พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,733 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเรียกร้องตามเช็ค: การต่อสู้เรื่องไม่มีมูลหนี้ และการเป็นผู้ทรงเช็คโดยสุจริต
ประเด็นสำคัญที่จำเลยที่ 1 ยกขึ้นต่อสู้ในคำให้การคือเช็คพิพาทที่จำเลยที่ 1 ออกให้แก่จำเลยที่ 2 นั้น เป็นเช็คที่ไม่มีมูลหนี้ต่อกันระหว่างจำเลยทั้งสอง โจทก์รับโอนเช็คพิพาทมาโดยรู้ว่าจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระให้แก่จำเลยที่ 2 ผู้โอน อันเป็นการต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คพิพาทโดยสุจริตและชอบด้วยกฎหมาย ถ้าข้อเท็จจริงเป็นดังที่จำเลยที่ 1 ให้การต่อสู้ โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายให้ใช้เงินตามเช็ค ดังนั้น จำเลยที่ 1 จึงมีสิทธิที่จะนำสืบพยานตามข้อต่อสู้ดังกล่าว (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1238/2401 และ 1768/2517)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 694/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องค่าซ่อมจากเงินจากการบังคับคดี: ไม่ใช่การขอกันส่วน แต่เป็นคดีมีทุนทรัพย์
โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยยึดรถแทรกเตอร์ของจำเลยขายทอดตลาด ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ค่าซ่อมรถแทรกเตอร์ยื่นคำร้องขอรับเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดชำระหนี้ค่าซ่อม ดังนี้มิใช่เรื่องขอกันส่วนของผู้ร้อง เนื่องจากผู้ร้องไม่มีส่วนเป็นเจ้าของรถแทรกเตอร์ที่ถูกยึดขายทอดตลาด การที่ผู้ร้องขอรับชำระหนี้ค่าซ่อมรถแทรกเตอร์รายนี้จึงเป็นคดีมีทุนทรัพย์เมื่อทุนทรัพย์ไม่เกิน 5 หมื่นบาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโจทก์ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่แก้ไขแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3210/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องทางจำเป็นเมื่อที่ดินถูกแบ่งแยกและขาดทางออกสู่สาธารณะ
เดิมมีที่ดินแปลงใหญ่อยู่แปลงหนึ่ง เจ้าของได้แบ่งขายและแยกโฉนดไปเรื่อยๆ จนเหลือที่ดินแปลงเดิมคือที่ดินแปลงหมายเลข 6 ซึ่งเป็นของจำเลย แม้ในขณะยื่นฟ้อง พ.มารดาโจทก์ยังมีชื่อเป็นเจ้าของที่ดินแปลงหมายเลข 108 และ 122 ซึ่งแบ่งแยกออกมาและอยู่ติดต่อกันแต่ที่ดินทั้งสองแปลงก็เป็นที่ดินคนละโฉนด จะถือว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกันไม่ได้ เมื่อที่ดินแปลงหมายเลข 122 ไม่มีทางออกไปสู่สาธารณะนอกจากที่ผ่านที่ดินแปลงหมายเลข 104 หรือแปลงหมายเลข 6 ซึ่งเป็นที่ดินแปลงเดิมแล้ว โจทก์ก็มีสิทธิเรียกร้องให้เบิกทางจำเป็นบนที่ดินแปลงเดิมแปลงใดแปลงหนึ่งที่แบ่งแยกไปได้ตามความจำเป็นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1350
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3210/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องทางจำเป็นเมื่อที่ดินไม่มีทางออกสู่สาธารณะ แม้มีที่ดินแปลงอื่นติดต่อกันก็ไม่ถือเป็นแปลงเดียวกัน
เดิมมีที่ดินแปลงใหญ่อยู่แปลงหนึ่ง เจ้าของได้แบ่งขายและแยกโฉนดไปเรื่อย ๆ จนเหลือที่ดินแปลงเดิมคือที่ดินแปลงหมายเลข 6 ซึ่งเป็นของจำเลย แม้ในขณะยื่นฟ้อง พ. มารดาโจทก์ยังมีชื่อเป็นเจ้าของที่ดินแปลงหมายเลข 108 และ 122 ซึ่งแบ่งแยกออกมาและอยู่ติดต่อกันแต่ที่ดินทั้งสองแปลงก็เป็นที่ดินคนละโฉนด จะถือว่าเป็นที่ดินแปลงเดียวกันไม่ได้ เมื่อที่ดินแปลงหมายเลข 122 ไม่มีทางออกไปสู่ทางสาธารณะนอกจากผ่านที่ดินแปลงหมายเลข 108 หรือแปลงหมายเลข 6ซึ่งเป็นที่ดินแปลงเดิมแล้ว โจทก์ก็มีสิทธิเรียกร้องให้เปิดทางจำเป็นบนที่ดินแปลงเดิมแปลงใดแปลงหนึ่งที่แบ่งแยกไปได้ตามความจำเป็นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1350
