คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ความเสียหาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,842 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 949/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในนามทางการค้า การใช้ชื่อคล้ายกันในธุรกิจโรงแรม การพิสูจน์ความเสียหายที่เกิดขึ้น
โจทก์ประกอบกิจการโรงแรมชื่อรามาดา อินน์ ในประเทศทั่วโลก จำเลยประกอบกิจการโรงแรมในประเทศไทยใช้ชื่อว่ารามาดา โฮเต็ล ชื่อทางการค้าของโจทก์และจำเลยแม้จะคล้ายคลึงกันและโจทก์ใช้ชื่อนี้ก่อนจำเลยก็ตาม ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิในนามของบุคคล การจะขอห้ามจำเลยมิให้ใช้ชื่อเดียวกับโจทก์จะต้องปรากฏว่าเป็นเหตุให้โจทก์เสื่อมเสียประโยชน์หรือได้รับความเสียหาย และจะเสียหายอยู่สืบไป และเมื่อคำว่า รามาดา เป็นภาษาเมกซิกันอินเดียนแดง มีความหมายว่าที่พักแรม มิใช่คำที่โจทก์ประดิษฐ์คิดขึ้นเอง และโจทก์ก็มิได้เข้ามาประกอบกิจการ โรงแรมในประเทศไทย จึงถือไม่ได้ว่ากิจการโรงแรมของจำเลยในประเทศไทยเป็นการแข่งขันกับกิจการโรงแรมของโจทก์ในต่างประเทศอันจะกระทบกระเทือนถึงผลประโยชน์ของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 18 ขอให้ศาลสั่งห้ามจำเลยใช้ชื่อนั้นในการประกอบกิจการโรงแรมของจำเลยในประเทศไทยได้ และปัญหาดังกล่าวนี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้จำเลยจะมิได้ฎีกาศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยเองได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าที่จอดรถไม่ใช่สัญญาฝากทรัพย์ ปั๊มน้ำมันไม่ต้องรับผิดชอบความเสียหายต่อรถ
เจ้าของนำรถยนต์ไปจอดที่ปั๊มน้ำมันของจำเลย ใส่กุญแจประตูรถยนต์แล้วนำกุญแจติดตัวไปตามข้อความในใบเสร็จรับเงินที่ลงชื่อรับทราบและยังมีข้อความต่อไปว่า เพราะทางร้านให้เช่าที่จอดรถไม่ใช่รับฝากรถไม่รับผิดชอบในการสูญหาย เสียหายต่อรถและสิ่งของใด ๆ ที่มีอยู่ในรถทั้งมิได้มีการส่งมอบรถยนต์ให้แก่จำเลย และจำเลยตกลงว่าจะเก็บรักษาไว้ในอารักขาของจำเลยแล้วจะคืนให้ดังนี้ มิใช่สัญญาฝากทรัพย์ แต่เป็นเช่าที่จอดรถยนต์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 70/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักยึดสัญญาคู่ฉบับ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าหนี้ ถือเป็นความผิดฐานยักยอกเอกสาร
สัญญากู้ยืมเงินคู่ฉบับเป็นหลักฐานการกู้ยืมเงินระหว่างผู้เสียหายกับจำเลย จำเลยเอาไปดูแล้วไม่ยอมคืนให้ผู้เสียหาย ทั้งกลับปฏิเสธอ้างว่าผู้เสียหายคืนให้จำเลยเพราะจำเลยชำระหนี้แล้ว ดังนี้ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 547-550/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการใช้คันคลองสาธารณะก่อนการสร้างบ้านจัดสรร ไม่ถือเป็นความเสียหายพิเศษ
จำเลยปลูกเรือนที่คันคลองสาธารณะอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน และอยู่หน้าที่ดินโจทก์ก่อนที่โจทก์จะปลูกบ้านจัดสรรในที่ดินโจทก์โจทก์สามารถออกไปสู่ที่สาธารณะได้โดยหน้าที่ดินของโจทก์ยังว่างอยู่โดยไม่มีสิ่งใดปิดบังถึง 100 เมตรดังนี้ ถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้รับความเสียหายและเดือดร้อนเป็นพิเศษตามป.พ.พ. ม.1337 จึงไม่มีอำนาจที่จะฟ้องบังคับให้จำเลยรื้อถอนเรือนออกไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 52/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา: วันเวลาเกิดเหตุที่ไม่ชัดเจนแต่โจทก์บรรยายตามที่ทราบ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า "เมื่อวันเดือนใดไม่ปรากฏจนถึงปัจจุบัน ทั้งเวลากลางวันและเวลากลางคืนต่อเนื่องกันตลอดมา จำเลยทั้งสองร่วมกันบังอาจบุกรุกที่ดินและทำให้เสียทรัพย์ โจทก์เพิ่งทราบการกระทำผิดของจำเลยเมื่อเดือนมกราคม 2523" เห็นได้ว่า โจทก์ไม่ทราบแน่ชัดว่าจำเลยทั้งสองกระทำผิดวันเวลาใด แต่โจทก์ได้บรรยายเกี่ยวกับเวลาที่เกิดการกระทำผิดเท่าที่ทราบพอสมควรที่จะให้จำเลยทั้งสองเข้าใจแล้วไม่ทำให้จำเลยหลงต่อสู้หรือเสียเปรียบ ฟ้องของโจทก์จึงมีข้อความสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จในคดีฉ้อโกง: ความเท็จที่ไม่เป็นสาระสำคัญของคดี
จำเลยเคยฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาข้อหาฉ้อโกงว่า โจทก์หลอกลวงให้จำเลยเช่าซื้อที่ดินที่โจทก์ไม่อาจจัดการโอนกรรมสิทธิ์ได้เพราะติดจำนองจำเลยได้เบิกความในคดีดังกล่าวว่าจำเลยชำระค่าเช่าซื้อครบแล้วแต่โจทก์ยังไม่จัดการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เช่าซื้อให้จำเลย ดังนี้ ข้อสำคัญในคดีดังกล่าวมีว่า โจทก์ได้หลอกลวงให้จำเลยหลงเชื่อจึงเช่าซื้อที่ดินโจทก์หรือไม่คำเบิกความของจำเลยที่ว่าชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้ว ถึงหากจะเป็นความเท็จก็มิใช่ข้อสำคัญในคดี การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานเบิกความเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 474/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสัมพันธ์ชู้สาว, ค่าทดแทนความเสียหาย, ความอับอายขายหน้า, การกระทำความผิดทางแพ่ง
