คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ครอบครองปรปักษ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,380 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1808/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ที่ดินมีโฉนด แม้ไม่ได้เพาะปลูก เพียงเข้าใช้ประโยชน์ก็ถือเป็นการครอบครองได้ หากครอบครองเกิน 10 ปี ได้กรรมสิทธิ์
โจทก์ซื้อที่ดินมีโฉนดแล้วแต่มิได้ไปทำหนังสือซื้อขายหรือจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่ได้เข้าตัดฟืนเก็บพุทรา และให้คนเช่าที่เพื่อเก็บพุทราไปขายแต่ไม่ได้เพาะปลูกสิ่งใดเพิ่มขึ้น คงทิ้งให้ที่รกรุงรังอย่างเจ้าของเดิมเคยปล่อยไว้ เช่นนี้ถือว่าโจทก์ได้เข้าครอบครองที่พิพาทตามนัยแห่งประมวลแพ่งฯ มาตรา 1382 แล้ว เมื่อครอบครองมาเกิน 10 ปีก็ย่อมได้กรรมสิทธิ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1694-1695/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความครอบครองปรปักษ์และการขาดสิทธิในที่ดิน: ศาลยืนตามศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้อง
จำเลยแย่งการครอบครองที่มือเปล่าจากโจทก์กว่า 1 ปีเมื่อโจทก์ฟ้องอ้างว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองในที่พิพาท แต่โจทก์ไม่มีสิทธิเพราะโจทก์ขาดสิทธิเสียแล้ว ถึงแม้โจทก์จะคัดค้านว่าจำเลยไม่อ้างอายุความขึ้นต่อสู้ ศาลก็ยกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1591/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ การสละการครอบครอง และอายุความฟ้องแย้ง กรณีพิพาทเกี่ยวกับที่ดิน
ในคดีสองสำนวน โจทก์จำเลยต่างผลัดกันเป็นโจทก์ร้องฟ้องกันเกี่ยวกับที่พิพาทรายเดียวกัน แต่คดีหลังฟ้องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใหม่ ดังนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ที่พิพาทเป็นที่มือเปล่า แม้จำเลยจะรับว่าโจทก์ได้เข้าทำนาในที่พิพาทมาเกิน 1 ปีแล้ว แต่ปรากฎว่าในคดีอีกสำนวนหนึ่ง (ระหว่างโจทก์กับจำเลยในคดีนี้) โจทก์แถลงต่อศาลว่าจะออกจากที่พิพาทไป ดังนี้ถือว่า โจทก์ได้สละการครอบครองตาม ป.พ.พ.มาตรา 1377 แล้ว โจทก์กลับมาแย่งการครอบครองใหม่ จำเลยจึงฟ้อง (แย้ง) เมื่อนับแต่วันโจทก์แถลงสละการครอบครองจนถึงวันจำเลยฟ้องแย้งยังไม่เกิน 1 ปี คดีของจำเลยจึงยังไม่ขาดอายุความ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1583/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์จากครอบครองปรปักษ์ แม้การยกให้ไม่เป็นไปตามกฎหมาย
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นซึ่งรวมใจความได้ว่า จำเลยได้ยกที่พิพาทให้แก่โจทก์และโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทเพื่อตนตลอดมาเป็นเวลา 15-16 ปีแล้ว โจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิ์ ดังนี้ แม้จะยอมฟังตามข้อฎีกาของจำเลยว่าการที่จำเลยยกที่พิพาทให้โจทก์ มิได้ทำเป็นหนังสือจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่โจทก์ก็ยังได้สิทธิทางครอบครองมานานเกินกว่า 10 ปี เห็นได้ชัดว่าปัญหาข้อกฎหมายประการนี้ไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของจำเลย และไม่เป็นเหตุที่จะกระทำให้จำเลยกลับเป็นฝ่ายชนะคดีขึ้นมาได้ ศาลฎีกามีอำนาจไม่วินิจฉัยข้อกฎหมายนี้ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1583/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ แม้การยกให้เดิมไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นซึ่งรวมใจความได้ว่า จำเลยได้ยกที่พิพาทให้แก่โจทก์ และโจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทเพื่อตนตลอดมาเป็นเวลา 15-16 ปีแล้ว โจทก์ย่อมได้กรรมสิทธิ์ ดังนี้ แม้จะยอมฟังตามข้อฎีกาของจำเลยว่าการที่จำเลยยกที่พิพาทให้โจทก์ มิได้ทำเป็นหนังสือจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่โจทก์ก็ยังได้สิทธิทางครอบครองมานานเกินกว่า 10 ปี เห็นได้ชัดว่าปัญหาข้อกฎหมายประการนี้ไม่เป็นประโยชน์แก่คดีของจำเลย และไม่เป็นเหตุที่จะกระทำให้จำเลยกลับเป็นฝ่ายชนะคดีขึ้นมาได้ ศาลฎีกามีอำนาจไม่วินิจฉัยข้อกฎหมายนี้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในที่ดินศาลเจ้า: การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์และสภาพของที่ดินกุศลสถาน
