พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,178 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 913/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานร่วมและการวินิจฉัยข้อพิพาทเมื่อพยานเบิกความไม่ตรงตามข้อตกลง
โจทก์จำเลยตกลงสืบพยานร่วมปากเดียว ถ้าพยานมีความว่าในการกู้ยืมได้ระบุที่พิพาทเป็นประกันเงินกู้ โจทก์ยอมแพ้ ถ้าไม่ได้ระบุที่รายพิพาทเป็นประกันเงินกู้แล้ว จำเลยยอมแพ้ พยานเบิกความว่าในการกู้เงินได้ระบุที่สวนของจำเลยประกันเงินกู้ ดังนี้ จำเลยจะมีที่ดินแปลงเดียวหรืออย่างไรไม่ทราบชัด เห็นได้ว่าพยานไม่ได้เบิกความว่า ได้ระบุที่พิพาทเป็นประกัน ฉะนั้นจะชี้ขาดให้ฝ่ายใดชนะคดีเพราะคำพยานร่วมไม่ได้ศาลต้องวินิจฉัยตามท้องสำนวนเท่าที่มีอยู่ว่า คู่กรณีฝ่ายใดควรชนะคดี
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาท จำเลยให้การว่าโจทก์อยู่ในที่พิพาทโดยทางอาศัย จำเลยยอมเป็นฝ่ายนำสืบพยานก่อน เมื่อพยานร่วมเบิกความไม่สมจำเลย จำเลยก็ต้องแพ้คดี
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาท จำเลยให้การว่าโจทก์อยู่ในที่พิพาทโดยทางอาศัย จำเลยยอมเป็นฝ่ายนำสืบพยานก่อน เมื่อพยานร่วมเบิกความไม่สมจำเลย จำเลยก็ต้องแพ้คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าสวนที่มีข้อตกลงพิเศษ: สิทธิในการเช่าต่อเนื่องเมื่อปฏิบัติตามข้อตกลง
โจทก์จำเลยตกลงกันให้จำเลยเช่าสวนของโจทก์มีกำหนด 6 ปี โดยจำเลยมีหน้าที่ปลูกส้มเขียวหวานลงในสวนของโจทก์ดังนี้ เป็นสัญญาต่างตอบแทนชะนิดหนึ่ง ซึ่งมิใช่สัญญาเช่าตามธรรมดา ฉะนั้นเมื่อจำเลยได้ปฏิบัติตามข้อสัญญา คือได้ปลูกส้มเขียวหวานลงแล้ว จำเลยก็ย่อมมีสิทธิที่จะได้เช่าสวนต่อไปตามข้อสัญญาที่ตกลงกันไว้จำเลยจึงมีอำนาจฟ้องขอให้จำเลยจัดการจดทะเบียนการเช่าให้จำเลยได้ตามนัยฎีกาที่ 172/2488
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 574/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องหย่าเนื่องจากมีภรรยาใหม่ ละทิ้งภรรยาเก่า และไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง
ชายมีภรรยาอยู่แล้ว ยังไปมีภรรยาใหม่อีกแล้วพาภรรยาใหม่ไปจดทะเบียนสมรส และไม่ถือว่าภรรยาเก่าเป็นภรรยา ซึ่งแสดงว่าชายหมดอาลัยใยดีต่อภรรยาเก่าแล้วถือได้ว่า ชายกระทำเป็นปฏิปักษ์ต่อลักษณะการเป็นสามีภริยากับภรรยาเก่าอย่างร้ายแรง และชายยังมิได้ส่งเสียเลี้ยงดูภรรยาเก่าและบุตรตามคำสัญญาประนีประนอมเป็นเวลาปีเศษ โดยไม่มีเหตุจำเป็นอันใด ดังนี้ ภรรยาเก่าฟ้องขอหย่าขาดจากการเป็นสามีภริยากับชายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 561/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าปากเปล่ามีผลผูกพันทางกฎหมายเมื่อมีหลักฐานลายมือชื่อของผู้เช่ารับรองข้อตกลง
เช่านากันด้วยปากเปล่าภายหลัง เกิดพิพาทกันถึงอำเภอ ปลัดอำเภอได้เปรียบเทียบและบันทึกการเปรียบเทียบไว้ว่า ผู้เช่าได้เช่านามาจากผู้ให้เช่า เป็นอัตราเชาเท่านั้นเท่านี้ จริงแล้วผู้เช่าได้ลงชื่อไว้ในบันทึก การเปรียบเทียบนั้น ดังนี้ ย่อมถือได้ว่า บันทึกการเปรียบเทียบนั้น เป็นหลักกฐานหนังสือลงลายมือชื่อผู้ต้องรับผิด ตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 538 ผู้ให้เช่าย่อมฟ้องผู้เช่า ให้ชำระค่าเช่า ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 445/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงทำแผนที่เพื่อวินิจฉัยคดี: ศาลใช้หลักฐานที่คู่ความตกลงร่วมกันได้
คู่ความตกลงกันให้ศาลปูแผนที่หลังโฉนดเปรียบเทียบดูว่าที่พิพาทและกอไผ่ควรจะอยู่ในเขตของฝ่ายใด โดยต่างฝ่ายต่างไม่ติดใจสืบพยานบุคคลต่อไป ถือเอาประเด็นข้อนี้เป็นข้อแพ้ชนะ ดังนี้ เป็นสิ่งที่ศาลสามารถจะพิจารณาความจริงหรือวินิจฉัยคดีไปตามหลักฐานที่คู่ความประสงค์เจาะจงอ้างอิงและตกลงกันไว้ ได้ เพราะไม่ใช่สิ่งพ้นวิสัยของบุคคลธรรมดาจะกระทำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 249/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิร่วมกันในสัญญาเช่าหลังหย่า: สัญญาทำก่อนหย่า สิทธิยังคงเป็นของทั้งสองฝ่ายหากไม่มีข้อตกลงแยก