โจทก์จับได้ว่าจำเลยกับ ส. ภริยาโจทก์ร่วมประเวณีกันโดยจำเลยยอมรับผิดและสาบานต่อพระพุทธรูป แต่หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ยังร่วมประเวณีกันอีก แม้ตามพฤติการณ์ ส. ร่วมประเวณีกับจำเลยทุกครั้งโดยสมัครใจโจทก์สามี ส. ก็เรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้และที่ศาลกำหนดค่าทดแทนเป็นเงิน 40,000 บาทนั้น สมควรแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 381/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย: การแบ่งความรับผิดชอบเมื่อทั้งสองฝ่ายมีส่วนในการก่อเหตุ
ว. บุตรผู้เยาว์ของจำเลยขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความประมาทชนรถยนต์โดยสารโจทก์ซึ่งลูกจ้างของโจทก์ขับสวนทางมารถยนต์โดยสารทับรถจักรยานยนต์ ว. พาครูดไปตามถนนจนเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นที่รถจักรยานยนต์ ลูกจ้างของโจทก์มีโอกาสจะขับรถถอยหลังออกไปให้พ้นจากรถจักรยานยนต์ได้ แต่ไม่กระทำกลับทิ้งรถหลบหนีไป จนเป็นเหตุให้ไฟลุกลามไปไหม้รถโดยสารโจทก์เสียหาย ดังนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับความเสียหายของรถโจทก์ถือได้ว่าโจทก์เป็นฝ่ายก่อให้เกิดความเสียหายอยู่ด้วยและเป็นฝ่ายที่ก่อให้ความเสียหายเกิดขึ้นยิ่งกว่าฝ่ายจำเลย ค่าเสียหายที่โจทก์ได้รับทั้งหมด จึงให้ตกเป็นพับแก่โจทก์
แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่าขณะเกิดเหตุลูกจ้างของโจทก์จะขับรถโดยสารอยู่ในช่องทางเดินรถช่องที่ 3 อันเป็นการปฏิบัติผิดต่อกฎข้อบังคับในการจราจรตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477ที่บังคับให้รถยนต์โดยสารประจำทางวิ่งในช่องทางเดินรถช่องที่ 1 หรือช่องทางด้านซ้ายสุด แต่การปะทะกันของรถทั้งสองคันก็หาใช่ผลโดยตรงที่เกิดจากการขับรถผิดต่อกฎข้อบังคับในการจราจรของลูกจ้างโจทก์ไม่ หากแต่เป็นผลโดยตรงจากความประมาทเลินเล่อของ ว. ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ โจทก์จึงไม่ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้แก่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3732/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีปลอมเอกสารและการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ต้องเชื่อมโยงกับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้มีสิทธิโดยตรง
ความเสียหายที่เกิดขึ้นสำหรับความผิดฐานปลอมเอกสารจะต้องเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะข้อความแห่งเอกสารนั้น เมื่อข้อความในเอกสารที่โจทก์อ้างว่าจำเลยปลอมไม่มีข้อความเกี่ยวถึงตัวโจทก์ การที่โจทก์ต้องเสียที่ดินไปเป็นเรื่องของการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์โดยผู้นำชี้นำชี้ทับที่ดินของโจทก์ ซึ่งเป็นคนละกรณีกับการปลอมใบมอบอำนาจ โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม
เมื่อข้อเท็จจริงตามคำบรรยายฟ้องไม่มีข้อที่แสดงว่าจำเลยกระทำไป เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น หรือเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นแล้วคำฟ้องดังกล่าวจึงขาดองค์ประกอบความผิดในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นคำฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3722/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจการยื่นคำร้องตาม พ.ร.บ.ล้มละลายฯ ผู้ถือหุ้นไม่มีสิทธิหากไม่ได้รับความเสียหายโดยตรง
บุคคลที่อาจยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ศาลสั่งตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 146 ได้ จะต้องเป็นบุคคลล้มละลาย เจ้าหนี้ หรือบุคคลที่ได้รับความเสียหายโดยการกระทำหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ในกรณีนี้ผู้ที่หากจะได้รับความเสียหายก็คือบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) ผู้ร้องเป็นเพียงผู้ถือหุ้นของบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) ไม่มีอำนาจกระทำการใด ๆ แทนบริษัทลูกหนี้ (จำเลย) นอกจากจะมีกฎหมายให้อำนาจผู้ถือหุ้นไว้ดังเช่นมาตรา 1169 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ดังนั้นผู้ร้องจึงไม่มีอำนาจยื่นคำร้องในกรณีนี้ได้ กฎหมายล้มละลายเป็นกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะมิได้ยกความข้อนี้ขึ้นคัดค้านศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้
of 185