คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ฟ้องซ้ำ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,459 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 891/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: สิทธิฟ้องระงับหากฟ้องฐานความผิดบางบทแล้ว
จำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ ได้ฉีดยาให้บุคคลหนึ่งโดยประมาทเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายนั้น เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท เมื่อโจทก์ไม่ฟ้องจำเลยตามฐานความผิดทุกบทกฎหมายเสียในคดีเดียวกัน กลับเลือกฟ้องจำเลยฐานประกอบโรคศิลปะไม่รับอนุญาตจนศาลพิพากษาลงโทษไปแล้ว ก็ได้ชื่อว่าความผิดของจำเลยซึ่งได้ฟ้องนั้นมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้ว โจทก์จึงหมดสิทธิที่จะฟ้องจำเลยฐานทำให้คนตายโดยประมาทอีก มิฉะนั้นความผิดกรรมเดียวของจำเลยก็จะถูกพิจารณาพิพากษาสองซ้ำสองหน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 841/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมเดียวผิดหลายบท: สิทธิฟ้องระงับเมื่อฟ้องคดีแรกไปแล้ว
จำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ ได้ฉีดยาให้บุคคลหนึ่งโดยประมาทเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายนั้น เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท เมื่อโจทก์ไม่ฟ้องจำเลยตามฐานความผิดทุกบทกฎหมายเสียในคดีเดียวกัน กลับเลือกฟ้องจำเลยฐานประกอบโรคศิลปไม่รับอนุญาตจนศาลพิพากษาลงโทษไปแล้ว ก็ได้ชื่อว่าความผิดของจำเลยซึ่งได้ฟ้องนั้นมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้ว โจทก์จึงหมดสิทธิที่จะฟ้องจำเลยฐานทำให้คนตายโดยประมาทอีก มิฉะนั้น ความผิดกรรมเดียวของจำเลยก็จะถูกพิจารณาสองซ้ำสองหนไม่ชอบกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 299/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำในคดีโกงเจ้าหนี้: สิทธิฟ้องไม่ระงับหากคดีเดิมยังไม่ถึงที่สุด
ผู้เสียหายคนหนึ่งฟ้องจำเลยฐานโกงเจ้าหนี้ต่อสาลชั้นต้นศาลหนึ่ง ผู้เสียหายอีกคนหนึ่งฟ้องจำเลยในความผิดเดียวกันต่อศาลชั้นต้นอีกศาลหนึ่งการที่ศาลในคดีแรกพิพากษายกฟ้อง แต่ผู้เสียหายอุทธรณ์และคดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์นั้น ไม่ทำให้สิทธินำคดีอาญาของผู้เสียหายในคดีหลังมาฟ้องระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39 (4) เพราะหาใช่เป็นกรณีที่มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องนั้นไม่ คดีก่อนยังอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 990/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดกรรมเดียวแต่หลายบท: การบุกรุกและทำร้ายร่างกาย ศาลพิพากษาซ้ำไม่ได้หากฟ้องไปแล้ว
การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปทำร้ายร่างกายผู้เสียหายในเคหสถาน การบุกรุกเป็นกรรมเดียวและวาระเดียวกันกับความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นเรื่องการกระทำผิดกฎหมายหลายบท เมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายไปแล้ว โจทก์จะกลับมาฟ้องจำเลยฐานบุกรุกอีกไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (4)
