คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ลักทรัพย์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,595 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์สำเร็จบางส่วน แม้จะเอาทรัพย์ไปไม่ทั้งหมด ก็ถือเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ได้
จำเลยเจตนาจะลักตะเกียงท้ายรถยนต์ของผู้เสียหาย จึงไขตะปูควงตะเกียงท้ายรถยนต์ จนตะเกียงหลุดจากท้ายรถแล้วดวงหนึ่ง อีกดวงหนึ่งยังไม่หลุด ดังนี้ถือว่าจำเลยกระทำการจนตะเกียงหลุดเคลื่อนออกไปจากท้ายรถแล้วเรียกได้ว่าเป็นการเอาทรัพย์ไปเป็นความผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จแล้วส่วนหนึ่ง แม้ทรัพย์สิ่งอื่นจะยังเอาไปไม่สำเร็จก็ตาม (อ้างฎีกาที่ 999/2485)
โจทก์ยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์(ในข้อเท็จจริง) ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอ้างว่า ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 220 โจทก์จึงทำฎีกามายื่นในวันรุ่งขึ้นใหม่อีกครั้งเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย ดังนี้เมื่อมายื่นภายในอายุความฎีกา ศาลชั้นต้นสั้งรับไว้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 346/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลักทรัพย์สำเร็จบางส่วน: การกระทำที่ทำให้ทรัพย์หลุดเคลื่อนที่ถือเป็นเอาทรัพย์ไป
จำเลยเจตนาจะลักตะเกียงท้ายรถยนต์ของผู้เสียหาย จึงไขตะปูควงตะเกียงท้ายรถยนต์ จนตะเกียงหลุดจากท้ายรถแล้วดวงหนึ่ง อีกดวงหนึ่งยังไม่หลุดดังนี้ถือว่าจำเลยกระทำการจนตะเกียงหลุดเคลื่อนออกไปจากท้ายรถแล้วเรียกได้ว่าเป็นการเอาทรัพย์ไป เป็นความผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จแล้วส่วนหนึ่ง แม้ทรัพย์สิ่งอื่นจะยังเอาไปไม่สำเร็จก็ตาม(อ้างฎีกาที่ 999/2485)
โจทก์ยื่นฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ (ในข้อเท็จจริง) ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอ้างว่า ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220โจทก์จึงทำฎีกามายื่นในวันรุ่งขึ้นใหม่อีกครั้งเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายดังนี้เมื่อมายื่นภายในอายุความฎีกา, ศาลชั้นต้นสั่งรับไว้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 30/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องอาญาขัดแย้ง: จำเลยไม่เข้าใจข้อหาฐานยักยอกหรือลักทรัพย์ ศาลยกฟ้องตาม ป.วิ.อาญา ม.158(5)
ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดฐานยักยอกหรือลักทรัพย์โดยบรรยายฟ้องในตอนต้นกล่าวหาว่า จำเลยรับมอบทรัพย์แล้ยักยอกทรัพย์ แต่ตอนหลังกลับกล่าวหาว่าจำเลยลักทรัพย์แล้วอ้างบทมาตราขอให้ลงโทษทั้งความผิดฐานลักทรัพย์แลยักยอก ดังนี้ เป็นฟ้องที่ขัดแย้งกันอยู่ในตัว ทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามฟ้องเป็นอย่างไรแน่ และจำเลยต้องหาว่าได้กระทำการอย่างใดแน่ อันจะเป็นความผิดฐานยักยอกหรือลักทรัพย์ คำฟ้องเช่นนี้จึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 158( 5 ) วรรคแรก ศาลจะรับไว้พิจารณาเอาโทษจำเลยมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 302/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องฐานลักทรัพย์จากการกรีดน้ำยางโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นฟ้องที่สมบูรณ์
ฟ้องของโจทก์กล่าวเป็นใจความว่า จำเลยบังอาจสมคบกันเข้ากรีดเอาน้ำมันยางในสวนของโจทก์โดยการทุจริต ซึ่งโจทก์มิได้อนุญาต และขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา288,63 ดังนี้ แม้โจทก์จะมิได้กล่าวว่าจำเลยเอาน้ำยางไปหรือลักเอาน้ำยางไปก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าโจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกรีดเอาน้ำยางของโจทก์โดยการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายและเป็นการเสียหายแก่โจทก์ ขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์นับว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 ครบข้อหาฐานลักทรัพย์แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 30/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องคดีอาญาขัดแย้งในตัว ระบุความผิดยักยอกและลักทรัพย์ ทำให้จำเลยไม่เข้าใจข้อหา
