คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องซ้ำ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,459 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 251-252/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรม, ฟ้องซ้ำ, สิทธิรับมรดก, สินสมรส, พยานหลักฐาน
บุตรไม่อาจอ้างว่าบิดานำสินสมรสของบิดามารดามาทำพินัยกรรม ในเมื่อมารดาผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงมิได้โต้แย้งคัดค้าน
โจทก์ฟ้องคดีแรกขอให้เพิกถอนหรือทำลายพินัยกรรม แล้วมาฟ้องคดีหลังขอให้สั่งว่าพินัยกรรมไม่ชอบด้วยกฎหมายอีก แม้ฟ้องคดีหลังจะมีประเด็นขอให้กำจัดมิให้รับมรดกและเรียกค่าเสียหายด้วยก็ตาม เฉพาะประเด็นให้เพิกถอนพินัยกรรมนั้นต้องถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ
หากพยานฝ่ายที่นำสืบภายหลังเบิกความแตกต่างกับที่เคยเบิกความไว้ในคดีอาญาและฝ่ายที่นำสืบก่อนเพิ่งทราบเช่นนี้ เพื่อประโยชน์แห่งความยุตธรรม ศาลอนุญาตให้ฝ่ายนำสืบก่อนอ้างสำนวนคดีอาญาเป็นพยานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1469/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: คดีเดิมตัดสินแล้ว ห้ามฟ้องเรื่องเดียวกันซ้ำ
แม้โจทก์จำเลยในคดีนี้จะเป็นจำเลยเป็นโจทก์ในคดีก่อนก็ตาม แต่เมื่อคู่ความในคดีก่อนและคดีนี้เป็นคู่ความเดียวกัน และศาลมีข้อวินิจฉัยในประเด็นโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ฟ้องโจทก์ในคดีนี้ก็เป็นฟ้องซ้ำ จะรื้อฟื้นมาฟ้องอีกไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1469/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: คดีเดิม คู่ความเดิม เหตุเดิม ศาลยกฟ้องตามมาตรา 148
แม้โจทก์จำเลยในคดีนี้จะเป็นจำเลยเป็นโจทก์ในคดีก่อนก็ตาม แต่เมื่อคู่ความในคดีก่อนและคดีนี้เป็นคู่ความเดียวกัน และศาลมีข้อวินิจฉัยในประเด็นโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ฟ้องโจทก์ในคดีนี้ก็เป็นฟ้องซ้ำ จะรื้อฟื้นมาฟ้องอีกไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404-1405/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องผู้จัดการมรดก, การจัดการมรดก, ฟ้องซ้ำ, และการดำเนินการตามพินัยกรรม
มาตรา 183 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ให้อำนาจศาลจะสั่งให้คู่ความฝ่ายใดนำสืบในประเด็นข้อใดก่อนหรือหลังก็ได้ ฉะนั้น เมื่อประเด็นที่จำเลยต่อสู้เป็นประเด็นสำคัญ ซึ่งถ้าได้ความแล้วคดีอาจพิจารณาพิพากษาไปได้โดยไม่ต้องพิจารณาประเด็นข้ออื่นๆ แล้ว ศาลอาจสั่งให้จำเลยนำสืบก่อนทุกประเด็นก็ได้
พินัยกรรมก่อตั้งทรัสต์ก่อนประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 นั้น ไม่ขัดต่อกฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลานั้น และพินัยกรรมที่กำหนดให้โจทก์มีอำนาจจัดการและเก็บค่าเช่านั้น คำว่า จัดการ ในที่นี้ย่อมหมายถึงการดำเนินการต่างๆ ตลอดจนการฟ้องร้องคดีด้วย
พินัยกรรมตั้งผู้จัดการมรดกรวมสี่คน เมื่อเหลือโจทก์คนเดียวเพราะผู้จัดการมรดกสองคนถึงแก่กรรมและผู้จัดการมรดกอีกคนหนึ่งลาออก เมื่อพินัยกรรมมิได้กำหนดให้จัดการมรดกพร้อมกันแล้ว โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องคดีได้
การจัดการมรดกไม่ใช่สิทธิเรียกร้อง ไม่มีอายุความ เมื่อจัดการมรดกยังไม่เสร็จสิ้น ผู้จัดการมรดกย่อมมีอำนาจจัดการตลอดไปจนกว่าจะเสร็จสิ้น
