พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,178 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 710/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแปลงหนี้จากสัญญายอมความเดิมและการนำสืบพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้อตกลงใหม่
การที่คู่ความทำสัญญายอมความกันใหม่นอกศาล แปลงหนี้จากสัญญายอมความเดิมที่ทำไว้ต่อศาล แต่ต่างไม่แสดงสัญญายอมใหม่ต่อศาล โจทก์ฟ้องอ้างว่าตามสัญญายอมใหม่จำเลยยอมขยายเวลาให้โจทก์ไถ่นาคืนใน พ.ศ.2492 จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ยอมมอบให้นาพิพาทเป็นสิทธิแก่จำเลย ดังนี้โจทก์ต้องนำสืบให้ได้ตามข้ออ้าง ไม่จำต้องวินิจฉัยข้อต่อสู้ของจำเลยเพราะจำเลยมิได้ฟ้องแย้ง หากโจทก์นำสืบไม่สมฟ้องโจทก์ต้องแพ้คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1806/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาจริงของสัญญาเช่าสำคัญกว่าข้อความในสัญญา หากผู้เช่าใช้เพื่ออยู่อาศัย แม้สัญญาจะระบุว่าเพื่อการค้า
แม้สัญญาเช่าจะมีข้อความชัดเจนว่า เช่าเพื่อประกอบการค้าแต่อย่างเดียวไม่ใช่เป็นที่อยู่อาศัย เมื่อผู้เช่าต่อสู้ว่าเช่าเพื่ออยู่อาศัยมิได้ประกอบการค้าและเช่ามานานแล้ว ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ ดังนี้ผู้เช่าย่อมนำสืบตามข้อต่อสู้นี้ได้, เพราะศาลจำต้องพิเคราะห์ถึงเจตนาอันแท้จริงของคู่กรณีและความจริงที่ที่ผู้เช่าปฏิบัติประกอบด้วย
จำเลยเช่าตึกแถวอยู่อาศัยหาได้ทำการค้าไม่ เมื่อหมดอายุสัญญาเดิม โจทก์ทำสัญญาเช่าใหม่เติมข้อความว่าเช่าเพื่อประกอบการค้าแต่อย่างเดียวไม่ใช่เป็นที่อยู่อาศัยโดยอ้างว่าเป็น ธรรมเนียมของโจทก์ที่จะกรอกข้อความเช่นนี้ทุกราย,เมื่อจำเลยเซ็นแล้ว ก็คงใช้ตึกห้องที่เช่านี้อยู่อาศัยเช่นเดิมหาได้ใช้ทำการค้าไม่ดังนี้เห็นได้ว่าการเติมข้อความนั้นลงก็เพื่อเลี่ยง กฎหมายเท่านั้นจึงต้องบังคับตามความจริง
จำเลยเช่าตึกแถวอยู่อาศัยหาได้ทำการค้าไม่ เมื่อหมดอายุสัญญาเดิม โจทก์ทำสัญญาเช่าใหม่เติมข้อความว่าเช่าเพื่อประกอบการค้าแต่อย่างเดียวไม่ใช่เป็นที่อยู่อาศัยโดยอ้างว่าเป็น ธรรมเนียมของโจทก์ที่จะกรอกข้อความเช่นนี้ทุกราย,เมื่อจำเลยเซ็นแล้ว ก็คงใช้ตึกห้องที่เช่านี้อยู่อาศัยเช่นเดิมหาได้ใช้ทำการค้าไม่ดังนี้เห็นได้ว่าการเติมข้อความนั้นลงก็เพื่อเลี่ยง กฎหมายเท่านั้นจึงต้องบังคับตามความจริง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1719/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ประเด็นการแบ่งผลประโยชน์จากเจ้าของร่วมและการพิสูจน์ข้อตกลงสัญญา การฟ้องร้องต้องระบุประเด็นชัดเจน
โจทก์ฟ้องเป็นใจความว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินร่วมกัน มีข้อตกลงเป็นสัญญาต่อกันว่าจำเลยจะแบ่งผลประโยชน์คือค่าเช่าให้โจทก์จำเลยต่อสู้ว่าไม่มีข้อตกลงหรือสัญญา อย่างใดเลย ดังนี้ข้อที่ว่าโจทก์จำเลยมีข้อตกลงหรือสัญญาต่อกันหรือไม่ จึงเป็นประเด็นฉะนั้นการที่โจทก์ฎีกาขอแบ่งผลประโยชน์เนื่องจากการเป็นเจ้าของร่วมจึงเป็นนอกฟ้องนอก ประเด็นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