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3037/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความภาษีการค้า: การแจ้งประเมินและสิทธิเรียกร้องของกรมสรรพากรทำให้ระยะเวลาอายุความสะดุดหยุดลง
ในเรื่องภาษีการค้านั้น ประมวลรัษฎากร มาตรา 84,85 บัญญัติให้ผู้ประกอบการค้าต้องยื่นแบบแสดงรายการการค้าและชำระภาษีการค้าเป็นรายเดือน โดยนำเงินค่าภาษีการค้าไปชำระพร้อมกับยื่นแบบแสดงรายการการค้าเงินได้พึงประเมินภายในวันที่ 15 ของเดือน ถัดไปซึ่งถือได้ว่ามูลหนี้ค่าภาษีการค้าได้เกิดขึ้นแล้ว ทุกเดือนภาษีที่โจทก์มีรายรับโดยถือเอาวันที่ 15 ของเดือนถัดไปเป็นวันที่ครบกำหนดชำระหนี้ภาษีของเดือนนั้นๆ และเจ้าพนักงานประเมินมีสิทธิเรียกร้องหนี้ค่าภาษีการค้านับแต่วันถัดจากวันที่กำหนดชำระ เป็นต้นไป สำหรับกรณีของโจทก์เมื่อหนี้ค่าภาษีการค้าที่โจทก์เสียขาดไปถึงกำหนดชำระภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2506 และทุก ๆ วันที่ 15 ของแต่ละเดือนถัดไป เจ้าพนักงานประเมินจึงมีสิทธิเรียกร้องหนี้ค่าภาษีการค้าดังกล่าวเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2506 เมื่อเจ้าพนักงานประเมินได้แจ้งการประเมินภาษีการค้าที่ขาดให้โจทก์นำไปชำระตามประมวลรัษฎากร มาตรา 86 ทวิ ซึ่งโจทก์ทราบการประเมินเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2514 ถือได้ว่าจำเลยได้ใช้สิทธิเรียกร้องบังคับให้ชำระหนี้ภาษีที่ค้างแล้วภายในกำหนด 10 ปี ตามมาตรา 88 ทวิ (2) ซึ่งมีผลอย่างเดียวกับการฟ้องคดีเพื่อให้ชำระหนี้ตามที่เรียกร้องอันเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 173 เพราะหากโจทก์ไม่นำเงินไปชำระ กรมสรรพากรจำเลยก็มีอำนาจตามประมวลรัษฎากร มาตรา 12 อันเป็นกฎหมายพิเศษที่จะดำเนินการบังคับเอากับทรัพย์สินของผู้ค้างชำระค่าภาษีโดยมิต้องนำคดีมาฟ้องร้องต่อศาลเช่นกรณีเจ้าหนี้อื่นๆ และต่อมาโจทก์ได้อุทธรณ์ตลอดจนนำคดีนี้มาฟ้องสืบเนื่องกันมา จึงเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดอยู่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 175 สิทธิเรียกร้องหนี้ค่าภาษีอากรรายนี้จึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2772/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องเรียกหนี้มูลหนี้เดียวกัน แม้ได้รับชำระหนี้บางส่วนจากลูกหนี้ร่วมแล้ว ก็ยังคงมีสิทธิเรียกร้องส่วนที่เหลือจากจำเลยได้
จำเลยเป็นหนี้ค่าซื้อของเชื่อโจทก์ ม.บุตรชายจำเลยได้ออกเช็คชำรหนี้ดังกล่าวบางส่วนจำเลยให้แก่โจทก์ แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค โจทก์ฟ้อง ม.เป็นจำเลยในคดีล้มละลายในมูลหนี้ตามเช็คและได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไว้ ต่อมาโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ ขอให้ชำระค่าซื้อของเชื่อนั้นทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ย ปรากฏว่าโจทก์ได้รับชำระหนี้ในคดีล้มละลายมาแล้วบางส่วนหลังจากที่ยื่นฟ้องคดีนี้แล้ว ดังนี้ แม้โจทก์จะได้รับชำระหนี้จำนวนดังกล่าวมาแล้วก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้รับชำระโดยครบถ้วน จึงไม่เป็นการตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องเรียกร้องในส่วนที่ยังไม่ได้รับขำระหนี้จากจำเลยซึ่งต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2649/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้กู้เงินจากบุคคลอื่นแล้วนำมาให้ลูกหนี้กู้ต่อ เจ้าหนี้มีสิทธิเรียกร้องหนี้ได้เต็มจำนวน
