พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 414/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบประเด็นหย่าและสินบริคณห์ ศาลชอบธรรมในการกำหนดลำดับสืบพยาน และจำเลยมีสิทธิสืบหักล้างข้อกล่าวอ้างเรื่องกรมธรรม์ปิดปาก
เมื่อคู่ความรับข้อเท็จจริงกันแล้ว ศาลกะประเด็นไว้ว่า. ประเด็นสำคัญมีอยู่ว่า. ผู้ตายกับจำเลยได้หย่าขาดจากกันหรือไม่. และทรัพย์ตามพินัยกรรมเป็นสินบริคณห์หรือไม่. ซึ่งประเด็นข้อแรกเป็นเรื่องที่โจทก์กล่าวอ้างขึ้นมาจึงเป็นหน้าที่โจทก์ต้องนำสืบให้ได้ความตามนั้น. ส่วนประเด็นว่าทรัพย์ตามพินัยกรรมเป็นสินบริคณห์หรือไม่.เป็นประเด็นขั้นที่สอง เมื่อโจทก์ต้องสืบประเด็นแรกซึ่งสำคัญก่อนแล้ว ศาลย่อมให้โจทก์สืบประเด็นข้อหลังด้วยในคราวเดียวกันได้.
จำเลยไปแจ้งขอรับมรดกต่อเจ้าหน้าที่อำเภอว่าที่นาพิพาทเป็นมรดกของผู้ตายซึ่งเป็นสามีจำเลยว่า. ที่นาพิพาทเป็นมรดกของผู้ตาย. ไม่ได้แจ้งว่าจำเลยมีส่วนเป็นเจ้าของอยู่ด้วย. และเจ้าหน้าที่ได้โอนให้จำเลยในทางมรดก. จำเลยย่อมนำสืบได้ว่าจำเลยขอรับมรดกส่วนของผู้ตายตามสิทธิจำเลย. หาใช่เป็นเรื่องกรมธรรม์ปิดปากไม่.
จำเลยให้การต่อสู้คดีว่า ที่พิพาทเป็นสินบริคณห์. ผู้ตายซึ่งเป็นสามีจำเลยไม่มีสิทธิเอาสินบริคณห์ส่วนของจำเลยไปทำพินัยกรรมยกให้โจทก์. เมื่อผู้ตายตาย. จำเลยจึงขอโอนรับมรดก. จำเลยย่อมนำสืบเพื่อแสดงว่าทรัพย์นั้นเป็นสินบริคณห์ได้.
จำเลยไปแจ้งขอรับมรดกต่อเจ้าหน้าที่อำเภอว่าที่นาพิพาทเป็นมรดกของผู้ตายซึ่งเป็นสามีจำเลยว่า. ที่นาพิพาทเป็นมรดกของผู้ตาย. ไม่ได้แจ้งว่าจำเลยมีส่วนเป็นเจ้าของอยู่ด้วย. และเจ้าหน้าที่ได้โอนให้จำเลยในทางมรดก. จำเลยย่อมนำสืบได้ว่าจำเลยขอรับมรดกส่วนของผู้ตายตามสิทธิจำเลย. หาใช่เป็นเรื่องกรมธรรม์ปิดปากไม่.
จำเลยให้การต่อสู้คดีว่า ที่พิพาทเป็นสินบริคณห์. ผู้ตายซึ่งเป็นสามีจำเลยไม่มีสิทธิเอาสินบริคณห์ส่วนของจำเลยไปทำพินัยกรรมยกให้โจทก์. เมื่อผู้ตายตาย. จำเลยจึงขอโอนรับมรดก. จำเลยย่อมนำสืบเพื่อแสดงว่าทรัพย์นั้นเป็นสินบริคณห์ได้.