โจทก์เคยฟ้องขับไล่จำเลย ศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะโจทก์แสดงอำนาจฟ้องไม่ถูกต้องนั้น ศาลยังมิได้วินิจฉัยประเด็นต่อสู้เรื่องขับไล่ ฉะนั้น โจทก์จึงมาฟ้องขับไล่จำเลยได้ใหม่ โดยไม่ถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404-1405/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องผู้จัดการมรดก, การจัดการทรัพย์มรดก, ฟ้องซ้ำ, และการนำสืบพยานในคดีแพ่ง
มาตรา 183 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ให้อำนาจศาลจะสั่งให้คู่ความฝ่ายใดนำสืบในประเด็นข้อใดก่อนหรือหลังก็ได้ ฉะนั้น เมื่อประเด็นที่จำเลยต่อสู้เป็นประเด็นสำคัญ ซึ่งถ้าได้ความแล้วคดีอาจพิจารณาพิพากษาไปได้โดยไม่ต้องพิจารณาประเด็นข้ออื่นๆ แล้ว ศาลอาจสั่งให้จำเลยนำสืบก่อนทุกประเด็นก็ได้
พินัยกรรมก่อตั้งทรัสต์ก่อนประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บรรพ 6 นั้น ไม่ขัดต่อกฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลานั้น และพินัยกรรมที่กำหนดให้โจทก์มีอำนาจจัดการและเก็บค่าเช่านั้น คำว่า จัดการ ในที่นี้ย่อมหมายถึงการดำเนินการต่างๆ ตลอดจนการฟ้องร้องคดีด้วย
พินัยกรรมตั้งผู้จัดการมรดกรวมสี่คน เมื่อเหลือโจทก์คนเดียวเพราะผู้จัดการมรดกสองคนถึงแก่กรรม และผู้จัดการมรดกอีกคนหนึ่งลาออก เมื่อพินัยกรรมมิได้กำหนดให้จัดการมรดกพร้อมกันแล้ว โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องคดีได้
การจัดการมรดกไม่ใช่สิทธิเรียกร้อง ไม่มีอายุความเมื่อจัดการมรดกยังไม่เสร็จสิ้น ผู้จัดการมรดกย่อมมีอำนาจจัดการตลอดไปจนกว่าจะเสร็จสิ้น
โจทก์เคยฟ้องขับไล่จำเลย ศาลพิพากษายกฟ้อง เพราะโจทก์แสดงอำนาจฟ้องไม่ถูกต้องนั้น ศาลยังมิได้วินิจฉัยประเด็นข้อต่อสู้เรื่องขับไล่ ฉะนั้น โจทก์จึงมาฟ้องขับไล่จำเลยได้ใหม่ โดยไม่ถือว่าเป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1254/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ-การนำสืบพยาน การฟ้องร้องเรียกเงินคืนหลังคดีอาญาเกี่ยวเนื่อง และการนำสืบพยานหลักฐาน
โจทก์ฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาที่ศาลแขวงในข้อหาว่าฉ้อโกงและเรียกเงินคืนจากจำเลยด้วยศาลแขวงวินิจฉัยแต่เพียงว่า จำเลยไม่ได้ใช้อุบายหลอกลวงเอาความเท็จมากล่าว ทั้งมิได้ปกปิดข้อความจริงซึ่งควรแจ้งให้ทราบ คดีไม่มีทางลงโทษจำเลยทางอาญา ส่วนประเด็นที่ว่าเงิน 6,300 บาทที่โจทก์ไปไถ่ถอยจำนองจะเป็นเงินของโจทก์หรือไม่และจำเลยจะได้รับเงินอีก 700 บาทจากโจทก์หรือไม่ ศาลแขวงกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยแสดงว่าประเด็นข้อนี้ศาลแขวงยังไม่ได้วินิจฉัยโจทก์มาฟ้องเรียกเงินจำนวน 7,000 บาทที่ศาลจังหวัดอีก ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ข้อที่จำเลยอ้างว่าการนำพยานบุคคลเข้าสืบหักล้างพยานเอกสาร เป็นการนำสืบที่ไม่ชอบนั้น จำเลยไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ เมื่อไม่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนย่อมต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1254/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำและการนำพยานบุคคลสืบหักล้างพยานเอกสาร: ศาลฎีกาวินิจฉัยประเด็นฟ้องซ้ำและข้อจำกัดในการนำสืบพยาน
