คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กรมทางหลวง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 13 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5782/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรมทางหลวงประมาทเลินเล่อกีดขวางการจราจร ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ผู้ขับขี่ไม่มีโอกาสหลีกเลี่ยง
กรมทางหลวงจำเลยขุดดินมากองไว้บนถนนทางหลวงที่ใช้สำหรับยวดยานพาหนะผ่านไปมาในลักษณะกีดขวางการจราจรในช่องเดินรถของผู้ตายโดยเพิ่งขุดกองไว้ในวันเกิดเหตุ แต่มิได้ติดตั้งป้ายสัญญาณหรือไฟสัญญาณเตือนให้ผู้ขับยวดยานพาหนะผ่านไปมาทราบว่ามีกองดินอยู่ข้างหน้า จำเลยย่อมคาดได้แต่แรกว่าหากไม่มีป้ายสัญญาณและไฟสัญญาณในเวลากลางคืนให้เห็นชัดเจนแล้วก็อาจเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายจากกองดินดังกล่าวได้โดยง่าย เป็นการประมาทเลินเล่ออย่างมาก การที่ผู้ตายขับรถจักรยานยนต์ในช่องเดินรถของตนในเวลากลางคืนด้วยความเร็วธรรมดาโดยไม่มีโอกาสเห็นกองดินที่จำเลยดำเนินการขุดไว้ข้างหน้าตามสมควรจนทำให้รถผู้ตายชนกองดินดังกล่าวเป็นผลโดยตรงจากการประมาทเลินเล่อของจำเลย จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์
แม้โจทก์จะได้รับเงินทำบุญในการจัดงานศพ ก็ถือว่าเป็นเงินที่ให้แก่กันตามประเพณีในสังคม จึงเป็นคนละส่วนกันค่าใช้จ่ายในการปลงศพ ไม่อาจนำมาหักออกจากค่าปลงศพที่โจทก์ได้จ่ายไปจริงเพื่อลดภาระหนี้ที่จำเลยทำละเมิดได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1388/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีแพ่ง: การรับรู้ของผู้แทนกรมทางหลวง vs. ข้าราชการในสังกัด
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าคดีโจทก์ขาดอายุความโดยฟังว่าพนักงานของโจทก์ทราบถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้พึงจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนก่อนฟ้องเกิน 1 ปีการฟังข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงเป็นเรื่องผิดต่อกฎหมายเนื่องจากโจทก์เป็นกรมในรัฐบาล มีอธิบดีเป็นผู้ปกครองบังคับบัญชาข้าราชการ ตามประกาศของคณะปฏิบัติ ฉบับที่ 218ลงวันที่ 29 กันยายน 2515 ข้อ 32 วรรคสอง อธิบดีจึงเป็นผู้แทนของกรมแต่เพียงผู้เดียว ดังนี้ ศาลอุทธรณ์ ไม่จำต้อง ถือตามข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัย ผิดต่อกฎหมาย และมีอำนาจฟังข้อเท็จจริงใหม่ แล้วมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดีไปตามนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4403/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พนักงานที่ดินเอื้อประโยชน์ภริยาซื้อขายที่ดินให้กรมทางหลวง เสียผลประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่
จำเลยเป็นพนักงานที่ดินอำเภอ มีหน้าที่ออกหนังสือสำคัญ สำหรับที่ดินและการรังวัดเพื่อออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์เมื่อกรมทางหลวงจะสร้างศูนย์เครื่องมือกลในอำเภอ การที่ภริยาจำเลย รับโอนที่ดินจากราษฎรแล้วนำไปขายต่อให้กรมทางหลวงก่อสร้าง ศูนย์เครื่องมือกล จึงเป็นการได้ผลประโยชน์มาโดยมิชอบ เนื่องมาจาก การที่จำเลยได้ดำเนินการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ดินและ โอนขายที่ดิน ซึ่งเป็นการกระทำในตำแหน่งหน้าที่ของจำเลย จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1975/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรมทางหลวงมีหน้าที่ควบคุมการติดตั้งเครื่องหมายจราจรในเขตก่อสร้าง หากละเลยจนเกิดความเสียหายต้องรับผิด
กรมทางหลวงจำเลยที่ 2 มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในการซ่อมแซมก่อสร้าง บำรุงรักษา ถนนที่เกิดเหตุ ย่อมมีหน้าที่ควบคุมจัดให้มีเครื่องหมายและสัญญาณจราจรในบริเวณก่อสร้างซ่อมแซมถนน แม้จะจัดให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างดำเนินการก่อสร้างซ่อมแซม ก็ต้องควบคุมให้บริษัทรับเหมาติดตั้งเครื่องหมายและสัญญาณจราจรขึ้น ให้ถูกต้องถ้ามิได้ติดตั้งให้ถูกต้องแล้วเกิดความเสียหาย จำเลยที่ 2 ย่อม จะต้องรับผิดต่อผู้เสียหายด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1975/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของกรมทางหลวงต่อความเสียหายจากงานก่อสร้างถนน หากควบคุมผู้รับเหมาติดตั้งเครื่องหมายจราจรไม่ถูกต้อง