โจทก์ฟ้องบรรยายความว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินร่วมกันจำเลยตกลงจะให้ประโยชน์แล้วไม่ให้ โจทก์จึงขอเอาประโยชน์นั้นตลอดจนแบ่งส่วนทรัพย์อันมีกรรมสิทธิร่วมด้วย ทั้งในคำขอท้ายฟ้องก็มีคำขอแบ่งส่วนดังนี้ ย่อมถือว่าเป็นฟ้องที่บรรยายข้อความเรื่งอขอแบ่งส่วนแล้วเป็นฟ้องที่ใช้ได้
โจทก์ฟ้องบรรยายความว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินร่วมกันจำเลยตกลงจะให้ประโยชน์แล้วไม่ให้ โจทก์จึงขอเอาประโยชน์นั้นตลอดจนแบ่งส่วนทรัพย์อันมีกรรมสิทธิร่วมด้วย ทั้งในคำขอท้ายฟ้องก็มีคำขอแบ่งส่วนดังนี้ ย่อมถือว่าเป็นฟ้องที่บรรยายข้อความเรื่งอขอแบ่งส่วนแล้วเป็นฟ้องที่ใช้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1543/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่ากำหนดอัตราค่าเช่าสองระยะ ไม่เป็นการเลี่ยง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯ ข้อตกลงสุจริตมีผลผูกพัน
สัญญาเช่าบ้าน ซึ่งกำหนดอัตราค่าเช่าไว้เป็นสองระยะ ระยะแรก 18 เดือน คิดค่าเช่าเดือนละ 100 บาท เมื่อครบกำหนดแล้วจะอยู่ต่อไปต้องคิดเดือนละ 500 บาท ดังนี้ เป็นข้อสัญญาตกลงกันด้วยความสมัครใจ มีผลผูกพันกันตามกฎหมาย มิเป็นการขัดหรือฝ่าฝืนต่อ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าฯแต่อย่างใด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บังคับคดีตามสัญญาประนีประนอม: สภาพแห่งการบังคับคดีต้องเปิดช่องให้ทำได้ แม้มีข้อตกลง
โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินได้ให้ผู้อื่นเช่าปลูกสร้างตึกให้คนเช่าอยู่ โจทก์ จึงมิใช่เป็นเจ้าของตึกที่สร้าง ฉะนั้นการที่จำเลยจะขอให้ศาลบังคับให้โจทก์เอาตึกของผู้อื่นมาให้จำเลยเช่า ตามสัญญายอมความที่โจทก์จำเลยได้ทำไว้ต่อกันนั้นเรียกได้ว่า สภาพแห่งการบังคับคดีไม่เปิดช่องให้ทำได้โดยทางศาล ศาลบังคับให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 633/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาคดีกู้ยืมเงินและทองรูปพรรณตามพยานหลักฐานและข้อตกลงร่วม
คู่ความตกลงกันสืบพะยานร่วมคนเดียว แล้วให้ศาลพิพากษาไป เมื่อสืบพะยานร่วมเสร็จ คู่ความก็ขอให้ศาลนัดตัดสิน ดังนี้ เมื่อคำเบิกความของพะยานฟังเป็นแน่นอนไม่ได้ ก็ไม่สมควรที่จะให้มีการพิจารณากันใหม่ แต่ต้องกลับไปพิจารณาถึงประเด็นแห่งคดี คือ จำเลยให้การฟ้องแย้งว่าได้มอบทองไว้แก่โจทก์หนัก 4 บาท 2 สลึง โจทก์ให้การว่า ทองที่มอบไว้มีน้ำหนักเพียงบาทเดียว เมื่อจำเลยไม่มีพะยานสนับสนุนคำกล่าวอ้าง ก็ต้องฟังตามคำรับของโจทก์ว่า มีน้ำหนักเพียงบาทเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 399/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมแพ้คดีหลังแถลงต่อศาล การเปลี่ยนแปลงข้อตกลงภายหลังย่อมไม่รับฟังได้ ผู้ค้ำประกันหลุดพ้นความรับผิด