โจทก์ฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาที่ศาลแขวงในข้อหาว่าฉ้อโกงและเรียกเงินคืนจากจำเลยด้วย ศาลแขวงวินิจฉัยแต่เพียงว่า จำเลยไม่ได้ใช้อุบายหลอกลวงเอาความเท็จมากล่าว ทั้งมิได้ปกปิดข้อความจริงซึ่งควรแจ้งให้ทราบ คดีไม่มีทางลงโทษจำเลยทางอาญา ส่วนประเด็นที่ว่าเงิน 6,300 บาทที่โจทก์ไปไถ่ถอนจำนองจะเป็นเงินของโจทก์หรือไม่ และจำเลยจะได้รับเงินอีก 700 บาทจากโจทก์หรือไม่ ศาลแขวงกล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย แสดงว่าประเด็นข้อนี้ศาลแขวงยังไม่ได้วินิจฉัย โจทก์มาฟ้องเรียกเงินจำนวน 7,000 บาท ที่ศาลจังหวัดอีก ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ข้อที่จำเลยอ้างว่าการนำพยานบุคคลเข้าสืบหักล้างพยานเอกสารเป็นการนำสืบที่ไม่ชอบนั้น จำเลยไม่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ เมื่อไม่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ย่อมต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 935/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในความผิดฐานขายอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต การกระทำแต่ละคราวเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระ
การใช้สถานที่เอกชนทำการขายและสะสมอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น การกระทำแต่ละคราวย่อมเกิดเป็นความผิดได้
ในระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2505 ถึงวันที่ 9 กรกฎาคม 2505 จำเลยได้ใช้บ้านเรือนจำเลยทำการขายและสะสมอาหารโดยมิได้รับอนุญาต จำเลยได้ถูกฟ้องและศาลได้พิพากษาลงโทษจำเลยไปแล้ว ต่อมาในระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2505 ถึงวันที่ 27 ตุลาคม 2505 จำเลยได้ใช้บ้านเรือนจำเลยทำการขายและสะสมอาหารโดยมิได้รับอนุญาตอีก จำเลยจึงถูกฟ้องหาว่ากระทำผิดในครั้งหลังนี้อีก ดังนี้ การกระทำของจำเลยในครั้งหลังนี้เป็นการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระกับการกระทำผิดที่ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยไปแล้ว การกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการกระทำครั้งเดียวคราวเดียวต่อเนื่องกันจึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 91/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องล้มละลายไม่เป็นฟ้องซ้ำคดีแพ่ง หากประเด็นต่างกัน คือ คดีแพ่งชี้สถานะลูกหนี้ ส่วนคดีล้มละลายชี้สถานะหนี้สินล้นพ้นตัว
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ ศาลพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ตามฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์นำเจ้าพนักงานยึดทรัพย์ของจำเลย แต่มีผู้ร้องขัดทรัพย์ ทรัพย์ที่เหลือไม่พอชำระหนี้ โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยเป็นบุคคลล้มละลาย การฟ้องเช่นนี้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคดีแพ่งซึ่งถึงที่สุดไปแล้วนั้นเป็นเรื่องชี้ขาดว่าจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ ส่วนคดีนี้มีประเด็นว่า เมื่อจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาแล้ว จำเลยเป็นบุคคลมีหนี้สินล้นพ้นตัว ควรตกเป็นบุคคลล้มละลายหรือไม่ การวินิจฉัยคดีทั้งสองนี้มิได้อาศัยเหตุอย่างเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 91/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีซ้ำในหนี้เดียวกัน: การฟ้องล้มละลายหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วไม่ถือเป็นฟ้องซ้อน
โจทก์เคยฟ้องคดีแพ่งถึงที่สุดไปแล้ว ศาลชี้ขาดว่าจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ ต่อมาโจทก์ฟ้องคดีในหนี้รายเดียวกันว่า จำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัวควรตกเป็นบุคคลล้มละลายเช่นนี้ไม่ถือว่าเป็นการฟ้องซ้อน หรือฟ้องซ้ำ
of 146