กรมทางหลวงจำเลยที่ 2 มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบในการซ่อมแซมก่อสร้าง บำรุงรักษา ถนนที่เกิดเหตุ ย่อมมีหน้าที่ควบคุมจัดให้ มีเครื่องหมายและสัญญาณจราจรในบริเวณก่อสร้างซ่อมแซมถนน แม้จะจัดให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างดำเนินการก่อสร้างซ่อมแซม ก็ต้อง ควบคุมให้บริษัทรับเหมาติดตั้งเครื่องหมายและสัญญาณจราจรขึ้น ให้ถูกต้องถ้ามิได้ติดตั้งให้ถูกต้องแล้วเกิดความเสียหาย จำเลยที่ 2 ย่อม จะต้องรับผิดต่อผู้เสียหายด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2202/2520

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของเจ้าหน้าที่รัฐและหน่วยงานต่อความเสียหายจากอุบัติเหตุทางละเมิด
พลตำรวจขับรถวิทยุตำรวจทางหลวงทำละเมิดในการขับรถตามหน้าที่ ถือว่าเป็นผู้แทนกรมตำรวจและกรมทางหลวง ทั้ง2 กรมต้องร่วมรับผิดกับพลตำรวจด้วย
โจทก์หลายคนถูกจำเลยขับรถชนโดยประมาท โจทก์ฟ้องมาในคดีเดียวกัน โจทก์ที่ 5 เรียกค่าเสียหายไม่เกิน 50,000 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำเลยฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ ศาลฎีกาคืนค่าธรรมเนียมชั้นฎีกาสำหรับโจทก์ที่ 5 แก่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 466/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนกรมทางหลวงผูกพันตามราคาที่ปรองดอง แม้ขัดระเบียบภายใน
ในการจัดซื้อที่ดินเพื่อขยายถนนสุขุมวิทจากกรุงเทพฯ - ตราด ตอนศรีราชา - สัตหีบ กระทรวงพัฒนาการแห่งชาติได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการปรองดองเพื่อพิจารณาค่าทำขวัญให้แก่ เจ้าของทรัพย์สิน และที่ดินโดยให้มีอำนาจหน้าที่พิจารณาปรองดองค่าทำขวัญกับเจ้าของทรัพย์ และที่ดินเพื่อการก่อสร้างดังกล่าวได้ด้วย เมื่อต่อมาคณะกรรมการปรองดองชุดนี้ได้ตีราคาที่ดินในโซนที่ดินพิพาท เสนอกรมทางหลวง จำเลย ซึ่งเป็นราคาที่ดินปานกลาง และจำเลยเห็นชอบด้วยและอนุมัติให้ดำเนินการได้ จนโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินพิพาทกับผู้รับมอบอำนาจช่วงจากจำเลยได้ทำหนังสือสัญญาแบ่งขายที่ดินพิพาทกันตามราคาปานกลางดังกล่าว และคณะกรรมการปรองดองกับโจทก์ยังได้ทำบันทึกข้อตกลงยินยอมในเรื่องค่าทดแทนที่ดินพิพาทดังกล่าวนี้ไว้อีกด้วย ต้องถือว่า คณะกรรมการปรองดองเป็นตัวแทนของจำเลย จำเลยจึงต้องผูกพันตามนั้น จำเลยจะอ้างระเบียบการภายในมาปฏิเสธความผูกพันและความรับผิดไม่ได้ และการที่ผู้รับมอบอำนาจช่วงจากจำเลยได้ทำหนังสือสัญญาแบ่งขายที่ดินพิพาทกับโจทก์ไปก็มิใช่เป็นการฉ้อฉลหรือเกินกว่าขอบอำนาจที่จำเลยได้มอบหมายให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2591-2592/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจกรมทางหลวงในการปกครองและขับไล่ผู้บุกรุกที่ดินหลังสร้างทางเสร็จ แต่ยังบำรุงทาง
ที่ดินซึ่ง รมต. มหาดไทยประกาศหวงห้ามเพื่อก่อสร้างและบำรุงทางหลวงนั้น แม้การก่อสร้างทางเสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังระเบิดหินเพื่อบำรุงทางอยู่ยังไม่มีประกาศเพิกถอนการหวงห้ามตาม มาตรา37 พระราชบัญญัติทางหลวง ฉบับที่ 2 พ.ศ.2497มาตรา 8 กรมทางหลวงยังมีอำนาจปกครองและขับไล่ผู้เข้ามาอยู่ในที่ดินนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 23/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความละเมิด: การรับรู้ของตัวแทนกรมทางหลวง และขอบเขตอำนาจมอบหมาย
แม้เจ้าหน้าที่โจทก์จะได้รับแจ้งถึงการที่มีผู้ทำละเมิดต่อโจทก์ อายุความในเรื่องละเมิดยังไม่เริ่มนับจนกว่าอธิบดีกรมโจทก์ ซึ่งเป็นผู้แทนโจทก์ได้รู้ถึงการกระทำละเมิดดังกล่าวแล้ว
กรมมอบอำนาจให้ส่วนราชการอื่นแจ้งความกล่าวโทษผู้กระทำละเมิด แต่เมื่อมิได้มอบให้ติดตามเรียกร้องค่าเสียหายหรือดำเนินคดีฟ้องเรียกค่าเสียหายด้วย การที่ส่วนราชการผู้รับมอบอำนาจรู้เรื่องการกระทำละเมิด ไม่ถือว่ากรมรู้ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2538/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในละเมิดของนายจ้างจากการใช้รถของกรมทางหลวงฯตามคำขอ
ลูกจ้างกรมทางหลวงฯ ขับรถยนต์ของกรมทางหลวงฯไปรับเสด็จตามคำขอของนายอำเภอ ซึ่งนายช่างโครงการหัวหน้าศูนย์ของกรมทางหลวงฯอนุมัติ และผู้ขับรถประจำยอมให้ขับและนั่งไปด้วย ถือได้ว่าได้ใช้รถในทางการที่กรมทางหลวงฯจ้างนายจ้างต้องรับผิดในละเมิดของลูกจ้าง
of 2