พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,266 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1162/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าผ้าและการฟ้องคดีซ้อน อายุความ 2 ปี
เช่าผ้าไปใช้ในกิจการโรงแรม อายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(6)
คดีเดิมจำเลยที่ 2 มิได้ถูกฟ้องด้วย จึงไม่เป็นฟ้องซ้อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173
บรรยายฟ้องว่าระหว่างวันที่ระบุในฟ้อง จำเลยจ้างโจทก์ซักรีดผ้าและเช่าผ้าของโจทก์ ค้างชำระค่าเช่าเป็นเงินตามที่ระบุ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์
คดีเดิมจำเลยที่ 2 มิได้ถูกฟ้องด้วย จึงไม่เป็นฟ้องซ้อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173
บรรยายฟ้องว่าระหว่างวันที่ระบุในฟ้อง จำเลยจ้างโจทก์ซักรีดผ้าและเช่าผ้าของโจทก์ ค้างชำระค่าเช่าเป็นเงินตามที่ระบุ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 983/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีรื้อถอนที่รุกล้ำเมื่อสิทธิของผู้ร้องหมดไป
ศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดให้จำเลยรื้อผนังตึกที่สร้างรุกล้ำ และขนย้ายออกไปให้พ้นเขตที่โจทก์มีสิทธิการเช่า ในชั้นที่โจทก์ขอบังคับคดีเจ้าของที่ดินผู้ให้เช่าได้บอกเลิกการเช่ากับโจทก์และจำเลยได้ทำสัญญาเช่าที่พิพาทนั้นโดยตรงจากเจ้าของแล้ว ดังนั้นฐานะในคดีของโจทก์เปลี่ยนเป็นว่า โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะใช้ที่พิพาทต่อไปและจำเลยคงอยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิตามสัญญาเช่าโดยตรงจากเจ้าของ รูปคดีไม่มีประโยชน์ต่อโจทก์ที่จะบังคับคดีโจทก์จึงไม่อาจขอให้บังคับคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 850/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดินหลังสัญญาหมดอายุและมีสัญญาใหม่ไม่มีกำหนดเวลา การบอกกล่าวล่วงหน้า และการสืบพยานนอกบัญชี
จำเลยเช่าที่ดินของโจทก์มีกำหนด 1 ปี โดยทำสัญญากันไว้เป็นหลักฐาน เมื่อสิ้นกำหนดตามสัญญา จำเลยยังคงครอบครองที่ดินที่เช่าอยู่ และโจทก์รู้ความนั้นแล้วไม่ทักท้วง การเช่าระหว่างโจทก์จำเลยในภายหลังต่อมาจึงถือว่าคู่สัญญาเป็นอันได้ทำสัญญาใหม่ต่อไปไม่มีกำหนดเวลา ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 570 ซึ่งโจทก์ผู้ให้เช่าอาจบอกเลิกสัญญาเช่าตามมาตรา 566 ก็ได้ ดังนี้ เมื่อปรากฏว่ากำหนดระยะเวลาชำระค่าเช่ากันเป็นรายเดือน และโจทก์มีหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลยเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2516 ให้จำเลยออกจากที่เช่าภายในวันที่ 31 มกราคม 2516 จำเลยรับหนังสือดังกล่าวเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2516 และโจทก์ฟ้องจำเลยในวันที่ 8 มีนาคม 2516 จึงถือได้ว่าโจทก์บอกกล่าวล่วงหน้าก่อนชั่วกำหนดเวลาชำระค่าเช่าระยะหนึ่งแล้วตามมาตรา 566 การบอกกล่าวของโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมาย (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 845/2490)
แม้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 (2) จะห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานฝ่าฝืนมาตรา 88 และมาตรา 90 ก็ตาม แต่ในมาตรา 87 (2) นั้นเอง ก็ได้บัญญัติต่อไปว่า " ฯลฯ แต่ถ้าศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี โดยฝ่าฝืนบทบัญญัติของอนุมาตรานี้ ให้ศาลมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านั้นได้" ดังนั้นการที่โจทก์มิได้ยื่นบัญชีระบุพยาน และศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์สืบตัวโจทก์ซึ่งเป็นพยานสำคัญในคดีเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงเป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 623/2500)
