คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คำพิพากษา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,887 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2807/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลคำพิพากษาคดีอาญาผูกพันคดีแพ่ง: ที่ดินพิพาทเป็นของผู้เสียหายตามคำพิพากษาอาญา
พนักงานอัยการฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาในข้อหาบุกรุก โจทก์ในฐานะผู้เสียหายได้ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม และยังเป็นโจทก์ในคดีแพ่งคดีนี้อีกโดยขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาทรายเดียวกัน ต่อมาศาลได้มีคำพิพากษาในคดีส่วนอาญาถึงที่สุดแล้วว่า ที่พิพาทเป็นของผู้เสียหาย ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา โดยต้องฟังว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 278/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าจ้างทนายความที่ศาลตัดสินให้ชำระตามคำพิพากษาแล้ว ไม่ถือเป็นลาภมิควรได้ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกคืน
ศาลพิพากษาให้โจทก์ใช้เงินค่าจ้างว่าความแก่จำเลยเป็นเงินได้โดยชอบตามกฎหมาย โจทก์อ้างว่าจำเลยว่าความให้โจทก์ในคดีนั้นโดยไม่ถูกต้องและหลอกลวงโจทก์ จำเลยไม่ควรได้ค่าจ้างทนายความ จึงฟ้องเรียกเงินคืน ดังนี้ กรณีไม่ใช่ลาภมิควรได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2731/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันคำพิพากษาคดีอาญาต่อคดีแพ่ง: ประมาทจากการขับรถ
ในคดีส่วนอาญาศาลได้สืบพยานโจทก์จำเลยและได้มีการวินิจฉัยข้อเท็จจริงอันเป็นประเด็นของคดีนั้นว่า โจทก์ไม่มีพยานมาสืบให้ศาลเห็นว่าจำเลยได้ขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ชนรถผู้เสียหาย แล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ คดีถึงที่สุด ดังนี้ ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 โดยต้องฟังว่า โจทก์ไม่มีพยานสืบให้ศาลเห็นว่าจำเลยได้กระทำความผิดหรือกระทำละเมิดด้วย แม้ผู้เสียหายจะไม่ได้ฟ้องหรือร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการในคดีอาญาด้วยก็ตาม
โจทก์ในคดีนี้ซึ่งเป็นผู้รับช่วงสิทธิจากผู้เสียหายก็จำต้องผูกพันตามข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคดีส่วนอาญาด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2655/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์หลังศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีล้มละลาย เจ้าหนี้มีสิทธิได้รับชำระหนี้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยลูกหนี้เด็ดขาดเจ้าหนี้ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้แล้ว แม้ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ เมื่อศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยลูกหนี้เด็ดขาดถึงที่สุดแล้ว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมมีอำนาจดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของจำเลยลูกหนี้ที่กระทำมาแล้วรวมทั้งดำเนินการในเรื่องคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ต่อไปได้ หามีกฎหมายบัญญัติให้ยกเลิกกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายที่ดำเนินการมาโดยชอบแล้วไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2606/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้าม กรณีคัดค้านข้อเท็จจริงหลังศาลอุทธรณ์ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 1 เดือน ปรับ 1,500 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี และริบของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยฟังข้อเท็จจริงว่าของกลางเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเลยใช้ในการกระทำผิด จำเลยฎีกาขอให้สั่งคืนของกลางโดยอ้างว่าของกลางไม่ใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำผิด เป็นฎีกาคัดค้านในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2587/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ศาลต้องใช้ข้อเท็จจริงจากคำพิพากษาคดีอาญา
เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นคดีอาญาในความผิดฐานฉ้อโกงว่าโจทก์เข้าทำสัญญาโอนกิจการปั๊มน้ำมันและสิ่งปลูกสร้างจากจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 1 ทำกลฉ้อฉลหลอกลวงโจทก์ว่า จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของและเป็นผู้มีสิทธิดำเนินกิจการปั๊มน้ำมันที่ขายสิทธิให้โจทก์ แต่ความจริงปั๊มน้ำมันเป็นของบริษัทน้ำมันเอง และจำเลยที่ 1 ไม่มีสิทธิดำเนินกิจการ ศาลพิพากษายกฟ้อง การที่โจทก์มาฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นคดีแพ่งเรียกคืนเงินที่จ่ายตามสัญญาดังกล่าว จึงเป็นการฟ้องคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาศาลจึงต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2546/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายสินบนนำจับในคดีป่าไม้: ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้จ่ายสินบนตามที่กฎหมายบัญญัติ แม้คำขอท้ายฟ้องจะใช้ถ้อยคำคลาดเคลื่อน
พนักงานอัยการได้ร้องขอต่อศาลแล้วว่ามีผู้นำจับจำเลยประสงค์ขอรับเงินสินบนนำจับ โดยอ้างบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องและมีคำขอให้จ่ายสินบนนำจับมาท้ายฟ้องแล้ว ตามที่ถ้อยคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ใช้ถ้อยคำว่า ให้จำเลยจ่ายสินบนนำจับตามกฎหมาย ซึ่งตามกฎหมายมิได้บัญญัติให้จำเลยจ่ายเงินสินบนนำจับ ก็ไม่ทำให้คำขอของโจทก์เกี่ยวกับการจ่ายเงินสินบนนำจับเสียไป เพราะโจทก์ได้อ้างบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาในคำฟ้องแล้ว ทั้งเป็นเพียงการใช้ถ้อยคำผิดเพี้ยนไปบ้างเล็กน้อยเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2419/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในคดีอาญา: การยกฟ้องเนื่องจากข้อบกพร่องด้านรูปแบบฟ้อง ไม่ถือเป็นคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาด
คดีก่อนศาลพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุฟ้องโจทก์ไม่ได้ลงชื่อผู้เรียงฟ้องไว้ เป็นฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(7) ศาลยังมิได้วินิจฉัยชี้ขาดในเนื้อหาการกระทำผิดของจำเลยว่าได้กระทำผิดตามฟ้องหรือไม่ ถือไม่ได้ว่ามีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4) โจทก์ฟ้องคดีใหม่ได้ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1909/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลคำพิพากษาไม่ผูกมัดบุคคลนอกคดี แม้เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่ถูกริบ ศาลต้องเปิดโอกาสให้สืบพยาน
ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยและริบแร่ แต่จำเลยไม่ใช่ตัวแทนหรือลูกจ้างผู้ร้อง ผู้ร้องมิใช่คู่ความในคดี คำพิพากษาไม่ผูกมัดผู้ร้องซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของแร่และไม่รู้เห็นเป็นใจในการทำผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1847/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องค่าสินไหมทดแทนประกันภัย: เริ่มนับจากวันเกิดเหตุวินาศภัย ไม่ใช่จากคำพิพากษา
รถยนต์คันที่โจทก์เอาประกันภัยค้ำจุนไว้กับจำเลยได้ชนกับรถยนต์ของบริษัท ร. เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2517 โจทก์มาฟ้องคดีขอให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2521 พ้นกำหนดสองปีนับแต่วันวินาศภัย ฟ้องของโจทก์จึงขาดอายุความตามมาตรา 882 การที่โจทก์ได้ถูกบริษัท ร.ฟ้องและศาลฎีกาพิพากษาให้โจทก์ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บริษัท ร.เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2520 นั้น ไม่ทำให้สิทธิเรียกร้องของโจทก์ตามสัญญาประกันภัยจะเพิ่งมาตั้งหลักฐานขึ้นโดยคำพิพากษาดังกล่าวเพราะสิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่จะให้จำเลยใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยเกิดขึ้นนับแต่วันวินาศภัยจึงจะนำอายุความตามมาตรา 168 มาใช้บังคับในกรณีนี้หาได้ไม่
of 189