พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,615 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2156/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไถ่ถอนขายฝากที่ไม่จดทะเบียนมีผลใช้ยันกันระหว่างคู่กรณี โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่
จำเลยจดทะเบียนขายฝากที่ดินพิพาทไว้กับ ซ.สามีโจทก์ 1 ปีจำเลยได้ไถ่ถอนการขายฝากแล้ว แม้การไถ่ถอนจะไม่ได้จดทะเบียนก็ตาม ก็เป็นเพียงทำให้การกลับคืนมาซึ่งทรัพย์สิทธิในที่ดินยังไม่บริบูรณ์เท่านั้น แต่ในระหว่างโจทก์และจำเลยด้วยกันเอง ย่อมมีผลใช้ยันกันได้ โจทก์ซึ่งเป็นทายาทของ ซ. จึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2095/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับของโจร: พฤติการณ์น่าสงสัยในการซื้อทรัพย์สินราคาถูกผิดปกติ ย่อมรับฟังได้ว่ารู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิด
ถังน้ำขององค์การสหประชาชาติที่ส่งมาเตรียมไว้เพื่อให้ชาว เขมร อพยพใช้ตัวถังพ่นสีเป็นชื่อ ย่อ ขององค์การอาหารโลก มีลักษณะพิเศษแตก ต่างกับถังน้ำที่มีอยู่โดยทั่วไป ราคาใบละ 1,775 บาทแต่ไม่มีขายในท้องตลาด จำเลยรับซื้อไว้ในราคาเพียง 400 บาทถูกกว่าราคาเดิม อย่างมาก พฤติการณ์รับฟังได้ว่าจำเลยรับถังน้ำของกลางไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์อันได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2095/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับซื้อทรัพย์สินที่ได้มาจากการลักทรัพย์โดยรู้ว่าเป็นของผิดกฎหมาย
ถังน้ำขององค์การสหประชาชาติที่ส่งมาเตรียมไว้เพื่อให้ชาวเขมรอพยพใช้ตัวถังพ่นสีเป็นชื่อย่อขององค์การอาหารโลกมีลักษณะพิเศษแตกต่างกับถังน้ำที่มีอยู่โดยทั่วไป ราคาใบละ 1,775 บาท แต่ไม่มีขายในท้องตลาด จำเลยรับซื้อไว้ในราคาเพียง 400 บาท ถูกกว่าราคาเดิมอย่างมาก พฤติการณ์รับฟังได้ว่าจำเลยรับถังน้ำของกลางไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์อันได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองและพกพาอาวุธปืนเถื่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้มีเหตุผลป้องกันทรัพย์สิน ก็ไม่ถือเป็นเหตุจำเป็นเร่งด่วน
มีอาวุธปืนไม่มีทะเบียนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนนั้นไปในทางสาธารณะ ย่อมเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายจะอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ไม่ได้.
จำเลยขับรถยนต์บรรทุกใบยาไปส่งโรงบ่มโดยวางอาวุธปืนไว้ใต้เบานั่งหน้ารถ อ้างว่าเพื่อป้องกันทรัพย์สินดังนี้ กรณีถือไม่ได้ว่ามีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์แต่เนื่องจากจำเลยเป็นผู้ประกอบอาชีพโดยสุจริตมีหน้าที่ขับรถบรรทุกใบยาไปส่งโรงบ่มและไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน สมควรให้รอการลงโทษจำเลยไว้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
จำเลยขับรถยนต์บรรทุกใบยาไปส่งโรงบ่มโดยวางอาวุธปืนไว้ใต้เบานั่งหน้ารถ อ้างว่าเพื่อป้องกันทรัพย์สินดังนี้ กรณีถือไม่ได้ว่ามีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์แต่เนื่องจากจำเลยเป็นผู้ประกอบอาชีพโดยสุจริตมีหน้าที่ขับรถบรรทุกใบยาไปส่งโรงบ่มและไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน สมควรให้รอการลงโทษจำเลยไว้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1857/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามลักทรัพย์: เจตนาชัดเจนแม้ยังไม่ทันได้ทรัพย์