ความผิดกรรมเดียวที่ผิดกฎหมายหลายบท บางบทขึ้นศาลทหาร บางบทขึ้นศาลพลเรือน ถ้าโจทก์ประสงค์จะให้ศาลวางโทษจำเลยในบทที่หนัก ก็ชอบที่โจทก์จะได้ฟ้องต่อศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาในบทที่หนัก ถ้าโจทก์ได้ฟ้องจำเลยต่อศาลทหาร ๆ พิพากษาในบทที่หนัก ถ้าโจทก์ได้ฟ้องจำเลยต่อศาลทหาร ๆ พิพากษาลงโทษจำเลยในบทที่ขึ้นศาลทหารไปแล้ว โจทก์จะมาฟ้องจำเลยต่อศาลพลเรือนในความผิดที่ขึ้นศาลพบเรือนอีกไม่ได้ แม้ความผิดหลังนี้จะมีโทษหนักกว่าก็ตาม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 990/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในความผิดกรรมเดียว: ศาลยกฟ้องเมื่อศาลอื่นพิพากษาลงโทษไปแล้ว
การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปทำร้ายร่างกายผู้เสียหายในเคหสถานการบุกรุกเป็นกรรมเดียวและวาระเดียวกันกับความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นเรื่องการกระทำผิดกฎหมายหลายบทเมื่อศาลพิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายไปแล้ว โจทก์จะกลับมาฟ้องจำเลยฐานบุกรุกอีกไม่ได้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)
ความผิดกรรมเดียวที่ผิดกฎหมายหลายบท บางบทขึ้นศาลทหารบางบทขึ้นศาลพลเรือน ถ้าโจทก์ประสงค์จะให้ศาลวางโทษจำเลยในบทที่หนัก ก็ชอบที่โจทก์จะได้ฟ้องต่อศาลที่มีอำนาจพิพากษาในบทที่หนัก ถ้าโจทก์ได้ฟ้องจำเลยต่อศาลทหาร ศาลทหารพิพากษาลงโทษจำเลยในบทที่ขึ้นศาลทหารไปแล้ว โจทก์จะมาฟ้องจำเลยต่อศาลพลเรือนในความผิดที่ขึ้นศาลพลเรือนอีกไม่ได้ แม้ความผิดหลังนี้จะมีโทษหนักกว่าก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 818/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: ประเด็นบังคับคดีเดิมเกี่ยวกับการรังวัดที่ดินและแนวเขตที่พิพาทแล้ว
คดีก่อนโจทก์ฟ้องว่า ได้นำเจ้าพนักงานรังวัดที่ดิน 3 แปลงเพื่อขอรับโฉนด แต่จำเลยคัดค้านว่าเป็นที่สาธารณ ศาลให้ทำแผนที่วิวาทและพิพากษาว่าที่ดินตามแผนที่วิวาทเป็นของโจทก์ คดีถึงที่สุดแล้วโจทก์มาฟ้องคดีนี้ใหม่ว่าโจทก์ขอออกโฉนดที่ดินรายนี้ชนะคดี จำเลยคัดค้านว่าโจทก์นำวัดรุกล้ำที่สาธารณไม่รับรองเขตให้ เจ้าพนักงานจึงออกโฉนดให้โจทก์ไม่ได้จึงขอให้จำเลยรับรองแนวเขตอย่าให้ขัดขวางในการที่โจทก์จะออกโฉนด ดังนี้ เป็นกรณีที่น่าจะบังคับกันได้ในการบังคับคดีเรื่องก่อน จึงเป็นฟ้องซ้ำ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 818/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: คดีเดิมวินิจฉัยแนวเขตแล้ว คดีใหม่ขอให้รับรองแนวเขตเดิม ถือเป็นการฟ้องซ้ำต้องห้าม
คดีก่อนโจทก์ฟ้องว่า ได้นำเจ้าพนักงานรังวัดที่ดิน 3 แปลงเพื่อขอรับโฉนดแต่จำเลยคัดค้านว่าเป็นที่สาธารณ ศาลให้ทำแผนที่วิวาทและพิพากษาว่าที่ดินตามแผนที่วิวาทเป็นของโจทก์ คดีถึงที่สุดแล้วโจทก์มาฟ้องคดีนี้ใหม่ว่า โจทก์ขอออกโฉนดที่ดินรายที่ชนะคดีจำเลยคัดค้านว่าโจทก์นำวัดรุกล้ำที่สาธารณไม่รับรองเขตให้เจ้าพนักงานจึงออกโฉนดให้โจทก์ไม่ได้ จึงขอให้จำเลยรับรองแนวเขตอย่าให้ขัดขวางในการที่โจทก์จะออกโฉนดดังนี้ เป็นกรณีที่น่าจะบังคับกันได้ในการบังคับคดีเรื่องก่อน จึงเป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 568/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องล้มละลายซ้ำ: ศาลไม่อนุญาตหากเจ้าหนี้ไม่ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายก่อนหน้า
