พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3569/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีเงินได้จากเงินกินเปล่า การเฉลี่ยรายปี และกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษี
โจทก์ได้รับเงินกินเปล่าหรือค่าตอบแทนในการจดทะเบียนสิทธิการเช่าตึกแถว 32 คูหา โดยมีระยะเวลาการเช่าจนถึงปี 2545 ในการเรียกเก็บภาษีนั้นกระทรวงการคลังได้วางหลักการไว้ว่า การเสียภาษีในกรณีเกี่ยวกับเรื่องเงินกินเปล่า เงินแป๊ะเจี๊ยะ เงินค่าปลูกสร้างเงินค่าซ่อมแซม และค่าแห่งอาคารและโรงเรือนที่ได้รับกรรมสิทธิ์นั้น กระทรวงการคลังยอมให้ผู้ให้เช่าเฉลี่ยเงินดังกล่าวตามส่วนแห่งจำนวนปีของอายุการเช่า ดังนี้ โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะเอาเงินได้ส่วนที่เฉลี่ยนั้นยื่นรายการเงินได้เมื่อถึงกำหนดแต่ละปี การที่จะเก็บภาษีเงินได้จากโจทก์ก่อนถึงกำหนดตาม ป.รัษฎากรมาตรา 60 ทวิ นั้น ต้องเป็นกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษีเท่านั้น เจ้าพนักงานประเมินจึงมีอำนาจเรียกเก็บภาษีก่อนกำหนดยื่นรายการได้ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า โจทก์มีหลักทรัพย์และไม่ยากที่จะเรียกเก็บภาษี ทั้งได้เสนอหลักทรัพย์ที่จะประกันการเสียภาษีสูงกว่าจำนวนภาษีที่จะต้องเสีย และโจทก์ยังได้รับประโยชน์ตามประกาศกระทรวงการคลังอีกด้วย ดังนั้น จึงมิใช่กรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการจัดเก็บภาษี การที่เจ้าพนักงานประเมินและคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จะให้โจทก์เสียภาษีในคราวเดียวกันย่อมไม่ชอบด้วยมาตรา 60 ทวิ ดังกล่าว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2409/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุ การกระทำเกินกว่ากรณีจำเป็นนำไปสู่ความตาย
ผู้ตายจะยิงจำเลย จำเลยจึงเอามีดปัดปืนลั่นแล้วฟันผู้ตายที่หน้าอก เมื่อผู้ตายถูกฟันแล้วยืนเซ่ออยู่มีอาการสาหัสมาก จำเลยรู้ว่าปืนของผู้ตายบรรจุกระสุนได้ทีละนัด หากจะยิงก็ต้องบรรจุกระสุนใหม่ จำเลยกลับฟันซ้ำอีกถูกคอผู้ตายเป็นบาดแผลฉกรรจ์ลึกถึงกระดูกถูกจุดศูนย์กลางประสาทต้นคอขาด ถึงแก่ความตายทันที ดังนี้ การกระทำของจำเลยเกินสมควรแก่เหตุและเกินกว่ากรณีแห่งความจำเป็นตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 831/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันโดยสำคัญผิดเกินเหตุ: การกระทำเกินกว่ากรณีจำเป็นเพื่อป้องกันทรัพย์สิน
เมื่อข้อเท็จจริงที่คู่ความนำสืบรับกันว่าบริเวณหมู่บ้านจำเลยมีโจรผู้ร้ายชุกชุม จำเลยเคยถูกคนร้ายลักเป็ดและลักเรือไปแล้ว 4 ครั้ง จำเลยจึงได้ล้อมรั้วชั้นนอกอีกชั้นหนึ่ง เมื่อก่อนที่จะเกิดเหตุคดีนี้เพียงเดือนเดียว คืนเกิดเหตุจำเลยจอดเรือไว้ที่ท่าทะเลสาบ 2 ลำและมีเป็ดอีก 800 ตัว ผู้เสียหายและพวกได้เดินผ่านประตูเข้าไปในรั้วบ้านชั้นนอกของจำเลยเมื่อ 01.00 นาฬิกา ซึ่งเป็นเวลาดึกดื่นโดยมิได้บอกกล่าวขออนุญาตเสียก่อน เมื่อจำเลยร้องถามว่าใคร ผู้เสียหายก็ร้องตอบแต่เพียงว่า ผม ไม่บอกชื่อให้ชัดเจน จำเลยจึงยิงผู้เสียหายเพราะสำคัญผิดว่าเป็นคนร้าย แต่การที่จำเลยยิงผู้เสียหายไปในพฤติการณ์เช่นนี้ ย่อมเป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80, 69