จำเลยบุกรุกเข้าไปในบ้านผู้เสียหายซึ่งเป็นร้านค้าขายของด้วยแล้วเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในห้องนอนของผู้เสียหายซึ่งเก็บเงินสด สร้อยคอทองคำและแหวนทองคำ ในขณะที่ผู้เสียหายกับภรรยาและบุตรกำลังรับประทานอาหารอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านเช่นนี้ ชี้ให้เห็นเจตนาของจำเลยโดยชัดแจ้งว่าจำเลยประสงค์จะลักทรัพย์ของผู้เสียหาย แต่มีคนเข้ามาซื้อของ ผู้เสียหายจึงเห็นจำเลยหลบซ่อนอยู่ในห้องนอนเสียก่อน จำเลยจึงเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปไม่ได้ แม้จำเลยจะยังไม่ทันแตะต้องทรัพย์ของผู้เสียหาย ก็ถือว่าจำเลยลงมือกระทำความผิดเข้าขั้นพยายามลักทรัพย์แล้ว (ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1770/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการกระทำความผิดลักทรัพย์ ไม่ถือเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดโดยตรง
จำเลยใช้เรือไม้และเครื่องยนต์ของกลางเป็นพาหนะเดินทางไปยังเกาะที่เกิดเหตุเพื่อลักทรัพย์ และนำทรัพย์ที่ลักกลับจากเกาะนั้นด้วยเรือไม้และเครื่องยนต์ดังกล่าวเป็นเพียงยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทางไปมาเท่านั้น ไม่ใช่ทรัพย์สินที่ได้ใช้ในการกระทำความผิดอันจะพึงริบ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1770/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยานพาหนะที่ใช้ในการลักทรัพย์ ไม่ถือเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
จำเลยทั้งห้าใช้เรือไม้และเครื่องยนต์เป็นยานพาหนะไปลักรังนกอีแอ่นบนเกาะเมื่อลักรังนกอีแอ่นได้แล้ว ขณะกลับมาลงเรือของกลางก็ถูกจับ ดังนี้ เรือไม้และเครื่องยนต์ของกลางดังกล่าวเป็นเพียงยานพาหนะที่จำเลยทั้งห้าใช้เดินทางไปมายังเกาะที่เกิดเหตุเพื่อลักทรัพย์เท่านั้น จึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่ได้ใช้ในการกระทำผิดอันจะพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา33(1).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1710/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คุณสมบัติผู้จัดการมรดก: ไม่จำเป็นต้องทราบรายละเอียดทรัพย์สินทั้งหมด
ประเด็นในชั้นขอเป็นผู้จัดการมรดกมีเพียงว่าผู้ร้องเป็นทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือไม่ มีกรณีที่จะต้องตั้งผู้จัดการมรดกหรือไม่และเป็นบุคคลที่ต้องห้ามมิให้เป็นผู้จัดการมรดกหรือไม่ส่วนปัญหาว่าเจ้ามรดกมีทายาทกี่คนมีทรัพย์มรดกเท่าไรมิใช่ข้อสำคัญในคดีแม้ผู้ร้องจะบรรยายมาในคำร้องไม่ครบถ้วน ก็ยังถือไม่ได้ว่าผู้ร้องใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
การที่ผู้ร้องไม่มีความรู้และไม่เคยเข้ามาเกี่ยวข้องกับกิจการงานซึ่งเป็นทรัพย์มรดกนั้น เป็นเรื่องการดำเนินกิจการงานตามปกติทั่วไป ไม่เป็นเหตุต้องห้ามในการเป็นผู้จัดการมรดก
การที่ผู้ร้องไม่มีความรู้และไม่เคยเข้ามาเกี่ยวข้องกับกิจการงานซึ่งเป็นทรัพย์มรดกนั้น เป็นเรื่องการดำเนินกิจการงานตามปกติทั่วไป ไม่เป็นเหตุต้องห้ามในการเป็นผู้จัดการมรดก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1655/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจสอบสวนคดียักยอกทรัพย์: สถานที่ส่งมอบทรัพย์สินเป็นเกณฑ์
จำเลยเป็นลูกจ้างของโจทก์ร่วม มีหน้าที่เก็บเงินจากลูกหนี้ของโจทก์ร่วมที่อยู่ต่างจังหวัดแล้วส่งมอบให้โจทก์ร่วมซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในท้องที่สถานีตำรวจนครบาลบางรัก จำเลยรับเงินจากลูกหนี้ของโจทก์ร่วมในอีกท้องที่หนึ่งแล้วไม่ส่งมอบให้โจทก์ร่วม จึงเป็นการไม่แน่ว่าจำเลยทำการยักยอกทรัพย์ของโจทก์ร่วมในท้องที่ใด พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางรักจึงมีอำนาจสอบสวน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1636/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมยกทรัพย์สินเฉพาะเจาะจง และสิทธิเรียกร้องในส่วนแบ่งมรดก
ข้อความในพินัยกรรมที่ว่า เมื่อข้าพเจ้าถึงแก่ความตายให้บรรดาทรัพย์สินที่มีอยู่และที่จะพึงมีต่อไปในภายหน้าตก เป็นกรรมสิทธิ์แก่ผู้ที่ระบุชื่อ ในพินัยกรรม แต่ปรากฏว่าผู้ที่มีชื่อระบุให้ได้รับทรัพย์สินตามพินัยกรรมก็มีแต่โจทก์เพียงคนเดียวเท่านั้น เช่นนี้ย่อมหมายความว่า เมื่อเจ้ามรดกถึงแก่ความตายแล้วให้บรรดาทรัพย์สินทั้งหมดที่มีอยู่นั้นตก เป็นของโจทก์.