พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,439 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 923/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานทำร้ายร่างกาย แม้ผู้ตายถึงแก่ความตายจากสาเหตุอื่น ศาลยังลงโทษฐานทำร้ายได้
ในคดีฟ้องหาว่าจำเลยฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 251 นั้น ถ้าผู้ถูกทำร้ายตายเพราะเหตุอื่นไม่ใช่เพราะบาดแผลที่ถูกทำร้ายแล้ว ศาลก็ยังลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายได้ตาม ป.วิ.อาญา ม. 192 เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ยกฟ้อง โดยวินิจฉัยแต่ข้อเดียวว่าผู้ตายมิได้ตายเพราะบาดแผลที่จำเลยทำร้าย ศาลฎีกาสั่งย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยความผิดฐานทำร้ายร่างกายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 923/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานทำร้ายร่างกาย แม้ผู้ตายเสียชีวิตจากสาเหตุอื่น ศาลยังลงโทษได้
ในคดีฟ้องหาว่าจำเลยฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251 นั้น ถ้าผู้ถูกทำร้ายตายเพราะเหตุอื่น ไม่ใช่เพราะบาดแผลที่ถูกทำร้ายแล้ว ศาลก็ยังลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายได้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา192เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ยกฟ้อง โดยวินิจฉัยแต่ข้อเดียวว่าผู้ตายมิได้ตายเพราะบาดแผลที่จำเลยทำร้าย ศาลฎีกาสั่งย้อนสำนวนให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยความผิดฐานทำร้ายร่างกายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 906/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรวมโทษในความผิดหลายกระทง ศาลไม่จำเป็นต้องลงโทษขั้นต่ำทุกกระทง
ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 71 บัญญัติว่าในคำพิพากษาอันเดียวกันศาลจะลงโทษทุกกะทงก็ได้ ดังนี้ย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่าศาลจะไม่เรียงกะทงลงโทษก็ได้ และเมื่อไม่เรียงกะทงลงโทษแล้ว ก็ไม่จำต้องลงโทษไม่น้อยกว่าตราคั่นต่ำของทุกกะทงความผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 896/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตการฟ้องคดีอาญา: โจทก์จำกัดขอบเขตการลงโทษตามที่ฟ้อง ศาลต้องพิจารณาตามที่กล่าวโทษ
โจทก์ฟ้องหาว่า จำลเยสมคบกันลักแตงกวาซึ่งปลูกไว้ในนา ขอให้ลงโทษตาม กงม.ลักษณะอาญามาตรา 292 ไม่ได้ขอมาตรา 293(11) มาด้วยต้องฟังว่า โจทก์ไม่ประสงคืที่จะให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 293 คงพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา 292 ตามที่โจทก์ขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 775/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย: เจตนาสำคัญในการลงโทษ
ฟ้องโจทก์บรรยายเพียงว่า จำเลยสมคบกันใช้อาวุธทำร้ายผู้ตายแล้วผู้ตาย ตายเพราะพิษบาดแผลนั้น ไม่ได้กล่าวว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายให้ถึงแก่ความตาย เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยได้ใช้ไม้ทำร้ายผู้ตาย แต่ผู้ตายมีบาดแผลถูกฟันด้วยแสดงว่าถูกคนอื่นทำร้ายผู้ตายด้วยทั้งไม่ได้ความว่าได้สมคบกับจำเลยหรือไม่ เช่นนี้ จะลงโทษจำเลยตามมาตรา 249 ไม่ได้ ต้องลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามมาตรา 251
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 637/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมายอาญา, ศาลลงโทษตามบทที่เบากว่าได้
เจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 131
ฟ้องคดีอาญาฐานเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินยักยอกเงินในหน้าที่ ที่ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุมและแม้โจทก์จะขอให้ลงโทษตามมาตรา 131 มา แต่ศาลลงโทษตามมาตรา 319(3) ซึ่งมีโทษเบากว่าได้
ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลย 5 ปี ศาลอุทธรณ์แก้บทและแก้โทษจำคุกเป็น 4 ปี ดังนี้เป็นแก้ไขมาก ไม่ต้องห้ามฎีกาตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 200
ฟ้องคดีอาญาฐานเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินยักยอกเงินในหน้าที่ ที่ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุมและแม้โจทก์จะขอให้ลงโทษตามมาตรา 131 มา แต่ศาลลงโทษตามมาตรา 319(3) ซึ่งมีโทษเบากว่าได้
ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลย 5 ปี ศาลอุทธรณ์แก้บทและแก้โทษจำคุกเป็น 4 ปี ดังนี้เป็นแก้ไขมาก ไม่ต้องห้ามฎีกาตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 200
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 637/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมายอาญา การลงโทษฐานยักยอกทรัพย์
เจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินไม่ใช่เจ้าพนักงานตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 131
ฟ้องคดีอาญาฐานเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินยักยอกเงินในหน้าที่ ที่ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม และแม้โจทก์จะขอให้ลงโทษตามมาตรา 131 มา แต่ศาลลงโทษตามมาตรา 319(3) ซึ่งมีโทษเบากว่าได้
ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลย 5 ปี ศาลอุทธรณ์แก้บทและแก้โทษจำคุกเป็น 4 ปี ดังนี้เป็นแก้ไขมาก ไม่ต้องห้ามฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
ฟ้องคดีอาญาฐานเจ้าหน้าที่ธนาคารออมสินยักยอกเงินในหน้าที่ ที่ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม และแม้โจทก์จะขอให้ลงโทษตามมาตรา 131 มา แต่ศาลลงโทษตามมาตรา 319(3) ซึ่งมีโทษเบากว่าได้
ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลย 5 ปี ศาลอุทธรณ์แก้บทและแก้โทษจำคุกเป็น 4 ปี ดังนี้เป็นแก้ไขมาก ไม่ต้องห้ามฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสมคบทำร้ายร่างกาย แม้ฟ้องไม่ระบุตัวผู้กระทำผิด ก็ลงโทษได้เมื่อพิสูจน์ได้ว่าจำเลยกระทำ
คดีอาญาที่ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยหลายคนสมคบกันทำร้ายร่างกายผู้เสียหายหรือโจทก์หลายคนตามมาตรา 254,63 แม้ในฟ้องจะไม่ได้กล่าวว่าจำเลยคนใดทำร้ายโจทก์คนใดก็ดี เมื่อได้ความว่าจำเลยคนใดทำร้ายโจทก์ ก็ลงโทษได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบทำร้ายร่างกาย: แม้ฟ้องไม่ระบุตัวผู้กระทำผิด ก็ลงโทษได้หากพิสูจน์ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ลงมือ
คดีอาญาที่ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยหลายคนสมคบกันทำร้ายร่างกายผู้เสียหายหรือโจทก์หลายคนตามมาตรา 254,63 แม้ในฟ้องจะไม่ได้กล่าวว่าจำเลยคนใดทำร้ายโจทก์คนใดก็ดี เมื่อได้ความว่าจำเลยคนใดทำร้ายโจทก์ ก็ลงโทษได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 398/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษอาญาต้องสอดคล้องกับฟ้อง โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส แต่พยานไม่สนับสนุน ศาลลงโทษฐานทำร้ายร่างกายไม่ถึงบาดเจ็บ
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยใช้กำลังกายกลุ่มรุมกันทำร้าย ชกต่อย ถีบ เตะ ผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส ทางพิจารณาได้ความเพียงว่า จำเลยทำร้ายร่างกายผู้เสียหายไม่ถึงบาดเจ็บ แล้วในตอนหลังผู้เสียหายถูกคนอื่นซึ่งเป็นพรรคพวกขอบจำเลยทำร้ายบาดเจ็บสาหัส โดยโจทก์มิได้กล่าวในฟ้องว่า จำเลยได้สมคบกับคนอื่นที่ทำร้ายเหล่านั้นด้วย ดังนั้นจะลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสมิได้ จำเลยคงมีความผิดเพียง ฐานทำร้ายร่างกายไม่บาดเจ็บ