ที่ศาลเจ้าที่เกิดมีขึ้นตามกฎเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 15 มี.ค.2463 ซึ่งออกตาม พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 ม.123 นั้น หาได้เป็นสาธารณสมบัติแผ่นดินไม่ เพราะตามกฎนี้กำหนดว่าให้ที่ศาลเจ้ามีหนังสือสำคัญหรือโฉนดนั้นก็คือให้ปฏิบัติการอย่างบุคคลธรรมดา ไม่มีข้อความพิเศษให้ลบล้างกฎหมาย ฉะนั้นเมื่อผู้ดูแลปล่อยปละให้บุคคลอื่นเข้าครอบครองที่ศาลเจ้าๆ ก็อาจสูญเสียที่ไปอย่างการสูญเสียที่ของบุคคลธรรมดานั้นเอง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดินศาลเจ้า: การครอบครองปรปักษ์และการสูญเสียกรรมสิทธิ์เมื่อทอดทิ้ง
ที่ศาลเจ้าที่เกิดมีขึ้นตามกฎเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่15 มี.ค. 2463 ซึ่งออกตามพ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่พ.ศ.2457 มาตรา123 นั้นหาได้เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินไม่เพราะตามกฎนี้กำหนดว่าให้ที่ศาลเจ้ามีหนังสือสำคัญหรือโฉนดนั้นก็คือให้ปฏิบัติการอย่างบุคคลธรรมดาไม่มีข้อความพิเศษให้ลบล้างกฎหมายฉะนั้นเมื่อผู้ดูแลปล่อยปละให้บุคคลอื่นเข้าครอบครองที่ศาลเจ้าๆ ก็อาจสูญเสียที่ไปอย่างการสูญเสียที่ของบุคคลธรรมดานั้นเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1093/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการอ้างอายุความ 1 ปี: สิทธิของเจ้าของที่ดิน
เมื่อจำเลยไม่ได้ครอบครองที่พิพาทโดยอำนาจปรปักษ์จำเลยจะอ้างอายุความ 1 ปีมาใช้ยันโจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1068/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการโอนสิทธิในที่ดิน แม้มีตราจองก็ไม่ทำให้ได้สิทธิ หากการครอบครองของโจทก์ชอบด้วยกฎหมาย และอายุความไม่ขาด
โจทก์ได้ครอบครองที่พิพาทอยู่และเลยที่ 1 แย่งการครอบครองของโจทก์ แม้จำเลยที่ 1 จะได้รับตราจอง ก็หาได้สิทธิในที่ดินรายนี้ไม่ การที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 ได้รับโอนต่อ ๆ มาโดยทางยกให้ ก็หาทำให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 มีสิทธิดีกว่าจำเลยที่ 1 ไม่
ในคดีแพ่ง เมื่อไม่ได้ยกเรื่องอายุความต่อสู้ในชั้นศาลอุทธรณ์ ย่อมฎีกาเรื่องอายุความไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 822/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของรวมครอบครองปรปักษ์: ต้องบอกกล่าวเปลี่ยนเจตนาการครอบครองก่อนจึงอ้างได้
ในกรณีที่บุคคลหลายคนมีชื่อยู่ในโฉนดที่ดินซึ่งเรียกว่าเจ้าของรวมนั้นย่อมมีอำนาจจัดการและครอบครองทรัพย์รวมกันและแทนกันได้ บุคคลใดยึดทรัพย์สินอยู่ในฐานะเป็นผู้แทนผู้ครอบครองบุคคลนั้นจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือได้ก็แต่เคยบอกกล่าวไปยังผู้ครอบครองว่าไม่มีเจตนาจะยึดถือทรัพย์สินแทนผู้ครอบครองต่อไป ตามป.พ.พ. ม.1381 ต่อแต่นั้นจึงจะยกอำนาจครอบครองปรปักษ์มาอ้างได้
ข้อเท็จจริงได้ความว่าพี่ชายโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นสามีของจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดการและครอบครองทรัพย์สินพิพาทไว้ตลอดมาจนกระทั่งถึงแก่ความตายรวมเวลาครอบครองเกินกว่า 10 ปี แต่ไม่ปรากฏเลยว่าพี่ชายโจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นสามีจำเลยที่ 1 ได้บอกกล่าวไปยังโจทก์ทั้งสองว่าจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือทรัพย์พิพาทจาการครอบครองแทนมาเป็นการครอบครองโดยปรปักษ์ เมื่อเช่นนี้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นภรรยาและอยู่ในครัวเรือนเดียวกันจึงยกอำนาจปรปักษ์อ้างแก่โจทก์ทั้งสองไม่ได้.
of 138