แม้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 (2) จะห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานฝ่าฝืนมาตรา 88 และมาตรา 90 ก็ตาม แต่ในมาตรา 87 (2) นั้นเอง ก็ได้บัญญัติต่อไปว่า " ฯลฯ แต่ถ้าศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี โดยฝ่าฝืนบทบัญญัติของอนุมาตรานี้ ให้ศาลมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านั้นได้" ดังนั้นการที่โจทก์มิได้ยื่นบัญชีระบุพยาน และศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์สืบตัวโจทก์ซึ่งเป็นพยานสำคัญในคดีเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จึงเป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 623/2500)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 850/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่าหลังหมดอายุสัญญาและมีสัญญาใหม่โดยปริยาย การบอกกล่าวล่วงหน้าและการอนุญาตสืบพยาน
จำเลยเช่าที่ดินของโจทก์มีกำหนด 1 ปี โดยทำสัญญากันไว้เป็นหลักฐาน เมื่อสิ้นกำหนดตามสัญญา จำเลยยังคงครอบครองที่ดินที่เช่าอยู่ และโจทก์รู้ความนั้นแล้วไม่ทักท้วง. การเช่าระหว่างโจทก์จำเลยในภายหลังต่อมาจึงถือว่าคู่สัญญาเป็นอันได้ทำสัญญาใหม่ต่อไปไม่มีกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 570 ซึ่งโจทก์ผู้ให้เช่าอาจบอกเลิกสัญญาเช่าตามมาตรา 566 ก็ได้ ดังนี้เมื่อปรากฏว่ากำหนดระยะเวลาชำระค่าเช่ากันเป็นรายเดือนและโจทก์มีหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่ากับจำเลย เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2516ให้จำเลยออกจากที่เช่าภายในวันที่ 31 มกราคม 2516จำเลยรับหนังสือดังกล่าวเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2516 และโจทก์ฟ้องจำเลยในวันที่ 8 มีนาคม 2516 จึงถือได้ว่าโจทก์บอกกล่าวล่วงหน้าก่อนชั่วกำหนดเวลาชำระค่าเช่าระยะหนึ่งแล้วตามมาตรา 566 การบอกกล่าวของโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 79/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าไม่จดทะเบียนและฟ้องแย้งบังคับจดทะเบียน: ศาลไม่รับฟ้องแย้ง แม้มีค่าตอบแทนพิเศษ
ฟ้องแย้งของจำเลยที่ขอให้โจทก์จดทะเบียนการเช่าตึกแถวพิพาทมีกำหนด 10 ปี โดยอ้างว่าเป็นสัญญาต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา เพราะจำเลยเสียค่าตอบแทนการเช่าเป็นเงิน 20,000 บาท ซึ่งตามคำให้การไม่กล่าวว่าเป็นเงินค่าอะไรอีก แม้จะฟังข้อเท็จจริงได้ดังข้ออ้างของจำเลย ก็หาทำให้สัญญาเช่าเป็นสัญญาต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดาไม่ เมื่อมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยจะฟ้องบังคับให้โจทก์ไปจดทะเบียนหาได้ไม่ แม้ศาลจะรับฟ้องแย้งไว้ จำเลยก็ไม่มีทางชนะคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 79/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าไม่จดทะเบียน: แม้มีค่าเช่าพิเศษก็ไม่อาจบังคับให้จดทะเบียนได้
ฟ้องแย้งของจำเลยที่ขอให้โจทก์จดทะเบียนการเช่าตึกแถวพิพาทมีกำหนด 10 ปี โดยอ้างว่าเป็นสัญญาต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดา เพราะจำเลยเสียค่าตอบแทนการเช่าเป็นเงิน 20,000 บาท ซึ่งตามคำให้การไม่กล่าวว่าเป็นเงินค่าอะไรอีก แม้จะฟังข้อเท็จจริงได้ดังข้ออ้างของจำเลย ก็หาทำให้สัญญาเช่าเป็นสัญญาต่างตอบแทนพิเศษยิ่งกว่าสัญญาเช่าธรรมดาไม่ เมื่อมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จำเลยจะฟ้องบังคับให้โจทก์ไปจดทะเบียนหาได้ไม่แม้ศาลจะรับฟ้องแย้งไว้ จำเลยก็ไม่มีทางชนะคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 788/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของสถานที่เช่าในการยึดคืนที่เช่าเมื่อผู้เช่าผิดสัญญา และไม่เป็นความผิดอาญา