ภรรยาเกิดระหองระแหงกับสามี จึงแยกไปทำสัญญาเช่าตึกในนามของภรรยา และอยู่ในตึกรายนี้ แต่ต่อมาได้คืนดีกัน และสามีได้มาอยู่รวมในตึกรายนี้ด้วย ภายหลังจึงได้ตกลงทำหนังสือหย่าขาดจากกัน แต่สามีก็ยังคงอยู่ในตึกรายนี้ด้วยตลอดมา ดังนี้ แม้สัญญาจะทำในนามของภรรยา แต่ขณะนั้นยังมิได้หย่าขาดจากกัน และการทำสัญญาเช่าก็ไม่เกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนตัวของภรรยา ฉะนั้นสิทธิตามสัญญาเช่านี้จึงเป็นสิทธิรวมกันระหว่างสามีภรรยาเมื่อตกลงทำสัญญาหย่ากัน มิได้ตกลงในเรื่องสิทธิการเช่ารายนี้ประการใดแล้ว และทั้งสองฝ่ายยังครอบครองอยู่ด้วยตลอดมา จึงยังเป็นสิทธิร่วมกันอยู่ ภรรยาจะมาฟ้องขับไล่สามีให้ออกไปจากตึกเช่ายังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1434/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายข้าวเปลือกและการหักหนี้: สิทธิเรียกร้องเมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อข้าวเปลือกของโจทก์ไป ยังไม่ได้ชำระราคา โดยตกลงจะหักหนี้ที่โจทก์กู้เงินจำเลยไว้ แต่ภายหลังจำเลยกลับเอาสัญญากู้มาฟ้องเรียกเงินจากโจทก์ โดยไม่หักค่าข้าวเปลือกให้ตามที่ตกลงกันไว้ ดังนี้ แม้การซื้อขายข้าวเปลือกจะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ แต่ได้มีการส่งมอบข้าวเปลือกกันแล้ว ซึ่งถือได้ว่ามีการชำระหนี้กันแล้ว โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิฟ้องร้องเรียกให้จำเลยส่งข้าวเปลือกคืน หรือใช้ราคาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1314/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงให้ใช้พื้นที่เพื่อประโยชน์ร่วมกัน ไม่ถือเป็นสัญญาเช่า การเพิกถอนสิทธิการใช้พื้นที่
ให้เขาอาศัยตั้งร้านตัดผมในตึกที่ตนเช่ามา โดยคิดเอาประโยชน์จากเขามากบ้างน้อยบ้างจากการตัดผม ดังนี้
ไม่ถือว่าเป็นการเช่าหรือเช่าช่วง ฉะนั้นเมื่อไม่ต้องการให้เขาอยู่ต่อไป เขาก็ต้องออกไปจากตึกนั้น
ไม่ถือว่าเป็นการเช่าหรือเช่าช่วง ฉะนั้นเมื่อไม่ต้องการให้เขาอยู่ต่อไป เขาก็ต้องออกไปจากตึกนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงใหม่หลังผิดสัญญาเช่า และการยินยอมให้เลิกสัญญาเช่าตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า
ผู้เช่าผิดสัญญาเช่าที่ทำไว้กับผู้ให้เช่า จึงตกลงกับผู้ให้เช่าใหม่ โดยบันทึกข้อตกลงใหม่นี้ในด้านหลังสัญญาเช่าเดิมว่า ผู้เช่าจะทาสีน้ำมันภายในบ้านที่เช่าให้ภายใน 1 ปี ถ้าผิดสัญญายอมออกทันทีโดยไม่เรียกค่าเสียหายใด ๆดังนี้ เมื่อครบกำหนด 1 ปีแล้ว ผู้เช่ายังไม่ทาสีบ้านเช่าให้ ก็ต้องถือว่าผู้เช่าเลือกปฏิบัติในทางที่จะออกจากบ้านเช่าไปหรือนัยหนึ่งเป็นอันถือได้ว่าผู้ให้เช่าได้รับความยินยอมของผู้เช่าในอันที่จะเลิกใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินที่เช่าตามความหมายของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ2489 มาตรา 16(5) แล้ว จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากเคหะที่เช่าได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงทาสีบ้านเช่าและการสิทธิฟ้องขับไล่
ผู้เช่าผิดสัญญาเช่าที่ทำไว้กับผู้ให้เช่า จึงตกลงกับผู้ให้เช่าใหม่โดยบันทึกข้อตกลงใหม่นี้ในด้านหลังสัญญาเช่าเดิมว่า ผู้เช่าจะทาสีน้ำมันภายในบ้านที่เช่าให้ภายใน1 ปี ถ้าผิดสัญญายอมออกทันทีโดยไม่เรียกค่าเสียหายใดๆ ดังนี้ เมื่อครบกำหนด 1 ปีแล้วผู้เช่ายังไม่ทาสีบ้านเช่าให้ ก็ต้องถือว่าผู้เช่าเลือกปฏิบัติในทางที่จะออกจากบ้านเช่าไป หรือนัยหนึ่งเป็นอันถือได้ว่าผู้ให้เช่าได้รับความยินยอมของผู้เช่าในอันที่จะเลิกใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินที่เช่าตามความหมายของพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ 2489 มาตรา 16(5) แล้ว จึงมีสิทธิ์ฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากเคหะที่เช่าได้