ฟ้องหาว่า จำเลยกระทำผิดฐานยักยอกหรือลักทรัพย์โดยบรรยายฟ้องในตอนต้นกล่าวหาว่า จำเลยรับมอบหมายทรัพย์แล้วยักยอกทรัพย์ แต่ตอนหลังกลับกล่าวหาว่าจำเลยลักทรัพย์แล้วอ้างบทมาตราขอให้ลงโทษทั้งความผิดฐานลักทรัพย์และยักยอกดังนี้ เป็นฟ้องที่ขัดแย้งกันอยู่ในตัว ทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามฟ้องเป็นอย่างไรแน่ และจำเลยต้องหาว่าได้กระทำการอย่างใดแน่ อันจะเป็นความผิดฐานยักยอกหรือลักทรัพย์คำฟ้องเช่นนี้จึงเป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5) วรรคแรก ศาลจะรับไว้พิจารณาเอาโทษจำเลยมิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 194/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษจากลักทรัพย์เป็นรับของโจรในชั้นอุทธรณ์ ทำให้จำกัดสิทธิในการฎีกาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 1 ปีฐานลักทรัพย์ศาลอุทธรณ์แก้ให้ลงโทษ 1 เดือนฐานรับของโจร แม้จะเป็นการแก้มาก ก็จะฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 220

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1914/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขัดแย้งในตัว: ลักทรัพย์ vs. รับของโจร – ฟ้องไม่ชัดเจน ศาลต้องยกฟ้อง
ในคดีที่ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรนั้น ถ้าฟ้องกล่าวยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้ายลักทรัพย์แล้วตอนปลายกล่าวฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดรับของโจรในทรัพย์รายเดียวกันนั้นอีก ดังนี้ย่อมเป็นฟ้องที่กล่าวขัดแย้งกันในตัว เป็นฟ้องเคลือบคลุม ไม่อาจทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ศาลต้องพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1914/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องขัดแย้งกันในตัว: ลักทรัพย์ vs. รับของโจร - ศาลยกฟ้อง
ในคดีที่ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์หรือรับของโจรนั้น ถ้าฟ้องกล่าวยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้ายลักทรัพย์แล้วตอนปลายกล่าวฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดรับของโจรในทรัพย์รายเดียวกันนั้นอีก ดังนี้ย่อมเป็นฟ้องที่กล่าวขัดแย้งกันในตัวเป็นฟ้องเคลือบคลุม ไม่อาจทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ศาลต้องพิพากษายกฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 190/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักทรัพย์ต่อเนื่อง: ลักทรัพย์แล้วนำไปฝาก ก่อนลักซ้ำจากผู้รับฝาก ถือเป็นความผิดฐานลักทรัพย์
คนร้ายลักโคไปแล้วต่อมาตำรวจพบโคนั้นเข้าจึงนำไปฝากราษฎรไว้คนร้ายกลับมาลักโคนั้นไปจากราษฎรที่ตำรวจฝากอีกย่อมเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 290 และถ้าในการลักนี้ได้ใช้กำลังทำร้ายหรือขู่เข็ญจะทำร้ายก็ย่อมมีความผิดเข้าลักษณะชิงทรัพย์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1908/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันทรัพย์เกินสมควร: การแทงคนร้ายขณะไล่จับหลังลักทรัพย์
คนร้ายขึ้นเรือนลักทรัพย์ได้แล้ว วิ่งหนี เจ้าทรัพย์วิ่งไล่ไปทัน จึงใช้มีดแทงคนร้าย 1 ทีคนร้ายถึงแก่ความตาย ดังนี้วินิจฉัยว่าเจ้าทรัพย์แทงคนร้ายในเวลากระชั้นชิดที่วิ่งไล่กันมา อาจไม่ตั้งใจฆ่าให้ตายเพราะแทงเพียงทีเดียว และเป็นเรื่องป้องกันทรัพย์เกินสมควรกว่าเหตุคงมีความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 251 ประกอบด้วยมาตรา 53
of 160