ข้อสัญญาเช่าที่ว่า เมื่อผู้เช่าผิดสัญญาในการชำระเงินตามกำหนดเวลา เจ้าของสถานที่เช่ามีสิทธิกลับเข้าครอบครองสถานที่ ย้ายบุคคลออกไปจากสถานที่ทั้งหมด เข้าครอบครองสถานที่และเครื่องมือเครื่องใช้ทุกอย่าง สิ่งของที่ติดกับสถานที่และทรัพย์สินส่วนตัวทั้งหมดในสถานที่เช่า และไม่ว่าจะได้หรือไม่ได้บอกเลิกสัญญาเช่าก็ตาม ก็สามารถให้เช่าสถานที่เช่าได้ใหม่ นั้น ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ใช้บังคับได้ เมื่อโจทก์ผู้เช่าเป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยที่ 1 เจ้าของสถานที่เช่าใช้สิทธิตามสัญญานี้ได้ และการที่จำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นที่ปรึกษากฎหมายของจำเลยที่ 1 ให้คนงานใช้ลวดไขกุญแจที่ใส่ปิดประตูห้องพิพาทออกแล้วเอากุญแจลูกใหม่ใส่แทน เป็นเหตุให้โจทก์กับพนักงานเข้าไปใช้ห้องพิพาทไม่ได้ จึงไม่มีมูลเป็นความผิดทางอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 788/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าและการใช้สิทธิของเจ้าของสถานที่เมื่อผู้เช่าผิดสัญญา ไม่เป็นความผิดอาญา
ข้อสัญญาเช่าสำนักงานมีว่า ถ้าผู้เช่าผิดสัญญาไม่ชำระค่าเช่าตามกำหนด ผู้ให้เช่ากลับเข้าครอบครองสถานที่ ย้ายบุคคลออก ฯลฯ ได้ข้อสัญญานี้ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ผู้เช่าค้างชำระค่าเช่าผู้ให้เช่าใช้ลวดไขกุญแจห้องเช่าออกเอากุญแจใหม่ใส่แทน ผู้เช่าเข้าห้องเช่าไม่ได้ ดังนี้ เป็นการใช้สิทธิตามสัญญาเช่า ไม่เป็นความผิดอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องขับไล่ในกรณีเช่าที่ดิน: สัญญาเช่าของผู้ให้เช่าเดิมไม่กระทบสิทธิการฟ้องของผู้จัดการมรดก
ผู้จัดการมรดกของ ส. เป็นโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยผู้อาศัยออกจากห้องพิพาท ซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินที่ ส. เช่าจากผู้อื่นมา มิได้ขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดิน แม้จะมีผลให้จำเลยต้องออกไปจากที่ดินดังกล่าวด้วย ก็ไม่ทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย และสัญญาเช่าที่ดินที่ ส. ทำไว้กับผู้อื่นจะมีผลประการใด ก็เป็นเรื่องระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่าไม่เกี่ยวกับจำเลย จำเลยจะอ้างว่าเมื่อ ส. ถึงแก่กรรมสัญญาเช่าที่ดินที่ ส. ทำไว้กับผู้อื่นย่อมระงับไป และโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าบนที่ดินเช่า แม้สัญญาเช่าที่ดินระงับ
ผู้จัดการมรดกของ ส. เป็นโจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยผู้อาศัยออกจากห้องพิพาทซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินที่ ส. เช่าจากผู้อื่นมา มิได้ขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดิน แม้จะมีผลให้จำเลยต้องออกไปจากที่ดินดังกล่าวด้วยก็ไม่ทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย และสัญญาเช่าที่ดินที่ ส. ทำไว้กับผู้อื่นจะมีผลประการใด ก็เป็นเรื่องระหว่างผู้เช่ากับผู้ให้เช่าไม่เกี่ยวกับจำเลย จำเลยจะอ้างว่าเมื่อ ส. ถึงแก่กรรม.สัญญาเช่าที่ดินที่ ส. ทำไว้กับผู้อื่นย่อมระงับไปและโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องหาได้ไม่