหตุผลโดยไม่โต้แย้งผลคำพิพากษา
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์ จำเลยอุทธรณ์ว่าเห็นด้วย กับผลของคำพิพากษา แต่ไม่เห็นด้วยในเหตุผลที่ศาลแรงงานกลางอ้าง เป็นอุทธรณ์ที่มิได้โต้แย้งผลของคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง ทั้งมิได้อ้างว่าผลแห่งคำพิพากษาของศาลแรงงานกลางทำให้จำเลยเสียสิทธิ หรือมีผลกระทบกระเทือนถึงสิทธิของจำเลยประการใด จึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ชอบที่จะรับไว้พิจารณา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2210/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดี – เหตุผลไม่ชัดเจน – ไม่โต้แย้งคำพิพากษา – คำร้องขอพิจารณาใหม่ไม่ชอบ
คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลย มิได้กล่าวโดยละเอียดชัดแจ้งซึ่งเหตุที่มาศาลไม่ทันกำหนดเวลา และไม่ได้คัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลว่าไม่ถูกต้องอย่างไรจำเลยจะชนะคดีได้อย่างไร จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 ศาลชอบที่จะยกคำร้องขอนั้นเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2209/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งค่าเสียหายต้องเป็นไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงหลังศาลมีคำพิพากษา ไม่ใช่เงื่อนไขก่อนมีคำพิพากษา
ฟ้องแย้งทำนองว่า หากจำเลยจะต้องออกจากที่ดินที่เช่าแล้ว โจทก์จะต้องชดใช้ค่าเสียหายในการที่จำเลยได้จ่ายเงินไปเพื่อประโยชน์แก่เจ้าของที่ดินเดิม เป็นค่าถมดินและสร้างเขื่อนถาวรเป็นต้น ดังนี้ ถือว่าเป็นฟ้องแย้งที่มีเงื่อนไข จะให้ถือเป็นฟ้องแย้งต่อเมื่อศาลพิพากษาขับไล่จำเลยออกจากที่ดินที่เช่า ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลัง ถ้าจำเลยชนะคดีตามคำให้การ ฟ้องแย้งของจำเลยก็ตกไป เพราะยังไม่ถึงเวลาที่โจทก์จะต้องชดใช้ ฟ้องแย้งของจำเลยจึงเป็นคนละเรื่องไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ไม่เป็นฟ้องแย้งที่จะรับไว้พิจารณา
of 189