ลูกหนี้ได้กู้เงินเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ไปสองครั้งโดยได้ทำสัญญากู้ไว้ 2 ฉบับ ฉบับละ 400,000 บาท แม้จะปรากฏว่าเงินที่เจ้าหนี้ให้ลูกหนี้กู้ในครั้งแรกจำนวน 400,000 บาท เป็นเงินของเจ้าหนี้เอง 200,000 บาท และเป็นเงินของบิดาเจ้าหนี้ 200,000 บาท และเงินที่ให้ลูกหนี้กู้ในครั้งที่สองเป็นเงินของเจ้าหนี้เอง 100,000 บาท เป็นของบิดาเจ้าหนี้ 100,000 บาท และเป็นของ ท.ป้าของเจ้าหนี้ 200,000 บาทก็ตาม เงินในส่วนที่เป็นของบิดาเจ้าหนี้และของป้าเจ้าหนี้ ถือได้ว่าเป็นเงินที่บิดาและป้ามอบหมายให้เจ้าหนี้เป็นผู้ดำเนินการให้ลูกหนี้กู้ไป จึงเท่ากับเจ้าหนี้เป็นผู้ให้กู้สำหรับจำนวนเงินทั้งหมดตามสัญญากู้ทั้งสองฉบับนั้น เจ้าหนี้จึงมีสิทธิเรียกร้องจากลูกหนี้ได้เต็มตามจำนวนที่ลูกหนี้ได้ทำสัญญากู้ไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2649/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบหมายให้ดำเนินการกู้เงิน เงินที่ได้รับถือเป็นสิทธิของเจ้าหนี้ในการเรียกร้องหนี้สินได้เต็มจำนวน
ลูกหนี้ได้กู้เงินเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ไปสองครั้งโดยได้ทำสัญญากู้ไว้ 2 ฉบับฉบับละ 400,000 บาท แม้จะปรากฏว่าเงินที่เจ้าหนี้ให้ลูกหนี้กู้ในครั้งแรกจำนวน 400,000 บาท เป็นเงินของเจ้าหนี้เอง 200,000 บาท และเป็นเงินของบิดาเจ้าหนี้ 200,000 บาท และเงินที่ให้ลูกหนี้กู้ในครั้งที่สองเป็นเงินของเจ้าหนี้เอง 100,000 บาท เป็นของบิดาเจ้าหนี้ 100,000 บาท และเป็น ของ ท. ป้าของเจ้าหนี้ 200,000 บาท ก็ตาม เงินในส่วนที่เป็นของบิดาเจ้าหนี้และของป้าเจ้าหนี้ ถือได้ว่าเป็นเงินที่บิดาและป้ามอบหมายให้เจ้าหนี้เป็นผู้ดำเนินการให้ลูกหนี้กู้ไป จึงเท่ากับเจ้าหนี้เป็นผู้ให้กู้สำหรับจำนวนเงินทั้งหมดตามสัญญากู้ทั้งสองฉบับนั้นเจ้าหนี้จึงมีสิทธิเรียกร้องจากลูกหนี้ได้เต็มตามจำนวนที่ลูกหนี้ได้ทำสัญญากู้ไว้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2558/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักกลบลบหนี้: สิทธิเรียกร้องที่มีข้อต่อสู้ไม่อาจนำมาหักกลบลบหนี้ได้
ได้ความว่าจำเลยมีหนี้ต้องใช้เงินตามเช็คพิพาทแก่โจทก์ และโจทก์ก็ได้สั่งจ่ายเช็คเอกสารหมาย ล.1 ชำระหนี้อีกรายหนึ่งแก่จำเลยซึ่งธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว เมื่อปรากฏว่าในชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบโต้เถียงว่า โจทก์กับจำเลยได้หักทอนบัญชีกันแล้ว จำเลยยังคงเป็นลูกหนี้โจทก์อีกเป็นจำนวนหนึ่ง ดังนี้ เป็นการต่อสู้ว่าหนี้ที่โจทก์ต้องใช้เงินแก่จำเลยตามเช็ค เอกสารหมาย ล.1 ระงับไปแล้วด้วยการหักกลลบหนี้และโจทก์ไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระแก่จำเลยอีกถือได้ว่าสิทธิเรียกร้องที่จำเลยนำมาขอหักกลบลบหนี้ยังมีข้อต่อสู้อยู่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 344 จำเลยจึงจะนำสิทธิเรียกร้องตามเช็คเอกสารหมาย ล.1 มาขอหักกลบลบหนี้กับโจทก์ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2558/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหักกลบลบหนี้ต้องไม่เป็นหนี้ที่มีข้อต่อสู้ จึงจะทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 344
ได้ความว่าจำเลยมีหนี้ต้องใช้เงินตามเช็คพิพาทแก่โจทก์และโจทก์ก็ได้สั่งจ่ายเช็คเอกสารหมาย ล.1 ชำระหนี้อีกรายหนึ่งแก่จำเลยซึ่งธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว เมื่อปรากฏว่าในชั้นพิจารณาโจทก์นำสืบโต้เถียงว่า โจทก์กับจำเลยให้หักทอนบัญชีกันแล้ว จำเลยยังคงเป็นลูกหนี้โจทก์อีกเป็นจำนวนหนึ่งดังนี้ เป็นการต่อสู้ว่าหนี้ที่โจทก์ต้องใช้เงินแก่จำเลยตามเช็คเอกสารหมาย ล.1 ระงับไปแล้วด้วยการหักกลบลบหนี้และโจทก์ไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระแก่จำเลยอีกถือได้ว่าสิทธิเรียกร้องที่จำเลยนำมาขอหักกลบลบหนี้ยังมีข้อต่อสู้อยู่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 344 จำเลยจึงจะนำสิทธิเรียกร้องตามเช็คเอกสารหมาย ล.1 มาขอหักกลบลบหนี้กับโจทก์ไม่ได้