พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,220 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 716/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทุนทรัพย์คดีแพ่งและการเพิ่มเติมฟ้อง: ข้อจำกัดในการฎีกาเมื่อทุนทรัพย์เดิมไม่เกิน 2,000 บาท
ฟ้องเดิมขอให้บังคับจำเลยเป็นเงินเพียง 2000 บาท และได้เสียค่าขึ้นศาลในจำนวนทุนทรัพย์ดังกล่าวแล้ว ต่อมาแม้โจทก์จะได้ขอเพิ่มเติมฟ้องให้ศาลบังคับจำเลยใช้ค่าเสียหายตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าคดีจะถึงที่สุด และศาลชั้นต้นอนุญาตตามคำขอก็ดี ดังนี้ยังไม่ถือว่าทุนทรัพย์แห่งคดีได้เพิ่มขึ้นเพราะมิได้มีการเรียกค่าธรรมเนียมศาลเพิ่มขึ้นตามมาตรา 150 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
การที่จะบังคับให้จำเลยชำระค่าเสียหายอันต่อเนื่องคำนวณถึงวันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จตามคำพิพากษานั้น แม้โจทก์จะมิได้ขอมา เมื่อศาลเห็นสมควร ศาลจะพิพากษาให้ก็ได้
คำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องในกรณีที่ขอเพิ่มค่าเสียหายแม้ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้ แต่ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาต จึงต้องฟังว่า คดีฟ้องหากันด้วยทุนทรัพย์ตามฟ้องเดิม
การที่จะบังคับให้จำเลยชำระค่าเสียหายอันต่อเนื่องคำนวณถึงวันฟ้องจนถึงวันชำระเสร็จตามคำพิพากษานั้น แม้โจทก์จะมิได้ขอมา เมื่อศาลเห็นสมควร ศาลจะพิพากษาให้ก็ได้
คำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องในกรณีที่ขอเพิ่มค่าเสียหายแม้ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้เพิ่มเติมฟ้องได้ แต่ศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาต จึงต้องฟังว่า คดีฟ้องหากันด้วยทุนทรัพย์ตามฟ้องเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อเท็จจริงในคดีอาญาไม่ผูกพันคดีแพ่ง: การรุกที่ดิน
ศาลพิพากษาชี้ขาดข้อเท็จจริงในคดีอาญาที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ว่า 'ผู้เสียหายไม่รู้ว่าเขตโฉนดของตนอยู่แค่ไหนจำเลยจะบุกรุกเข้าไปหรือเปล่าก็ไม่รู้ ที่หาว่าจำเลยบุกรุกเข้าไป ก็เพราะสังเกตไว้เข้าใจเอาเท่านั้น ฟังไม่ได้แน่นอนว่า จำเลยรุกที่ดินของผู้เสียหายฯลฯ'ดังนี้ ถือว่าศาลไม่ได้ชี้ขาดว่าจำเลยไม่ได้รุกที่ดินของผู้เสียหาย เป็นแต่ว่า ผู้เสียหายไม่รู้เขตที่ คือนำสืบไม่ชัดว่า ที่ดินของผู้เสียหายแค่ไหน จึงลงโทษจำเลยทางอาญาไม่ได้เท่านั้น ฉะนั้นเมื่อผู้เสียหายเป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้จัดการทำแผนที่วิวาท และนำสืบจนฟังได้แน่นอนว่า จำเลยรุกที่ของโจทก์แล้ว ศาลก็ย่อมฟังข้อเท็จจริงในคดีแพ่งว่าจำเลยรุกที่ดินโจทก์ได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 576/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อเท็จจริงในคดีอาญาผูกพันคดีแพ่ง หากศาลอาญาตัดสินว่าโจทก์ไม่ใช่เจ้าของทรัพย์ โจทก์จะเรียกร้องค่าเสียหายในคดีแพ่งไม่ได้
ในคดีอาญาฐานยักยอกที่โจทก์เรียกราคาทรัพย์มาด้วยนั้น ในการพิพากษาคดีเกี่ยวกับการเรียกทรัพย์คืน+เป็นส่วนแพ่งนั้น ศาลต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา +ศาลล่างฟังว่าทรัพย์ไม่ใช่ของโจทก์ ให้+ฟ้องแล้ว การที่โจทก์ฎีกาฉะเพาะส่วนแพ่ง+มา ก็ย่อมไม่มีทางชนะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 576/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อเท็จจริงในคดีอาญาผูกพันคดีแพ่ง: ศาลต้องใช้ข้อเท็จจริงจากคำพิพากษาคดีอาญาในการพิจารณาคดีเรียกทรัพย์
