พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,327 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1158/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกโดยการครอบครองร่วมกันและอายุความ การพิสูจน์การแบ่งมรดกต้องมีหลักฐานชัดเจน
อ้างว่ามีการแบ่งปันทรัพย์มรดกกันแล้ว ต้องพิสูจน์ให้ได้อย่างใดอย่างหนึ่งว่า ต่างเข้าครอบครองทรัพย์สินเป็นสัดส่วน หรือโดยการขายทรัพย์มรดกแล้วเอาเงินที่ขายได้มาแบ่งปันกัน หรือมีหลักฐานเป็นหนังสือตกลงกันอย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดหรือตัวแทนของฝ่ายนั้นเป็นสำคัญ
เมื่อฟังว่าโจทก์จำเลยเป็นทายาทและปกครองทรัพย์มรดกร่วมกันมาก็ต้องปรับด้วยมาตรา 1748 ดังนี้แม้โจทก์จะฟ้องขอแบ่งมรดกเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่เมื่อเจ้ามรดกตายแล้วก็ตาม คดีโจทก์ก็หาขาดอายุตาม มาตรา 1754 ไม่
เมื่อฟังว่าโจทก์จำเลยเป็นทายาทและปกครองทรัพย์มรดกร่วมกันมาก็ต้องปรับด้วยมาตรา 1748 ดังนี้แม้โจทก์จะฟ้องขอแบ่งมรดกเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่เมื่อเจ้ามรดกตายแล้วก็ตาม คดีโจทก์ก็หาขาดอายุตาม มาตรา 1754 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1133/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษอาญาจากพยานแวดล้อม แม้ไม่มีประจักษ์พยานยืนยัน
ศาลจะอาศัยพยานบุคคลและวัตถุพยานแวดล้อมกรณีลงโทษจำเลยก็ได้ เมื่อศาลได้ชั่งน้ำหนักพยานแล้วแน่ใจว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิด แม้คดีจะไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นขณะจำเลยลงมือกระทำผิดก็ตาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1117/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินพิพาท การตรวจสอบหลักฐานข้ามสำนวนเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลฎีกาจะเรียกสำนวนคดีอื่นมาประกอบการวินิจฉัยก่อน มีคำพิพากษาก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1112/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทะเบียนสมรสไม่ใช่ 'หนังสือสำคัญ' ตาม ม.6(20) อาญา การทำลายจึงไม่ผิดฐานซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน
ทะเบียนการสมรสไม่ใช่หนังสือสำคัญตามความหมายของมาตรา 6(20) ดังนั้นการซ่อนเร้นหรือทำลายทะเบียนสมรสจึงไม่เป็นความผิดฐานซ่อนเร้น หรือทำลายหนังสือสำคัญตามกฎหมายลักษณะอาญา ม.228
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 961/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดิน ต้องมีเหตุผลสมควรและมีหลักฐานสนับสนุน หากจำเลยรับค่าเช่าตามบัญชีแล้ว จำเลยต้องพิสูจน์เหตุผลในการประเมินใหม่
โจทก์ฟ้องอ้างว่า อาคารของโจทก์อยู่ในเขตเทศบาลถูกควบคุม ตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ได้ค่าเช่าจริงในปี 1 เป็นจำนวนเงินจำนวนหนึ่ง แต่จำเลยซึ่งเป็นเทศบาลประเมินเกินกว่าค่าเช่าจริง จึงเรียกเก็บภาษีจากโจทก์ไปเกิน โจทก์ได้ร้องขอให้พิจารณาประเมินใหม่แล้ว ก็ยังชี้ขาดให้โจทก์เสียภาษีเกินอยู่นั่นเอง โจทก์จึงฟ้องขอให้ศาลบังคับให้จำเลยคืนส่วนที่เกินให้
จำเลยรับว่า โจทก์เก็บค่าเช่าได้ตามบัญชีท้ายฟ้องจริง แต่อ้างว่าจำเลยและพนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยได้ปฏิบัติถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย และกำหนดค่ารายปีโรงเรือนและที่ดินของโจทก์ เหมาะสมถูกต้องแล้ว ดังนี้ ข้อที่ต้องพิจารณาจึงมีว่าค่าเช่าโรงเรือนของโจทก์นี้มีเหตุอันบ่งให้เห็นว่ามิใช่จำนวนอันสมควรที่จะให้เช่าได้ในปีหนึ่งๆ จริงหรือไม่ เมื่อจำเลยรับว่าโจทก์เก็บค่าเช่าได้ตามบัญชีท้ายฟ้องจริง การที่จำเลยจะประเมินภาษีใหม่ ก็ต้องมีเหตุตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ เหตุดังกล่าวเป็นหน้าที่จำเลยต้องนำสืบ แต่จำเลยไม่นำสืบแสดงว่าค่าเช่าที่โจทก์ได้รับ มิใช่จำนวนตามสมควรแต่ประการใด จำเลยจึงต้องแพ้คดี
จำเลยรับว่า โจทก์เก็บค่าเช่าได้ตามบัญชีท้ายฟ้องจริง แต่อ้างว่าจำเลยและพนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยได้ปฏิบัติถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย และกำหนดค่ารายปีโรงเรือนและที่ดินของโจทก์ เหมาะสมถูกต้องแล้ว ดังนี้ ข้อที่ต้องพิจารณาจึงมีว่าค่าเช่าโรงเรือนของโจทก์นี้มีเหตุอันบ่งให้เห็นว่ามิใช่จำนวนอันสมควรที่จะให้เช่าได้ในปีหนึ่งๆ จริงหรือไม่ เมื่อจำเลยรับว่าโจทก์เก็บค่าเช่าได้ตามบัญชีท้ายฟ้องจริง การที่จำเลยจะประเมินภาษีใหม่ ก็ต้องมีเหตุตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ เหตุดังกล่าวเป็นหน้าที่จำเลยต้องนำสืบ แต่จำเลยไม่นำสืบแสดงว่าค่าเช่าที่โจทก์ได้รับ มิใช่จำนวนตามสมควรแต่ประการใด จำเลยจึงต้องแพ้คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจ่ายเงินส่วนแบ่งทนายความ: หลักฐานการรับเงินไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือ และขอบเขตการฎีกาในข้อเท็จจริง
การที่ทนายความจ่ายเงินส่วนได้ของลูกความที่ตนรับมาจากศาลให้แก่ลูกความนั้น ไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องมีหลัก ฐานเป็นหนังสือ ฉะนั้นแม้ตัวความจะไม่ได้ออกใบรับเงินให้ ทนายก็นำสืบพยานบุคคลได้.