จำเลยเป็นหนี้โจทก์ 2 จำนวน โจทก์เคยฟ้องจำเลยให้ล้มละลายในหนี้จำนวนหนึ่งแล้ว แต่โจทก์ไม่ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ทั้ง 2 จำนวนในกำหนดศาลจึงสั่งยกเลิกการล้มละลายเสีย ดังนี้ โจทก์จะเอาหนี้ 2 จำนวนนั้นมาฟ้องล้มละลายอีกไม่ได้ เพราะถ้ายอมให้ฟ้องได้ก็เท่ากับอนุญาตให้ขยายระยะเวลาขอรับชำระหนี้อันผิดบทบัญญัติในพระราชบัญญัติล้มละลาย
การที่ศาลจะสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดหรือให้ล้มละลายนั้นย่อมทำให้ลูกหนี้ถูกจำกัดสิทธิและไม่สามารถจัดกิจการทรัพย์สินได้ด้วยตนเองจึงต้องเป็นไปโดยมีเหตุสมควรจริงๆ ไม่ใช่ให้ใช้กฎหมายล้มละลายเป็นเครื่องมือบีบคั้นลูกหนี้เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 396/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งไม่รับฟ้องไม่ถือเป็นคำพิพากษา ฟ้องซ้ำต้องห้ามเฉพาะคำพิพากษาถึงที่สุด
ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรค 3, 18 วรรค 2, 3 และ 5 จะเห็นระบบการดังนี้คือ ในชั้นตรวจคำฟ้องหรือคำคู่ความนั้น ศาลอาจจะกระทำได้เพียง 3 ประการ คือ สั่งรับ สั่งไม่รับ และสั่งคืนไป เท่านั้น เมื่อสั่งไม่รับฟ้องไว้พิจารณาแล้วก็จะพิพากษายกฟ้องไม่ได้
คำว่า "ให้ยกเสีย" ในมาตรา 172 กับคำว่า "มีคำสั่งไม่รับ" ในมาตรา 18 กฎหมายประสงค์ให้มีผลอย่างเดียวกัน เพราะคำว่า "ให้ยกเสีย" ตามมาตรา 172 จะถือว่าเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นแห่งคดีตามมาตรา 131 ไม่ได้
ในคดีก่อน ศาลชั้นต้นโดยผู้พิพากษารายเดียวสั่งในคำฟ้องว่า ไม่มีมูลหนี้ที่โจทก์จะฟ้องจำเลยในคดีนี้ได้ ไม่รับฟ้องไว้พิจารณา ให้ยกฟ้องโจทก์ คำสั่งนี้เป็นคำสั่งเหมือนให้ยกเสียตามมาตรา 172 ซึ่งมีผลเช่นเดียวกับคำสั่งไม่รับคำคู่ความตามความในมาตรา 18 เพราะไม่ได้มีการวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นแห่งคดีตามมาตรา 131 ่เลย เมื่อโจทก์มาฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่ในเรื่องเดียวกันอีก จึงไม่เป็นการฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 396/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งไม่รับฟ้องในชั้นตรวจคำฟ้อง ไม่ถือเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นแห่งคดี ฟ้องซ้ำไม่มี
ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172วรรค 318 วรรค 2,3 และ 5 จะเห็นระบบการดังนี้ คือ ในชั้นตรวจคำฟ้องหรือคำคู่ความนั้นศาลอาจกระทำได้เพียง 3 ประการ คือ สั่งรับ สั่งไม่รับ และสั่งคืนไปเท่านั้นเมื่อสั่งไม่รับฟ้องไว้พิจารณาแล้วก็จะพิพากษายกฟ้องไม่ได้
คำว่า'ให้ยกเสีย' ในมาตรา 172 กับคำว่า'มีคำสั่งไม่รับ' ในมาตรา 18 กฎหมายประสงค์ให้มีผลอย่างเดียวกันเพราะคำว่า 'ให้ยกเสีย' ตามมาตรา 172 จะถือว่าเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นแห่งคดีตามมาตรา 131 ไม่ได้
ในคดีก่อน ศาลชั้นต้นโดยผู้พิพากษานายเดียวสั่งในคำฟ้องว่า ไม่มีมูลหนี้ที่โจทก์จะฟ้องจำเลยในคดีนั้นได้ ไม่รับฟ้องไว้พิจารณา ให้ยกฟ้องโจทก์ คำสั่งนี้เป็นคำสั่งเสมือนว่าให้ยกเสียตามมาตรา 172 ซึ่งมีผลเช่นเดียวกับคำสั่งไม่รับคำคู่ความตามความในมาตรา 18 เพราะไม่ได้มีการวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นแห่งคดี ตามมาตรา 131 เลยเมื่อโจทก์มาฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่ในเรื่องเดียวกันอีก จึงไม่เป็นการฟ้องซ้ำ
of 146