คู่ความได้แถลงต่อศาล โดยจำเลยแถลงว่า ถ้าโจทก์สาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ว่าโจทก์ได้ให้จำเลยกู้เงินไปจริงตามฟ้องจำเลยยอมแพ้คดีถ้าโจทก์ไม่ยอมสาบานโจทก์ยอมแพ้ครั้นถึงกำหนดนัด โจทก์ไม่ยอมสาบาน ศาลชั้นต้นจดรายงานพิจารณาไว้ชัดเจนว่า ฝ่ายโจทก์ไม่ยอมสาบาน จึงเป็นอันว่าโจทก์ยอมแพ้คดีแก่จำเลย (ที่1) ในครั้งนั้นมิได้มีการกล่าวอ้างที่หลงเข้าใจผิดแต่ประการใด ต่อมาอีกหลายวัน โจทก์ยื่นคำร้องอ้างว่าเข้าใจผิดในคำสาบานดังนี้ ย่อมรับฟังไม่ได้
เมื่อลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้แล้ว ผู้ค้ำประกันก็หลุดพ้นจากความรับผิดไปด้วย
เมื่อลูกหนี้ไม่ต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้แล้ว ผู้ค้ำประกันก็หลุดพ้นจากความรับผิดไปด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 297/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงทุนในที่ดินของผู้อื่น: สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเมื่อไม่มีข้อตกลงพิเศษ
การเข้าอยู่อาศัยทำกินในที่ดินของผู้อื่นนั้น เมื่อไม่ได้ตกลงกันไว้เป็นพิเศษ ผู้อาศัยจะเรียกให้เจ้าของที่ดินชดใช้ค่าใช้จ่ายหรือที่ได้ลงทุนทำให้ที่ดินดีขึ้น จากเจ้าของที่ดินหาได้ไม่
เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาฉะเพาะปัญหาข้อ ก.ม.ใดแล้ว ผู้ยื่นฎีกามิได้คัดค้านคำสั่งนั้นแต่อย่างใด ศาลฎีกาคงวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายที่ศาลชั้นต้นสั่งรับมาเท่านั้น.
เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาฉะเพาะปัญหาข้อ ก.ม.ใดแล้ว ผู้ยื่นฎีกามิได้คัดค้านคำสั่งนั้นแต่อย่างใด ศาลฎีกาคงวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายที่ศาลชั้นต้นสั่งรับมาเท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1929/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงก่อนการยอมความสมบูรณ์และการถอนข้อตกลง: ศาลไม่สามารถบังคับตามข้อตกลงเดิมได้หากมีการถอนก่อนการยอมความ
ข้อตกลงซึ่งโจทก์กับจำเลยบางคนได้ตกลงกันและผูกพันถึงจำเลยบางคนที่ไม่มาศาล และไม่ได้ทำความตกลงด้วย แม้ภายหลังจำเลยที่ไม่มาศาลได้มายอมรับตามข้อตกลงนั้น แต่จำเลยอื่นที่ตกลงไว้ก่อนได้ขอถอนข้อตกลงเสียก่อนนั้นแล้ว ดังนี้ ศาลจะพิพากษาคดีไปตามข้อตกลงนั้นไม่ได้ เพราะได้มีการขอถอนเสียก่อนที่ข้อตกลงนั้นจะใช้เป็นสัญญาปราณีประนอมยอมความโดยสมบูรณ์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1885/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงแบ่งรับผิดชอบค่าเสียหายจากทรัพย์ที่ถูกทำลาย: สิทธิเรียกร้องสิ้นสุดเมื่อตกลงแบ่งความรับผิดชอบแล้ว
เงินราคาของที่ผู้ซื้อวางไว้แก่ผู้ขาย ซึ่งผู้ขายจะต้องคืนแก่ผู้ซื้อได้กลายเป็นพันธบัตรออมทรัพย์ไป ภายหลังทั้งสองฝ่ายต่างทำสัญญากันให้รับผิดชอบคนละครึ่งและผู้ขายได้ชำระให้ผู้ซื้อไปครึ่งหนึ่งแล้ว ส่วนทรัพย์ที่ซื้อขายตกลงกันให้ผู้ซื้อบอกขาย ขายได้กำไรเท่าใด แบ่งกันคนละครึ่ง ต่อมาของที่ขายก็ถูกไฟไหม้สูนย์หายไป ดังนี้ ผู้ซื้อจะมาเรียกร้องให้ผู้ขายคืนเงินอีกครึ่งหนึ่งที่วางไว้ไม่ได้ เพราะความตกลงกันเด็ดขาดไปแล้ว.