ในคดีอาญาฐานยักยอกที่โจทก์เรียกราคาทรัพย์มาด้วยนั้นในการพิพากษาคดีเกี่ยวกับการเรียกทรัพย์คืนอันเป็นส่วนแพ่งนั้น ศาลต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา เมื่อศาลล่างฟังว่าทรัพย์ไม่ใช่ของโจทก์ให้ยกฟ้องแล้ว การที่โจทก์ฎีกาเฉพาะส่วนแพ่งขึ้นมา ก็ย่อมไม่มีทางชนะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 234/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสืบพยานนอกประเด็นในคดีแบ่งสินสมรส การเปลี่ยนแปลงคำให้การต้องทำตามขั้นตอน
โจทก์ฟ้องขอแบ่งสินสมรสจากจำเลย จำเลยต่อสู้ว่าเป็นสินส่วนตัวหรือสินเดิม เพราะได้มาก่อนเป็นภรรยาโจทก์ครั้นถึงวันพิจารณา จำเลยแถลงว่าทรัพย์ที่อ้างว่าเป็นสินส่วนตัวหรือสินเดิมนั้น จำเลยได้มาภายหลัง เมื่อขาดจากเป็นสามีภรรยากับโจทก์แล้วและจะขอสืบพยานตามที่แถลงไว้ดังนี้ เป็นเรื่องขัดกับข้อเท็จจริงที่จำเลยต่อสู้ไว้ จึงเป็นเรื่องขอสืบนอกประเด็น ศาลย่อมไม่ยอมให้สืบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 909/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้ข้อหาอาญาหมดอายุความแล้ว ก็ไม่เป็นเหตุให้ข้อหาแพ่งต้องห้ามฎีกา
ฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้ข้อหาในทางอาญาได้ยุติแล้ว โดยต้องห้ามฎีกา ก็ไม่เป็นเหตุให้ข้อหาในทางส่วนแพ่งซึ่งอาจฎีกาต่อไปอีกได้นั้น ต้องห้ามฎีกาด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 909/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญาถึงที่สุดแล้ว คดีแพ่งก็ยังต้องห้ามฎีกาหากข้อเท็จจริงเป็นอย่างเดียวกัน
ฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้ข้อหาในทางอาญาได้ยุติแล้วโดยต้องห้ามฎีกา ก็ไม่เป็นเหตุให้ข้อหาในทางส่วนแพ่งซึ่งอาจฎีกาต่อไปอีกได้นั้น ต้องห้ามฎีกาด้วยไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 885/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งยึดทรัพย์ชั่วคราวก่อนคำพิพากษาเป็นอันยกเลิกเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกคำฟ้องของโจทก์คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่กำหนดวิธีการชั่วคราวก่อนคำพิพากษาก็เป็นอันยกเลิกไปในตัว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 260(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 540/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสุจจริตในคดีอาญาและคดีแพ่ง: ผลกระทบต่อการโอนทรัพย์สิน
ในคดีอาญาศาลพิพากษาว่าคดีโจทก์ไม่พอฟังว่า จำเลยได้รู้เห็นสมคบในการรับโอนที่ดินโดยทุจจริต และจำเลยก็นำสืบได้สมว่า ซื้อไว้โดยสุจจริตใจ แล้วชี้ขาดว่าหลักฐานไม่พอฟังว่า จำเลยเกี่ยวข้องกับการทุจจริตนั้น ย่อมหมายความแต่เพียงว่า จำเลยมิได้มีเจตนาทุจจริตอันเป็นผิดในคดีอาญาเท่านั้นจะฟังว่าจำเลยได้รับโอนที่ดินนั้นโดยสุจจริตตามประมวลแพ่งฯ ไม่ได้
คำว่าสุจจริตตามกฎหมายอาญาต่างกับคำว่าสุจจริตตามกฎหมายแพ่ง เช่นในเรื่องได้ทรัพย์มา สำหรับตามกฎหมายอาญาหมายความเพียงว่า ไม่รู้สึกตนว่าทำการติดต่อกับผู้ร้ายส่วนตามกฎหมายแพ่งหมายความว่าไม่รู้หรือไม่ควรจะรู้ถึงความบกพร่องแห่งกรรมสิทธิ์ที่มีมาในอดีต
การพิพากษาคดีส่วนแพ่ง จะต้องฟังข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีส่วนอาญาเพียงไร
คำว่าสุจจริตตามกฎหมายอาญาต่างกับคำว่าสุจจริตตามกฎหมายแพ่ง เช่นในเรื่องได้ทรัพย์มา สำหรับตามกฎหมายอาญาหมายความเพียงว่า ไม่รู้สึกตนว่าทำการติดต่อกับผู้ร้ายส่วนตามกฎหมายแพ่งหมายความว่าไม่รู้หรือไม่ควรจะรู้ถึงความบกพร่องแห่งกรรมสิทธิ์ที่มีมาในอดีต
การพิพากษาคดีส่วนแพ่ง จะต้องฟังข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีส่วนอาญาเพียงไร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำของบุตรไม่ผูกพันจำเลยในคดีแพ่ง การอ้างกรรมสิทธิ์ของบุตรใช้ยันโจทก์ไม่ได้
จำเลยฎีกาอ้างเหตุในข้อกฎหมายว่า บุตรจำเลยเคยแสดงตนเป็นเจ้าของทรัพย์รายพิพาท โจทก์ก็มิได้คัดค้าน ดังนี้เหตุนี้ หายกขึ้นใช้ยันโจทก์ได้ไม่ เพราะไม่ใช่เป็นเหตุส่วนตัวของจำเลยเองศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้