โจทก์ฟ้องตั้งทุนทรัพย์ 900 บาทเศษ จำเลยกลับฟ้องแย้งให้โจทก์ใช้เงินให้จำเลย 1800 บาท เศษ เมื่อศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ไขเล็กน้อย คู่ความก็ย่อมจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้./
โจทก์ฟ้องตั้งทุนทรัพย์ 900 บาทเศษ จำเลยกลับฟ้องแย้งให้โจทก์ใช้เงินให้จำเลย 1800 บาท เศษ เมื่อศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ไขเล็กน้อย คู่ความก็ย่อมจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้./
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 616/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยต่อศาล การรับทราบหลักฐาน และผลกระทบต่อการอ้างเหตุไม่ทราบ
โจทก์ส่งคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยต่อศาลในขณะสืบนายอำเภอ ซึ่งเป็นพยานประเด็น และฝ่ายจำเลยไม่ติดใจตามประเด็นไปนั้น เมื่อประเด็นตก ศาลเดิมก็ได้ให้จำเลยมาฟังประเด็นแล้วจึงถือว่าจำเลยได้ทราบคำพยาน และหลักฐานตามประเด็นนั้นดีแล้ว จำเลยจะอ้างว่าไม่ได้ส่งต่อหน้าจำเลยจำเลยไม่ทราบ เป็นการไม่ชอบนั้นย่อมฟังไม่ขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 401/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพชั้นสอบสวนมีน้ำหนัก แม้พยานโจทก์มีข้อโต้แย้ง คดีลักทรัพย์มีหลักฐานประกอบเพียงพอ
คดีลักทรัพย์ ถ้าเพียงแต่กันผู้ต้องหาด้วยกันมาเป็นพยานโจทก์สองปาก คดีไม่มีน้ำหนักพอที่จะลงโทษจำเลยได้แต่ถ้าโจทก์มีเจ้าทรัพย์และพนักงานสอบสวนประกอบว่าจำเลยได้รับสารภาพชั้นสอบสวนโดยสมัครใจ ทั้งได้รับสารภาพต่อพนักงานสอบสวนต่อหน้าเจ้าทรัพย์ด้วยคดีก็ฟังลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไถ่ถอนขายฝาก: การพิสูจน์สิทธิด้วยพยานบุคคลได้ แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
การชำระเงินไถ่ถอนการขายฝากนั้น ไม่มีกฎหมายบังคับว่า ต้องทำตาม่แบบ หรือต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือแต่
อย่างใดฉะนั้นการชำระเงินไถ่ถอนการขายฝากดดยไม่มีเอกสารใบรับเงินต่อกัน จึงเป็นเรื่องที่จะนำพยานบุคคล
เข้าสืบได้ ไม่ขัดกับ ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 94.
อย่างใดฉะนั้นการชำระเงินไถ่ถอนการขายฝากดดยไม่มีเอกสารใบรับเงินต่อกัน จึงเป็นเรื่องที่จะนำพยานบุคคล
เข้าสืบได้ ไม่ขัดกับ ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 94.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไถ่ถอนการขายฝาก: พยานบุคคลใช้ได้ แม้มิมีหลักฐานเป็นหนังสือ
การชำระเงินไถ่ถอนการขายฝากนั้น. ไม่มีกฎหมายบังคับว่าต้องทำตามแบบ หรือต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือแต่อย่างใด
ฉะนั้นการชำระเงินไถ่ถอนการขายฝากโดยไม่มีเอกสารใบรับเงินต่อกันจึงเป็นเรื่องที่จะนำพยานบุคคลเข้าสืบได้ ไม่ขัดกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94
ฉะนั้นการชำระเงินไถ่ถอนการขายฝากโดยไม่มีเอกสารใบรับเงินต่อกันจึงเป็นเรื่องที่จะนำพยานบุคคลเข้าสืบได้ ไม่ขัดกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94